ข่าว

นายกฯสั่ง กต. ติดตามปมทูต 12 ปท.สังเกตการณ์คดี "ธนาธร"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นายกฯสั่ง กต. ติดตามปมทูต 12 ปท.สังเกตการณ์คดี "ธนาธร" มองเจตนาคนเชิญ-คนมา ลั่นปัญหาไทยแก้กันเอง อย่าดึงต่างชาติมาขัดแย้ง หวั่นเปิดช่องคนไม่หวังดีแทรกแซง

          พล.อ. ประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวภายหลัง ประชุมคณะรัฐมนตรี  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มองการเชิญตัวแทนทูต 12 ประเทศ ร่วมสังเกตการณ์คดี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถือเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทยหรือไม่ ว่า ตนไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นตัวแทนทูตจริงหรือเปล่า ตอนนี้ให้กระทรวงการต่างประเทศติดตามอยู่ โดยพูดคุยกับเอกอัครราชทูตต่างๆ ตนไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง เพราะเราจำเป็นต้องอยู่ในโลกใบนี้เช่นเดียวกัน

         พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุด คือ เราปฏิบัติตามทุกอย่างในเรื่องของรัฐธรรมนูญไทย กฎหมายไทย ซึ่งทุกเรื่องเป็นเรื่องของกฎหมายทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นคดีเก่า คดีใหม่ รวมถึงเรื่องศาลทหารก็เกิดขึ้นมานานแล้ว และคดีนี้เกิดตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งระหว่างนั้นมีการใช้คำสั่งอยู่ แต่หลังจากนั้นเราได้มีการปลดล็อกไปแล้วคำสั่งนี้ แต่ในช่วงนั้นบ้านเมืองยังไม่สงบ ไม่เรียบร้อย ก็มีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษในช่วงนั้น และเมื่อเราปลดล็อกแล้ว และปรึกษาฝ่ายกฎหมายแล้ว ก็ไม่สามารถจะทำย้อนขึ้นไปข้างบนได้ เว้นแต่ว่าหลังจากนั้นมาก็ไม่เข้ากระบวนการศาลทหาร ซึ่งศาลทหารเรามีมาหลายสิบปี ไม่ได้มาตั้งใหม่สมัยรัฐบาลตนซึ่งก็จำเป็น สถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างนั้น

      “เรื่องของต่างประเทศก็ต้องคุยกันต่อไป ให้เขาเข้าใจในเรื่องประเด็นเหล่านี้ด้วย ก็ไม่อยากให้เอาอะไรมาพันกันไปมา ต้องมองวัตถุประสงค์คนที่เชิญ คนที่มา คนที่นำมา อะไรก็แล้วแต่ ผมไม่อยากให้คนไทยไปคล้อยตามมากนัก เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมของเราเอง ถ้าเราไม่เชื่อมั่นและยึดถือกระบวนการยุติธรรมของเรา มันก็เป็นโอกาสที่ใครจะแทรกแซงเข้ามา จะด้วยความหวังดีหรือไม่หวังดีก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็ต้องทำความเข้าใจกันต่อไป วันนี้อย่าไปขัดแย้งกับต่างประเทศเขาอีกเลย อยู่ที่คนของเราไปทำอะไรกันมา ฉะนั้นเรื่องอะไรที่เป็นของเราก็เป็นของเรา แก้ปัญหาของเราภายในประเทศให้ได้ก็แล้วกัน หากเป็นอย่างนี้อีกหน่อยต้องให้ต่างประเทศมาแก้ให้เราทุกเรื่องเลยหรืออย่างไร ทั้งที่มันเป็นเรื่องของเรา กฎหมายของเรา กระบวนการยุติธรรมของเรา เราต้องภูมิใจในความเป็นชาติของเรา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

      ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ไทยต้องเด็ดขาดกรณีนักการทูตแทรกแซงกิจการภายในประเทศ

       กรณีที่มีคณะทูตจากประเทศตะวันตกหลายประเทศส่งผู้แทนเข้าร่วมฟังการสอบสวนนายธนาธรต่อกรณีการกระทำความผิดอาญาตามกฎหมายอาญาของไทยถึงห้องสืบสวนสอบสวนนั้นเป็นการกระทำที่ไม่อาจรับได้เลยในฐานะประเทศเอกราช การกระทำของตัวแทนสำนักงานสถานทูตต่างประเทศเหล่านี้เป็นการกระทำที่ผิดวิสัยและผิดประเพณีทางการทูตอย่างร้ายแรง เพราะการกระทำความผิดที่นายธนาธรถูกล่าวหานั้น

    1) เป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมายอาญาของประเทศไทย

    2) เป็นความผิดที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ซึ่งเป็นกิจการภายในของไทยอย่างแท้จริง โดยหลักการที่ได้รับการรับรองจากสหประชาชาติและจรรยามารยาททางการทูตจะไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นโดยเด็ดขาด

    การที่บรรดาคณะทูตหรือชาวต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องหรือยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมภายในประเทศเช่นนี้ จึงถือได้ว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยและเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมอันเป็นกิจการภายในประเทศของไทยอย่างรุนแรงที่สุด ซึ่งบรรดานักการทูตเหล่านั้นย่อมตระหนักและทราบดีทั้งในฐานะนักการทูตมืออาชีพและโดยจรรยามารยาททางการเมืองระหว่างประเทศ ดังนั้น จึงเห็นว่ากระทรวงการต่างประเทศของไทยต้องตอบโต้การกระทำอันไม่สมควรและไม่เหมาะสมของบรรดานักการทูตเหล่านั้นอย่างรุนแรงกับการกระทำมากกว่าการเรียกมาชี้แจง เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มคนต่างชาติที่มีตำแหน่งทางการทูตเหล่านี้เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของเรา

     หลายครั้งแล้วที่นักการทูตกลุ่มนี้ไปปรากฎตัวเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับกลุ่มการเมืองกลุ่มนี้ ภาพมีปรากฎทั่วไป แต่ครั้งนี้เหิมเกริมถึงขนาดไปนั่งฟังการสอบสวน นับเป็นการกระทำที่รับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง

     รัฐบาลไทยจึงพึงต้องทำการสอบสวนให้ได้ความถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังของการกระทำของบรรดาคณะทูตดังกล่าวว่าเหตุใดนักการทูตเหล่านั้นจึงกล้ากระทำการที่ผิดจารีตประเพณีและมรรยาททางการทูตที่ร้ายแรงเช่นนั้น ว่ามีใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่ รวบรวมพฤติกรรมที่สะสมมาในการเข้ามาจุ้นจ้านกิจการภายในอย่างไร้ยางอายมีกรณีไหนบ้าง และประท้วงกลับไปยังผู้นำประเทศนั้นโดยทันที

     อีกด้านหนึ่งก็ต้องดำเนินการกับพวก “ชักศึกเข้าบ้าน”ที่เพียงกรณีนี้แต่อย่างเดียวก็ส่อให้เห็นวิธีคิดแล้วว่าให้น้ำหนักกับผลประโยชน์ชาติกับผลประโยชน์ตัวเช่นไร

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ