"มาดามเดียร์" รายงานตัวกกต.พร้อมพัฒนา "กีฬา"

        29 พ.ค.62 - ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อเวลา 10.00 น. "น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี" หรือ มาดามเดียร์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินมามารับหนังสือรับรอง จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ภายหลัง กกต.ประกาศรับรอง "น.ส.วทันยา" หรือ มาดามเดียร์ เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อด้วยคะแนน 27,861 เสียง หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 8 จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเดินทางมารับหนังสือรับรองจาก กกต.ตามขั้นตอน เพื่อนำไปรายงานตัว ส.ส.ที่สภาผู้แทนราษฎรต่อไป 
 

           โดย "น.ส.วทันยา" หรือ มาดามเดียร์ ได้กล่าวว่า รู้สึกดีใจ และตั้งใจว่าในการเข้ามา หน้าที่เป็นสสครั้งแรก ก็จะทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนให้ดีที่สุด ส่วนในเรื่องของงานการเมืองที่จะทำต่อไปนั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผู้ใหญ่ที่จะมอง แต่แน่นอนในความสนใจของตนนั้นก็สนใจทั้งในเรื่องเทคโนโลยีและการกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งครั้งหนึ่งตนก็เคยมีโอกาสเข้าไปทำงาน ในวงการกีฬา ดังนั้นจึงมีความตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานจุดนี้

           
           เมื่อถามถึงธุรกิสื่อที่เคยมีชื่อประกอบกิจการอยู่ แล้วมีความกังวลหรือไม่ว่าจะเหมือนกรณีของนายธนากรจึงรุ่งเรืองกิจหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ "น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี"  กล่าวว่า ไม่กังวล และคิดว่าไม่เป็นปัญหา เพราะไม่มีหุ้นอย่างแน่นอน ซึ่งก่อนที่จะเข้ามาสมัคร ส.ส แบบบัญชีรายชื่อของพรรค ต้นก็ได้ศึกษาข้อกฎหมาย มาอย่างครบถ้วนและชัดเจนเรียบร้อย แล้ว และในการดำเนินงานทุกๆอย่าง ของเราก็ศึกษากฎหมาย และปฏิบัติตามกฎหมายในทุกๆขั้นตอน อย่างละเอียดรอบคอบเป็นอย่างดี

           " วันนี้เราสมัครเข้ามาเป็น ตัวแทนของพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกคน มาเป็นตัวแทนของประเทศ ในเรื่องของ ขั้นตอนระเบียบด้านกฎหมาย เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ในฐานะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำเป็นจะต้องศึกษา ข้อกฎหมาย ให้ละเอียดรอบคอบและถูกต้องครบถ้วน โดยเดียร์เองก่อนที่จะเข้ามาทำงานตรงจุดนี้ ก็ได้ตามข้อปฏิบัติทั้งส่วนของตัวเอง รวมทั้งส่วนของสามี หรือครอบครัวก็ปฏิบัติ ตามขั้นตอนของกฎหมายให้ครบถ้วนในทุกๆกระบวนการ"
           เมื่อถามย้ำถึงการถือหุ้นธุรกิจสื่อ "น.ส.วทันยา" หรือมาดามเดียร์ กล่าวอธิบายว่า ก่อนหน้าที่จะมาสมัคร ส.ส. เคยมีหุ้นอยู่ แต่ตนก็ได้ทยอยขายหุ้นสื่อในทุกๆ บริษัท ที่ตนได้มีการถือหุ้น เสร็จสิ้นไปตั้งแต่ปลายปี 2561 ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.ก่อนจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค และมีรายชื่อลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ โดยตนก็มีเอกสารในการขายหุ้นยืนยันในทุกๆขั้นตอน

           เมื่อถามว่าเป็นกังวลหรือไม่ที่อาจจะหลุดจากบัญชีรายชื่อ หากมีการปนะกาศคะแนนใหม่อีกเนื่องจากมีชื่อในท้ายบัญชี "น.ส.วทันยา" กล่าวว่า ไม่เป็นกังวล โดยที่ผ่านมาตนก็เคยทำงานด้านกีฬามา ซึ่งวงการกีฬาสอนให้เรารู้จักแพ้รู้จักชนะ และที่สำคัญต้องรู้อภัย โดยสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าผลการคำนวณแบบบัญชีรายชื่อ จะคำนวณใหม่แล้วหัวหน้าออกมาเป็นอย่างไร เราก็พร้อมน้อมรับใกฎกติกาที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนในรัฐธรรมนูญฯ

           เมื่อถามถึงการจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วมของพรรคพลังประชารัฐ "น.ส.วทันยา" หรือมาดามเดียร์ ก็อย่างที่ปรากฏในข่าว ตอนนี้เท่าที่ทราบผู้ใหญ่เองก็อยู่ระหว่างขั้นตอนการเจรจากับพรรคที่เราอยากจะเชิญเข้ามาร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยเจรจากันในเรื่องนโยบาย ในการทำงานเพราะแต่ละพรรคเองก็มีนโยบายในการหาเสียงช่วงเลือกตั้งกับพี่น้องประชาชน แน่นอนการที่จะเข้ามาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเราก็คงต้องมีการพูดคุยกันว่าเราจะปรับจูนในเรื่องของนโยบายการทำงานว่าเราจะร่วมกันทำงาน ยังไรได้บ้าง โดยการจัดสรรตำแหน่งกระทรวงต่างๆ ก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ในทุกๆการจัดตั้งรัฐบาลก็ต้องมีขั้นตอนของการเจรจา
           เมื่อถามว่าคิดเห็นอย่างไร กรณีที่แกนนำพรรคก่อนหน้านี้ได้ออกมาระบุว่าให้มีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีก่อนแล้วจากนั้นจึงบริหารจัดการตำแหน่งรัฐมนตรี แต่หากตกลงกันไม่ได้ก็เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะตัดสินใจยุบสภาก็ได้นั้น

           "น.ส.วทันยา" กล่าวว่า จากที่ตนได้ติดตามการสัมภาษณ์ของนายณัฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่เห็นว่าในถ้อยคำที่นายณัฐพลให้สัมภาษณ์ ชี้ประเด็นไปจุดนั้น โดยคำสัมภาษณ์จริงๆ นายณัฐพล ค่อนข้างจะระบุชัดเจนด้วยซ้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานของพรรคประชาธิปัตย์นั้นก็อยู่ในขั้นตอนระหว่างที่เรามีการพูดคุย และที่สำคัญที่สุดทุกคนในพรรคพลังประชารัฐรู้สึกเหมือนกันว่าเราไม่อยากให้เดินไปถึงจุดนั้น เพราะว่าในการทำงาน เราอยากฟังเสียงจากพี่น้องประชาชนซึ่งนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด และเราอยากให้การจัดตั้งรัฐบาลรอบนี้มีเสถียรภาพ ดำเนินไปด้วยความราบรื่นที่สุด โดยเราไม่ประสงค์อย่างยิ่งที่จะให้การเลือกหรือการจัดตั้งรัฐบาลดำเนินไปจนถึงจุดนั้น
           เมื่อถามย้ำถึงความเป็นเสถียรภาพหากเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย  "น.ส.วทันยา" ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ของ พรรค พปชร. ระบุว่า ต้องอธิบายว่า ทนไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะตอบเรื่องนี้ได้แต่ว่าอย่างที่แกนนำพรรคได้ให้สัมภาษณ์ ไปแล้วว่า พรรคพลังประชารัฐเองก็จะ จะไปพูดคุยกับพรรคต่างๆที่ประสงค์จะเข้ามาร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะมีการพูดคุยและขั้นตอนการเจรจา โดย ทุกๆอย่างก็จะต้องเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอน ของพรรคพลังประชารัฐโดยทั้งหมดนี้เราก็อยากทำให้เสร็จสิ้น ก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หากดูจากเจตนารมย์ก็จะเห็นได้ชัดว่า เจตนารมณ์ของพรรคพลังประชารัฐ เราอยากให้การดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล เป็นไปด้วยความมีเสถียรภาพ