ข่าว

5 พรรคการเมืองทำ"พันธะสัญญาลานโพธิ์"แก้ รธน.60 ถ้ามีปัญหา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 5 พรรคการเมือง"จับมือกับ "นักศึกษา" ทำ "พันธะสัญญาลานโพธิ์" หากเข้าสภาหลังเลือกตั้ง เดินหน้า แก้รธน. 60 ถ้ามีปัญหา

     วันนี้ ( 17 มี.ค.)  ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการจัดประชันวิสัยทัศน์ของผู้นำพรรคการเมือง โดยมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา  ,คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯและประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ , นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่

    ‘สุวัจน์’แนะ สร้างภูมิคุ้มกันรัฐประหาร มีปัญหาต้องจบในสภา

    นายสุวัจน์ กล่าวว่า  ตนอยู่ในการเมืองมา 20 ปี เห็นการรัฐประหารมา 3 ครั้ง ในปี 2534, 2549 และ 2557 เพราะบางครั้งพรรคการเมืองไม่ช่วยกันบริหารจัดการให้ดี เมื่อมีปัญหาไม่ชอบจบกันในสภา ชอบนำปัญหาออกมานอกห้องประชุม หลายครั้งเมื่อพรรคการเมืองขาดความร่วมมือ ขาดมิตรภาพ จึงทำให้เสถียรภาพต่ำ ภูมิคุ้มกันจึงบกพร่องทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นมา นี่จึงเป็นที่มาทำให้พรรคชาติพัฒนา ต้องชู ”โน พรอบเบลม” จะทำงานการเมืองแบบนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะและรู้อภัย เล่นการเมืองแบบเพื่อนฝูงกัน พรรคชาติพัฒนาจะพยายามเป็นส่วนหนึ่งทำให้การเมืองมีเสถียรภาพ และจะไม่เป็นต้นเหตุให้การรัฐประหารเกิดขึ้นอีก

       “ผมเชื่อว่าจุดยืนของทุกพรรคคงเหมือนกัน ไม่มีใครอยากเห็นการรัฐประหาร ที่ผ่านมาเมื่อเกิดขึ้นในแต่ละครั้งมันกระทบความเชื่อมั่นในทางเศรษฐกิจ เพราะไม่เป็นสากล เมื่อรัฐบาลไม่ประชาธิปไตยการลงทุนจะมีผลกระทบ ดังนั้น หากเราสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้โรคแทรกซ้อนเกิดขึ้น ข้ออ้างต่างๆ ที่จะทำให้เกิดการรัฐประหารก็จะคงขาดความชอบธรรมจากประชาชน” นายสุวัจน์กล่าว

        อย่างไรก็ตามเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญนั้น แต่ละพรรคมีวิธีแตกต่างกันไป อย่างนายสุวัจน์  เสนอแบบมีเงื่อนไข ทำนองว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นของใหม่ ที่ยังไม่เคยใช้อย่างครบถ้วน แต่หากบังคับใช้แล้ว พบว่าอะไรที่เป็นปัญหา หรืออุปสรรคในทางปฎิบัติ ก็เป็นเรื่องที่สามารถเสนอให้มีการแก้ไข ตามกระบวนการขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญได้

        “สุดารัตน์”ขอให้ทุกพรรคศรัทธาในระบอบปชต.-อย่ากวักมือเรียกทหาร

        คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า  สิ่งที่รัฐประหารทุกครั้งอ้าง คือ เรื่องนักการเมืองโกงทุกครั้ง แต่จบที่เราเห็นทหารที่มารัฐประหารโกงด้วย วันนี้พรรคการเมืองต่างๆต้องเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย และระบอบรัฐสภาอย่างแท้จริง

         “วันนี้ยังไม่เห็นพรรคใดไม่มีคดีเลย แต่ถ้าเราศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนจะเป็นคนตัดสิน อย่าไปกวักมือเรียกทหารเข้ามา อยู่ให้ครบเทอม แล้วประชาชนจะตัดสินเอง ถ้าการรัฐประหาร ทำให้ประเทศเจริญ ประเทศไทยน่าจะเจริญที่สุดเพราะรัฐประหารบ่อยมาก”   

        คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า  สำหรับพรรคเพื่อไทย มุ่งมั่นตั้งใจให้ระบอบประชาธิปไตยเดินได้อย่างแท้จริง สงบบนเศรษฐกิจที่ดี ดังนั้น คนที่ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งต้องจริงจัง หากผลการเลือกตั้งออกมาไม่น่าเชื่อถือ ประเทศไทยไปไม่ได้ วันนี้เป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะต่อต้านการกลับมาของอำนาจเผด็จการ และพล.อ.ประยุทธ์ ด้วยการออกมาเลือกตั้งให้ถล่มทลาย พรรคเพื่อไทย ชัดเจนว่า ไม่เอาทั้งพล.อ.ประยุทธ์ และพรรคพลังประชารัฐ

       “ เราต้องเรียกร้องให้ส.ว. 250 คน ฟังเสียงประชาชน ไม่ใช่ฟังเสียงลุงที่เลือกมา แล้วเอาสิ่งที่หมกไว้ในรัฐธรรมนูญมาพูดคุยกัน มาพูดให้ประชาชนรับฟัง เพื่อให้เกิดความเข้าใจในเนื้อหารัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยแล้วแก้รัฐธรรมนูญ จะแก้ปัญหาได้ถาวร คือการแก้รัฐธรรมนูญให้คนที่ออกมารัฐประหาร ไม่มีสิทธิออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ตัวเอง”

        คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึง นโยบายโค้งสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ว่า เราไม่ลดแลก ที่เราเสนอขึ้นเงินเดือนปริญญาตรี 18,000 บาทก็อยู่ในแผนการเติมกำลังซื้อให้คนที่เป็นฐานใหญ่ของประเทศโดยการเติมเงินให้เกษตรกร และแรงงาน เพราะค่าครองชีพปรับขึ้นตลอด รายจ่ายมาก แต่รายนับไม่พอ เราจึงต้องปรับฐานให้เขาอยู่ได้เพื่อให้เขาจับจ่าย เราพูดอยู่บนฐานของเรา ไม่ได้เกทัพ หรือแข่งที่ตัวเลข เราจะสร้างรายได้ เติมในกระเป๋าให้ฐานรากของประเทศ ทั้งนี้ ในปี 55 เราทำมาแล้วที่เพิ่มค่าแรงเป็น 300 บาท และปริญญาตรี 15,000 บาท ครั้งนี้ เราก็จะขึ้นเป็นขั้นเป็นตอน และไม่ทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อน ต้องมีการมาพูดคุยกัน ไม่ใช่ปรับขึ้นโดยทันที ส่วนนายจ้างเราจะมีมาตรการลดภาษีเงินได้ และลดภาษีน้ำมันให้ ตอนปี 55 ก็มีคนดูถูก แต่สุดท้ายคนก็ออกมาสนับสนุน อย่างไรก็ตาม ในโค้งสุดท้าย เรามองเรื่องการแก้หนี้ด้วยรายได้ ส่วนแคมเปญเรายังออกไม่หมด กำลังทยอยออก อย่างเรื่องหวยบำเหน็จ เป็นต้น

          ‘อภิสิทธิ์’ เตือน 250 ส.ว. อย่าทำงานเป็นตัวแทนของคนที่ตั้งมา

        นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า เงื่อนไขที่จะทำไม่ให้ประเทศนำไปสู่รัฐประหาร และประชาธิปไตยไม่ล้มเหลวอีกนั้น จะต้องมี 3 เงื่อนไข คือ 1.พรรคการเมืองทุกพรรค ต้องแข่งขันการเลือกตั้งโดยยึดหลักเสรีเป็นธรรม ไปจนถึงวันที่ 24 มีนาคมนี้ พรรคการเมืองจะต้องทำอะไรที่เป็นส่วนรวม อะไรก็ตามที่จะทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นที่ยอมรับก็อย่าทำ

          นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า 2.ส.ว. 250 คน ที่มาตามรัฐธรรมนูญ ได้เข้ามามีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรีในสภาด้วยก็จริง แต่ ส.ว.ต้องเคารพสิทธิและเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ การจัดตั้งรัฐบาลควรเคารพเสียงข้างมากหรือเสียงส่วนใหญ่ที่มาจากการเลือกตั้ง ตนขอเรียกร้องให้ ส.ว.เคารพเจตนารมณ์ของประชาชน เคารพเสียงข้างมากที่มาจากการเลือกตั้ง ขอให้ทำหน้าที่เป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทยตามที่รัฐธรรมนูญระบุไว้ ไม่ใช่ทำหน้าที่เพื่อเป็นตัวแทนของคนที่แต่งตั้งท่านมา และ 3.เมื่อได้รัฐบาลแล้ว รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งต้องไม่ใช้อำนาจในทางที่ไม่ดี และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งต้องยอมรับการตรวจสอบถ่วงดุล

        ‘ธนาธร’ ลั่น หมดยุคประชาชนตายฟรีบนถนน 

       นายธนาธร กล่าวว่า หลังปี 2535 มีวาระก้าวหน้าเยอะมากที่ถูกบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ 2540 แต่ยกเว้นเรื่องการปฏิรูปกองทัพ รอบนี้จึงลืมไม่ได้ เพื่อเป็นการหยุดยั้งการรัฐประหาร ต้องต่อต้านการสืบทอดอำนาจ ไม่ใช่แค่พล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น แต่รวมถึงคสช. และพรรคการเมืองที่สืบทอดอำนาจ ล้มล้างมรดกคสช. แก้ไขมาตรา 279 ของรัฐธรรมนูญ จำกัดวัฒนธรรมที่เป็นโรคร้ายของสังคมไทย คือ การปล่อยให้คนผิดลอยนวล ที่ทำให้คนยิงคนตายกลางถนนไม่ต้องรับผิด ต้องมีคณะกรรมการค้นหาความจริง

     “ ถ้ามีคนยิงเสือดำตาย บอกอย่าเอาผิดเลย คุณยอมรับได้หรือไม่ เรายอมกันมามากแล้ว การยืนยันเรื่องที่ถูกต้อง กลายเป็นเรื่องผิดอย่างนั้นหรือ กุญแจที่จะทำให้เกิดความวุ่นวาย ไม่ใช่ประชาชนที่เรียกร้อง แต่ต้นตอของความวุ่นวายคือ คนที่เอาอำนาจประชาชนไปแล้วไม่ยอมคืน”

       นายธนาธร กล่าวอีกว่า หากมีการรัฐประหารอีก จะต้องมีการใช้ hate speech ให้ประชาชนเกลียดชังกัน กล่าวหาว่านักการเมืองทุจริต สร้างปีศาจขึ้นมาเพื่อหวังรองรับความชอบธรรมของรัฐประหาร อย่างแรกที่จะต้องต้านคือเฮทสปีชก่อน เพื่อไม่ให้มีข้ออ้าง แต่อาจจะมารูปแบบอื่นเป็นรัฐประหารเงียบ อย่างส.ว.ที่พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งมา เพื่อวนกลับมาตั้งพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯอีก อาจมีตุลาการภิวัฒน์ ยุบพรรคการเมืองอีก องค์กรอิสระก็ต้องปรับให้ยืนหยัดในหลักนิติรัฐให้ได้

         “เมื่อถึงจุดนี้ถ้าป้องกันไม่ได้ รัฐประหารเกิดขึ้นอีก พูดกันให้ชัดตรงนี้ เนติบริกรที่ไม่มีจรรยาบรรณ จะต้องบอกว่า รัฐประหารเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ก็ให้ส.ส. 500 คน นัดเปิดประชุมสภาเลย เพื่อยืนยันว่า รัฎฐาธิปัตย์ ยังอยู่ในสภา ถามว่ารัฏฐาธิปัตย์ที่ยึดอำนาจมาจะทำอย่างไร ที่ผ่านมา พรรคการเมืองไม่สู้ ปล่อยให้ประชาชนสู้อยู่ฝ่ายเดียว แต่ครั้งนี้พรรคการเมือง นำโดยอนาคตใหม่จะสู้ ยืนยันว่า รัฎฐาธิปัตย์จะอยู่ที่สภา คณะรัฐประหารจะยิง 500 ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งหรือไม่ ผมตั้งพรรคก็เตรียมตัวมา จะกล้ายิงคุณหญิงสุดารัตน์ นายอภิสิทธิ์ นายธนาธรหรือไม่ ถ้าเรายังยืนยันแบบนี้ ดูซิจะจัดการอย่างไร เมื่อเราต่อสู้อย่างสันติวิธีในสภา ไม่ให้ประชาชนลงไปตายฟรีบนถนนอีก” นายธนาธร กล่าว

        ‘มิ่งขวัญ’ทำนาย คนออกเลือกตั้ง”มืดฟ้ามัวดิน”

         นายมิ่งขวัญกล่าวว่า ตนมี 2-3 ข้อ คือ 1.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติมาแล้ว เราต้องเคารพกติกา 2.ถามความรู้สึกตนก็ต้องบอกว่า ตนไม่ชอบเลย และ 3.ตนลงเลือกตั้ง หากตนเข้าไปอยู่ในสภาสิ่งที่เราต้องเผชิญคือ การไปต่อไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญบีบให้ไปต่อไม่ได้ และต้องแก้ในที่สุด ทั้งนี้ เป็นการรัฐประหารที่ประชาชนจะเข็ดไปอีกนาน การเลือกต้ังล่วงหน้าทำให้เห็นว่าประชาชนโหยหาประชาธิปไตย และขอให้ทุกคนดูปรากฎการณ์วันที่ 24 มีนาคมนี้ ที่ประชาชนจะออกมาเลือกตั้งแบบมืดฟ้ามัวดิน เพราะประชาชนไม่มีจะกิน เขาจึงต้องออกมา ถ้าได้รัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตยแล้วเกิดการทุจริตก็จะเกิดปรากฎการณ์แบบเดิมที่คนออกมาเดิน แต่ถ้าได้รัฐบาลที่มาจากการต่อท่ออำนาจ คนก็จะออกมาเดินอีก ตนอยากให้ทุกคนเดินหน้าสู่การเลือกต้ังวันที่ 24 มีนาคมนี้อย่างมีความสุข แล้วรอดูผล

       นายมิ่งขวัญกล่าวอีกว่า ตนไม่เอารัฐประหาร และตนเลือกระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข วันแรกที่ย้อนกลับมาทำการเมืองเพราะมีข่าวว่าจะไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ ดังนั้น จึงต้องออกมาแถลงว่าไม่ไปอยู่

     นายมิ่งขวัญ กล่าวถึงนโยบายโค้งสุดท้ายว่า พรรคไม่ได้เสนอขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเลย และเราพูดว่าถ้าขืนขึ้นเงินแบบนี้เยอะๆ ถามว่าใครรวย ถามจริงๆ ใครรวย มีเจ้าสัว 10 กว่าคนเท่านั้นที่รวยขึ้น แล้วคนตาดำๆ ไปไหน ถ้าท่านขึ้นค่าแรงขนาดนั้นจะเกิดเงินเฟ้อ ขึ้นได้ถึงสามร้อยเศษๆ เท่านั้น เพราะไม่เช่นนั้นการลงทุนจะไหลไปสู่ประเทศที่ค่าแรงต่ำหมด ดังนั้น ท่านต้องลดค่าครองชีพ โดยเราเสนอให้ลดส่วนต่างค่าน้ำมัน และต้องลดค่าไฟ เพื่อให้เงินเข้าไปอยู่ในกระเป๋าทันที

     นายมิ่งขวัญ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เราทิ้งคนไว้ข้างหลังไม่ได้ ดังนั้น ต้องสนับสนุนการท่องเที่ยวเพื่อนำเงินเข้าประเทศ 2 ล้านล้านบาท และต้องเป็นประเทศสินค้าปลอดภาษี การค้าขายออนไลน์ ทุกแอพพลิเคชั่นต้องเป็นของคนไทย ทั้งนี้ ใครเป็นนายกฯ หรือใครเป็นรัฐบาล ตนไม่หวงความคิดนี้ อย่างไรก็ตาม ถ้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ได้ร่วมรัฐบาลไม่ขอมาก ขอแค่กระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมด แล้วศูนย์กลางทางการเมืองของเอเชียต้องเกิด ได้เวลาของความมั่งคั่งแล้ว

       5 พรรคการเมืองจับมือกับ นักศึกษาทำ พันธะสัญญาลานโพธิ์หากเข้าสภาหลังเลือกตั้ง เดินหน้า แก้รธน. 60 ถ้ามีปัญหา

     ทั้งนี้ ช่วงท้ายของการประชันวิสัยทัศน์เปิดให้นักศึกษาที่เข้ารับฟังร่วมซักถาม โดยคำถามสุดท้ายถามว่า เมื่อเข้าไปในสภาหลังเลือกตั้งแล้ว จะมีเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 ที่เป็นอุปสรรคของประเทศหรือไม่ ซึ่งตัวแทนทุกพรรคต่างยืนยันว่า จะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญถ้ามีปัญหา พร้อมทั้งลุกขึ้นยืนร่วมประสานมือกันทั้ง 5 ราย และนักศึกษาผู้ถามคำถามอีก 1 รายรวมเป็น 6 รายเพื่อเป็นพันธะสัญญาลานโพธิ์

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ