ข่าว

"แนวร่วมเพื่อการเลือกตั้งเป็นธรรม" ยื่น ป.ป.ช. สอย กกต.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"จ่านิว" พร้อมพวก หอบ 4พันรายชื่อ ยื่น "ป.ป.ช." ถอดถอน "กกต." อ้าง 11 พฤติการณ์ ส่อ ทุจริตต่อหน้าที่ จงใจใช้อำนาจขัด "รธน."

 

          วันที่ 8 พ.ค.62 เวลา 10.45 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป.ป.ช. นายสิรวิชย์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นายธนวัฒน์ วงค์ไชย แกนนำแนวร่วมประชาชนเพื่อการเลือกตั้งที่เป็นธรรม ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการป.ป.ช. เพื่อขอให้พิจารณาถอดถอนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ทั้ง 7 คน โดยนายสิรวิชย์ กล่าวว่า ขอให้ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนและมีความเห็นกรณีกกต. มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่และจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายหรือฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พร้อมกับได้นำเอกสารหลักฐานจำนวนมาก รวมทั้งนำรายชื่อผู้ร่วมร้อง 4,833 รายยื่นครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ มุ่งหวังให้ป.ป.ช. ดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็วและมีความเห็นแล้วมีมติ เพื่อยื่นต่อศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้ตัดสินต่อไป เราไม่ต้องการให้จบแค่ชั้นป.ป.ช. แต่ต้องการให้ไปถึงชั้นศาล

 

          นายธนวัฒน์ กล่าวว่า พฤติการณ์ที่ตรวจพบ 11 กรณี คือ 1.การที่วินิจฉัยให้ บัตรเลือกตั้งจากนิวซีแลนด์เป็นบัตรที่ไม่สามารถนับคะแนนได้ ทำให้สิทธิ์และเสียงของประชาชนไทยในนิวซีแลนด์ จำนวน 1,542 ใบ ไม่สามารถสะท้อนเจตจำนงได้ 2.การตรวจสอบกรณี ระดมทุนโดยจัดโต๊ะจีนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นไปด้วยความล่าช้าและเข้าข่ายเลือกปฏิบัติ เมื่อเทียบกับการดำเนินคดีพรรคการเมืองอื่นที่สามารถตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว 3. กรณีบัตรเขย่ง ที่มีบัตรเลือกตั้งหายไป 9 ใบและมีการจัดเลือกตั้งใหม่บางหน่วย ซึ่งการเลือกตั้งใหม่นั้นเป็นการเลือกตั้งที่รู้ผลอยู่แล้วจึงเข้าข่ายจะเป็นการเลือกตั้งโมฆะตามแนวทางวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ได้วินิจฉัยให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557 เป็นโมฆะ 

 

          นายธนวัฒน์ กล่าวว่า 4.จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ประธานกกต. แถลง ในวันที่ 24 มี.ค. กับวันที่ 28 มี.ค.ไม่ตรงกัน ก็อาจทำให้การเลือกตั้ง เกิดความไม่โปร่งใส 5.ดุลยพินิจในการวินิจฉัยบัตรดีและบัตรเสียของกรรมการประจำหน่วย มีความคลาดเคลื่อนและส่งผลให้การนับคะแนนเกิดปัญหาดังที่เราได้เห็นในการนับคะแนนใหม่เขต 1 จังหวัดนครปฐม จึงต้องการให้มีการตรวจสอบว่า กกต.กลาง ได้มีการวินิจฉัยในประเด็นนี้แล้วมีการแก้ไขหรือยัง 6.เอกสารประชาสัมพันธ์ของกกต. เกิดความผิดพลาดทำให้เกิดความเข้าใจและสำคัญผิดในตัวผู้สมัครบางราย เช่น การกรอกวุฒิการศึกษาผิดพลาด การจัดเรียงหน้าเอกสารผิดพลาด ทำให้เกิดความเข้าใจผิดของหมายเลขผู้สมัคร การกรอกชื่อของพรรคการเมืองของผู้สมัครคนนั้นผิดพลาด เอกสารประชาสัมพันธ์ผิดพลาดเช่นนี้ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและสำคัญผิดในตัวผู้สมัคร

 

          นายธนวัฒน์ กล่าวว่า 7.การพบบัญชีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่มีชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเป็นเด็กอายุ 7 ขวบ และผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว 20 กว่าปี อยู่ในบัญชีผู้มีสิทธิ์ทั้งที่เป็นผู้ไม่มีสิทธิ์ กรณีเช่นนี้อาจเกิดความไม่โปร่งใส 8.ความล้มเหลวในการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ที่มาเลเซีย ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพจนทำให้ประชาชนบางรายไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้ทัน 9.การนับคะแนนใหม่เขต1นครปฐม พบว่าการนับคะแนนของวันที่ 24 มี.ค. กับวันที่ 28 เม.ย.นั้นจำนวนผู้มีสิทธิ์ต่างกัน และเกิดความคลาดเคลื่อนในการนับคะแนนทั้งสองครั้ง อาจสะท้อนว่าเกิดความไม่โปร่งใส ในการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น 10.พฤติกรรมเลี่ยงตอบคำถามของกกต. โดยข้ออ้างว่าไม่มีเครื่องคิดเลข การจงใจไม่ตอบคำถามของนักข่าวกรณีที่มีชื่อเด็กและคนตายในบัญชีผู้มีสิทธิ์ การไม่ยอมเปิดเผยสูตรการคำนวณส.ส. บัญชีรายชื่อ ถือได้ว่าเป็นการจงใจปกปิดข้อมูลสาธารณะซึ่งขัดต่อจริยธรรมการปฏิบัติหน้าที่ของกกต. และ 11.กกต.ไม่ดำเนินการเอาผิดใดๆ กับผู้ที่ทำให้บัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรมาถึงล่าช้าจึงทำให้ยอดบัตรการลงคะแนนเสียงไม่ตรงกับผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งหรือบัตรเขย่งซึ่งถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ม.157

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ