ข่าว

ขออีก 20 วัน พิจารณาข้อบังคับการประชุมสภาฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กมธ. วิสามัญฯ ยกร่างข้อบังคับ ส.ส. ถกวุ่นประเด็น รมต. อ้างไม่ตอบข้อซักถาม ส.ส. ในสภาได้หรือไม่

 

               เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 มิ.ย. 62 ที่ ห้องประชุม ชั้น 4 อาคารรัฐสภา เกียกกาย มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณายกร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. .... ที่มี นายวิเชียร ชวลิต ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธาน ได้พิจารณายกร่างข้อบังคับการประชุมสภาฯ ต่อเนื่องจนถึงหมวด 3 ในเรื่องวิธีการประชุม โดยอาศัยข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2551 มาประกอบการพิจารณายกร่าง

 

 

 

               ทั้งนี้ ภาพรวม กมธ. บางส่วนมีการตั้งข้อสงวน กรณีการทำหน้าที่แทนประธาน เมื่อประธานและรองประธานฯ ไม่อยู่ทำหน้าที่ ซึ่งจากเดิมให้ใช้วิธีออกเสียงลงคะแนนเป็นการลับเลือกประธานเฉพาะคราว และต้องผ่านการแสดงวิสัยทัศน์นั้น เสนอให้เปลี่ยนเป็นการใช้วิธียกมือนับคะแนน ด้วยเหตุผลเพื่อให้การประชุมเดินหน้าต่อไปได้ง่าย ไม่เสียเวลา ขณะเดียวกัน ยังมีการตั้งข้อสงวน กรณีที่กำหนดให้การประชุมพิจารณาได้เฉพาะเรื่องที่มีอยู่ในวาระการประชุมเท่านั้น ให้แก้ไขว่า ควรสามารถเสนอเรื่องเร่งด่วน และเลื่อนระเบียบวาระที่มีอยู่ได้ตามความจำเป็น

               นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการถกเถียงในประเด็นที่รัฐมนตรีอาจไม่ตอบข้อซักถามในสภาก็ได้หากไม่ควรเปิดเผย เพราะเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือประโยชน์สำคัญของแผ่นดินนั้น ซึ่ง กมธ. บางส่วนเห็นว่ากรณีไม่ควรเปิดเผยเหล่านี้ ที่ประชุมมักกำหนดให้เป็นการประชุมโดยลับอยู่แล้ว จึงไม่ควรเขียนไว้อย่างกว้าง เพื่อให้รัฐมนตรีนำมาใช้อ้างไม่ตอบข้อซักถามได้ เพราะเมื่อรัฐมนตรีมานั่งในสภาแล้วก็ต้องเคารพสภาฯ ซึ่งมีหน้าที่ตอบข้อซักถามของ ส.ส. ขณะที่ กมธ. อีกส่วน เห็นว่าไม่ควรบีบบังคับให้รัฐมนตรีต้องตอบ เนื่องจากเป็นเอกสิทธิ์ และอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ หากตอบข้อซักถามไปเองโดยที่ไม่ได้รับความเห็นจากคณะรัฐมนตรีในเรื่องนั้นๆ ก่อน

 

 

 

               ขณะที่ กมธ. บางส่วน อาทิ นายอดิศร เพียงเกษ อดีต ส.ส. ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย และนายนิกร จำนง ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา เสนอว่า ในการเชิญผู้แทนองค์กรอิสระ และองค์กรตามที่กฎหมายกำหนดให้เข้าชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ ข้อบังคับเดิมระบุไว้เพียงว่า “เป็นผู้แทนมาชี้แจง” ซึ่งที่ผ่านมาเป็นการมาพูดในนามเจ้าหน้าที่ ไม่ได้พูดในนามองค์กร ทำให้ไม่มีน้ำหนัก และไม่ผูกพันกับองค์กร

               “เราเห็นว่าไม่ใช่ส่งใครมาก็ได้ หากส่งตัวแทนก็ให้ระบุมาเลยว่าเป็นผู้รับมอบอำนาจมา ที่พูดคือพูดในฐานะองค์กรนั้น ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูด ทุกอย่างคือทำการในฐานะองค์กรนั้นให้ชัดเจน มีหนังสือมอบอำนาจมาเลย ให้เป็นตัวแทนผู้มีอำนาจเต็ม เพื่อที่ตัวแทนที่มาจะได้ชี้แจงได้ รับผิดชอบได้ และรับเรื่องข้อเสนอแนะไปได้ ไม่ใช่รับแล้วบอกจะไปเสนออีกที” นายนิกร กล่าว
               อย่างไรก็ตาม ประเด็นต่างๆ ยังไม่ได้ข้อสรุป ประธาน กมธ. วิสามัญฯ จึงได้สั่งแขวนประเด็นดังกล่าวไว้เพื่อพิจารณา โดยให้คงตามร่างเดิมไว้ก่อน

               ต่อมาเวลา 13.00 น. ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษก กมธ. เปิดเผยว่า เพื่อให้การพิจารณาของคณะ กมธ. วิสามัญฯ เป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบ ที่ประชุมจึงมีมติขอขยายเวลาการพิจารณาออกไปอีก 20 วัน ซึ่งจะนำเรื่องการขอขยายเวลาเข้าไปเสนอขอมติจากที่ประชุมสภาฯ ในการประชุมวันที่ 26 มิ.ย. นี้ ทั้งนี้ ทาง กมธ. เห็นว่า หากพิจารณาประเด็นต่างๆ อย่างเร่งรีบ อาจส่งผลกระทบในภาพรวม ดังนั้น เพื่อให้ข้อบังคับการประชุมสภาฯ ออกมาอย่างสมบูรณ์ที่สุด การขอขยายเวลาการพิจาณาน่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้ว

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ