ข่าว

ตร.ตรึงกำลังเข้มรอบศาลรธน.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจ 6 กองร้อย ตรึงกำลังรอบศาลรธน. พร้อมรับมือวันอ่านคำวินิจฉัยยุบ ทษช. ด้านกลุ่มคนอยากเลือกตั้งรวมตัวไม่เกิน 30 คนร่วมลุ้น ยันหลีกเลี่ยงไม่กระทำละเมิดศาล

 

                      6 มีนาคม  2562  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้จัดเตรียมความพร้อมของสถานที่ในการอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช. )ในวันที่ 7 มี.ค.นี้ เวลา 15.00 น.  

 

                      ซึ่งการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ได้สงวนสิทธิการเข้าฟังการอ่านคำวินิจฉัยในห้องพิจารณา แต่ได้เตรียมการถ่ายทอดสัญญาณจากห้องพิจารณามาที่จอโทรทัศน์วงจรปิดที่จะติดตั้ง 3 จุด จุดแรกเป็นห้องสื่อมวลชน 1 จอ จุดที่ 2 โถงด้านหน้าติดกับประตูห้องสื่อมวลชน 3 จอ และจุดที่ 3 เป็นจอขนาดใหญ่บริเวณลานกิจกรรมของศูนย์ราชการอาคารเอ ซึ่งได้เตรียมให้ประชาชนที่สนใจสามารถรับชมการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

 

ตร.ตรึงกำลังเข้มรอบศาลรธน.


                      สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในศาลรัฐธรรมนูญนั้น เป็นไปอย่างเข้มข้นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความปลอดภัย 900 นาย หรือ 6 กองร้อย และประสานหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) พร้อมสุนัขตำรวจ ที่จะเข้ามาตรวจความเรียบร้อย โดยพื้นที่ชั้นในของศูนย์ราชการเจ้าหน้าที่ได้นำรั้วเหล็กมากั้นเป็นแนวตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญไปจนถึงฝั่งศาลฎีกา ส่วนบริเวณด้านนอกอาคารก็นำรั้วเหล็กมาปิดกั้นตลอดแนวเช่นกัน สำหรับกำลังตำรวจได้ทยอยเข้าประจำจุดตั้วแต่ช่วงบ่าย โดยแบ่งกำลังตรึงพื้นที่ทั่วบริเวณศูนย์ราชการอาคารเอ และมีการตั้งเต้นท์จุดตรวจรวม 4 จุด ขณะที่กองตำรวจสื่อสารได้นำอุปกรณ์สื่อสารพร้อมรถโมบายมาติดตั้ง         

 

 

         

   ตร.ตรึงกำลังเข้มรอบศาลรธน.

     

                    สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ที่จะเข้าออกศาลรัฐธรรมนูญ ต้องติดบัตรแสดงตน โดยศาลจะอนุญาตให้ใช้เข้า-ออกช่องทางเดียวคือประตูฝั่งลานกิจกรรมของอาคารเท่านั้น. ขณะที่สื่อมวลชนและบุคคลภายนอกจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามายังพื้นที่ชั้นในของศาลรัฐธรรมนูญ ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมซึ่งอยู่ติดกับศาลรัฐธรรมนูญ ก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่แขวนบัตรแสดงตนและใช้ยืนยันก่อนเข้ามาในบริเวณศูนย์ราชการเช่นกัน

 

ตร.ตรึงกำลังเข้มรอบศาลรธน.


                      ทางด้านนายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือฟอร์ดเส้นทางสีแดง แกนนำกลุ่มประชาชนอยากเลือกตั้ง เปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้(7 มี.ค.)เวลาประมาณ 12.00น. กลุ่มประชาชนคนอยากเลือกตั้งประมาณ 20-30 คน จะเดินทางมาร่วมรับฟังคำวินิจฉัยคดีกกต.ยื่นยุบพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) โดยกลุ่มพวกคนจะนัดหมายใส่เสื้อสีเป็นสัญลักษณ์กลุ่มเท่านั้น แต่ไม่มีการถือป้ายข้อความใด ๆ เพราะเกรงว่าจะเสี่ยงต่อการทำผิดละเมิดศาล


                      ทั้งนี้คดีดังกล่าวคณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาว่าการเสนอชื่อแคนดิเนตนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักชาติเข้าข่ายกระทำการเป็นปฎิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเป็นเหตุให้ต้องยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติทั้ง 14 คน ตามมาตรา 92 พ.ร.ป.พรรคการเมือง หรือไม่ และได้คำร้องนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 13 ก.พ. ซึ่งศาลก็ได้มีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยเมื่อวันที่ 14 ก.พ.

 

ตร.ตรึงกำลังเข้มรอบศาลรธน.

 

                      พร้อมกับสั่งให้พรรคไทยรักษาชาติยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 7 วัน ซึ่งทางพรรคไทยรักษาชาติก็ได้ยื่นคำชี้แจงต่อศาลในวันที่ 20 ก.พ.โดยต่อสู้ใน 3 ประเด็นใหญ่คือ 1.การยื่นเสนอชื่อแคนดิเนตนายกรัฐมนตรีของพรรคมีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่มีเจตนาพิเศษใดและเป็นไปตามความประสงค์และความยินยอมจากผู้ได้รับการเสนอชื่อ2.การยื่นยุบพรรคโดยกล่าวหาว่าพรรคกระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองฯของกกต.นั้นเป็นตีความที่ผิดไปจากความเป็นจริงและ 3. การพิจารณามีมติของกกต.ไม่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

 

                      โดยหลังรับคำชี้แจงของพรรคไทยรักษาชาติแล้วก็ได้มีการส่งคำชี้แจงดังกล่าวให้กับกกต.ได้แก้ข้อกล่าวหาของพรรคไทยรักษาชาติ ก่อนที่ศาลจะมีการประชุมในวันที่ 27 ก.พ. โดยศาลได้ตรวจสอบพยานหลักฐานของคู่กรณีและผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งได้มีการอภิปรายเพื่อนำไปสู่วินิจฉัยโดยเห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยจึงไม่ทำการไต่สวน และกำหนดประเด็นที่ต้องพิจารณาวินิจฉัยพร้อมนัดที่จะวินิจฉัยในวันที่ 7 มี.ค.

 

ตร.ตรึงกำลังเข้มรอบศาลรธน.

                      อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 7 มี.ค. ก่อนการอ่านคำวินิจฉัย เวลา 15.00 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีประชุมเพื่อแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือและลงมติในเวลา 13.30 น. และนำมติมายกร่างเป็นคำวินิจฉัยที่จะอ่านให้กับคู่กรณีได้รับทราบ ซึ่งก็มีรายงานว่า ในส่วนกกต.นั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองที่ได้รับมอบอำนาจจากกกต.ให้เป็นผู้ยื่นคำร้องจะเดินทางไปรับฟังคำวินิจฉัยด้วยตนเอง เช่นเดียวกับ นายปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติก็จะเดินทางไปพร้อมกับนายจาตุรนต์ ฉายแสง และแกนนำพรรคอีกส่วนหนึ่งสำหรับผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น

 

                      หากวินิจฉัยไม่ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ก็จะสามารถรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งได้ปกติ ผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 176 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 108 คน ยังคงเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง แต่จะไม่มีแคนดิเนตนายกรัฐมนตรีของพรรคไปเสนอต่อประชาชนแต่หากถูกวินิจฉัยสั่งยุบพรรค จะมีผลให้ผู้สมัครทั้งหมดขาดคุณสมบัติในการลงสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.กำหนดว่าผู้สมัครต้องสังกัดพรรคการเมืองเดียวไม่น้อยกว่า 90 วัน ขณะเดียวกันกรรมการบริหารพรรคทั้ง 14 คน ก็จะถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งในกฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ว่านานเท่าใด

 

ตร.ตรึงกำลังเข้มรอบศาลรธน.

 

                      ขณะเดียวกันศาลปกครองกลางได้มีหมายแจ้งไปยังนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ กรณีเมื่อวันที่ 1มี.ค. นายเรืองไกรได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำฟ้องของตนที่ขอให้วินิจฉัยว่ามติยุบพรรคไทยรักษาชาติของกกต.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยศาลปกครองกลางนัดฟังคำสั่งศาลปกครองสูงสุดว่าจะรับคดีดังกล่าวไว้พิจาณาหรือไม่ในวันพรุ่งนี้ เวลา 08.30 น.นายเรืองไกร กล่าวว่า ประเด็นที่ยื่นที่ศาลปกครองเป็นการโต้แย้งพิจารณาสั่งยุบพรรคทษช.ไม่ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย หากในวันพรุ่งนี้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งรับคำฟ้องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยก็จะนำคำสั่งดังกล่าวไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ระงับการพิจาณาลงมติในคำร้องยุบพรรคไทยรักษาชาติไว้ จนกว่าศาลปกครองจะพิจารณาคำร้องของตนเสร็จสิ้น

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ