รายการต่างคนต่างคิด เลือกตั้ง 62 ดีเบตโค้งสุดท้าย พท.จับมือกับทุกพรรคที่ไม่เอาเผด็จการ ส่วน ปชป.ยันไม่จับมือ พท. ด้าน อนค. ไม่เอา พปชร.
รายการต่างคนต่างคิด เลือกตั้ง 62 ทางช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 วันนี้ (21 มี.ค.) ในการดีเบตโค้งสุดท้ายของตัวแทน พรรคการเมือง กับคำถามว่า ‘หากต้องจับมือกับพรรคอื่นเพื่อจัดตั้งรัฐบาล พรรคใดที่พร้อมจะร่วมมือด้วย และพรรคใดที่จะไม่ร่วมมือด้วย
"เพื่อไทย " พร้อมจับมือกับทุกพรรคที่ไม่เอาเผด็จการ
นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดทนายกฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทางพรรคมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะไม่ร่วมกับฝั่งเผด็จการ โดยพร้อมร่วมมือกับพรรคการเมืองที่มีจุดยืนเดียวกันอย่างชัดเจน พร้อมจับมือกับ พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งในหลาย ๆ นโยบายมีความใกล้เคียงกัน
สำหรับพรรคอื่น ๆ ยังมีบางนโยบายที่แย้งกันบ้าง แต่ถ้าหากอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน คิดว่าจะตกลงกันได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าจะไม่มีการจับมือกับ "พรรคพลังประชารัฐ" แน่นอน
"ทั้งนี้ในส่วนของการร่วมมือกับพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นอยู่กับจุดยืนของ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เคยออกมาบอกว่าไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่สามารถตกลงกับพรรคพลังประชารัฐได้ ซึ่งพลังประชารัฐนั้นชัดเจนว่าเป็นพรรคที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ นอกจากว่าพรรคพลังประชารัฐจะประกาศตัวไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์แล้วและพร้อมเข้ากับฝ่ายประชาธิปไตย ก็อาจที่จะคุยกันได้"
"ประชาธิปัตย์ " ไม่จับมือ "เพื่อไทย" -ร่วม"พลังประชารัฐได้" หากไม่มี "ประยุทธ์"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่ประชาธิปัตย์จะร่วมมือกับ พรรคเพื่อไทยได้ ซึ่งเรื่องนี้ทั้ง 2 พรรคก็เห็นตรงกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้มีประเด็นอะไรเป็นการส่วนตัว แต่เพราะทั้ง 2 พรรคมีจุดยืนที่แตกต่างกันมาอย่างยาวนาน การที่จะไปรวมตัวกันก็จะเป็นการทำให้ประชาชนสงสัยในอุดมการณ์ของนักการเมืองได้
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวในกรณีร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐ อีกว่า ก็อาจเป็นได้ เพราะเงื่อนไขอยู่ที่การสืบทอดอำนาจ หากไม่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีการสืบทอดอำนาจ ก็แสดงว่าสามารถทำงานร่วมกันได้ ถ้าพรรคพลังประชารัฐต้องยอมรับทิศทางนโยบาย และอุดมการณ์ของพรรค ในกรณีที่ประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
"อนาคตใหม่" ยันไม่จับมือกับ"พลังประชารัฐ"
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า อนาคตใหม่ มีจุดยืนในการตัดสินใจในการร่วมงานกับพรรคใดหลังการเลือกตั้ง ก็คือ อันดับหนึ่ง ซึ่งถือเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุด คือการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช. อันดับที่ 2 คือการแก้รัฐธรรมนูญ และอันดับที่ 3 คือการลบล้างผลพวงรัฐประหาร และยืนยันว่าจะไม่จับมือกับ พรรคพลังประชารัฐ แม้ทางพรรคพลังประชารัฐจะยอมรับเงื่อนไขของพรรคอนาคตใหม่ก็ตาม เพราะพลังประชารัฐคือพรรคที่ตั้งขึ้นมาเพื่อการสืบทอดอำนาจของคสช. ตั้งแต่การตั้งชื่อพรรคที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ การใช้อำนาจรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพรรค หรือการที่ผู้บริหารระดับสูงของพรรคเป็นรัฐมนตรีที่รับใช้รัฐบาลเผด็จการ ดังนั้นความเชื่อมโยงของพรรคพลังประชารัฐกับรัฐบาลเผด็จการนั้นชัดเจนไม่สามารถร่วมงานกันได้แน่นอน
" อยากให้พรรคการเมืองทุกพรรคมองว่าโซ่ตรวนที่พันธนาการประเทศไทยไม่ให้ก้าวไปข้างหน้าได้ คือการแทรกแซงการเมืองของกองทัพ อยากให้ทุกพรรคเปิดใจ ลดทิฐิ และร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งการทำรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจ คสช.ให้ได้ เป็นภารกิจที่จะต้องสร้างสังคมใหม่ให้คนรุ่นต่อไปที่จะไม่มีการทำรัฐประหารอีก"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง