ข่าว

อัยการฟ้องแล้ว "9 แกนนำคนอยากเลือกตั้ง" อีกสำนวน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลนัดตรวจหลักฐานคดี "9 แกนนำเลือกตั้ง" ชุด ARMY57 เช้า 13 พ.ค. "โบว์-โรม" ทุกอย่างหวังยุติธรรม ส่วน "เอกชัย หงส์" รอฟ้อง 15 มี.ค.นี้

 

          6 มี.ค.62 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 13.30 น. พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายกาณฑ์ หรือ ศศิพัฒน์ พงษ์ประภาพันธ์ นักศึกษาคณะศิลปะศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ อายุ 24 ปี จำเลยที่ 1 ,นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว อายุ 24 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง , นายรังสิมันต์ โรม อายุ 25 ปี ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.), น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา อายุ 39 ปี วิทยากรอิสระ, นายธนวัฒน์ พรหมจักร อายุ 20 ปี , นายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ อายุ 41 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง,นายอานนท์ นำภา อายุ 33 ปี อาชีพทนายความ, นายปกรณ์ อารีกุล อายุ 28 ปี โฆษกพรรคสามัญชน และน.ส.ศรีไพร นนทรีย์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิต อายุ 47 ปี ทั้งหมดเป็นแกนนำคนอยากเลือกตั้งชุด ARMY57 เป็นจำเลยที่ 1-9 ในความผิดฐาน ยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 มาตรา 4 วรรคแรก, พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มาตรา15,16 และ พ.ร.บ.การจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 108,114

 

อัยการฟ้องแล้ว "9 แกนนำคนอยากเลือกตั้ง" อีกสำนวน

 

          โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 19 มี.ค.61 น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย(DRG) พวกของจำเลยได้มีหนังสือแจ้งการชุมนุมสาธารณะต่อ ผกก.สน.ชนะสงคราม โดยระบุผู้ชุมนุมประมาณ 800 คน ซึ่งจะรวมตัวกันในวันที่ 24 มี.ค.61 ที่สนามฟุตบอล ม.ธรรมศาสตร์ และจะเคลื่อนขบวนไปยังหน้ากองทัพบกผ่านถนนราชดำเนิน โดยใช้ยานพาหนะและเครื่องขยายเสียง 1 คัน กระทั่งถึงวันชุมนุมที่ 24 มี.ค.61 เวลา 16.00 น.นายรังสิมันต์ จำเลยที่ 3 ได้อ่านแถลงการณ์เปิดการปราศรัยใน ม.ธรรมศาสตร์ โดยมีนายกาณฑ์ จำเลยที่ 1 เป็นพิธีกรดำเนินรายการ โดยมีจำเลยที่เหลือผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัย 

 

          กระทั่งเวลา 17.00 น.เศษ จำเลยกับพวกมวลชนประมาณ 350 คนได้เคลื่อนขบวนจาก ม.ธรรมศาสตร์ไปกองบก.ทบ.โดยใช้รถที่ติดเครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้า ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานที่มีอำนาจ โดยระหว่างการจัดชุมนุมดังกล่าว นายสิรวิชญ์ หรือจ่านิว จำเลยที่ 2 , นายรังสิมันต์ จำเลยที่ 3 , น.ส.ณัฏฐา หรือโบว์ จำเลยที่ 4,นายโชคชัย จำเลยที่ 6 , นายอานนท์ จำเลยที่ 7 ที่เป็นผู้จัดการชุมนุมไม่ได้ดูแลให้ผู้ชุมนุมไม่กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งระหว่างการเคลื่อนขบวนชุมนุม ไปบนถนนราชดำเนินที่เป็นทางสาธารณะนั้น ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนและการชุมนุมนั้นก็ได้เกินเวลาที่แจ้งไว้คือ 18.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้ผู้ชุมนุมทราบตลอดทางว่าการเคลื่อนขบวนชุมนุมดังกล่าวผิดต่อ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 แต่พวกจำเลยก็ไม่ให้ความร่วมมือแล้วกลับปลุกระดมมวลชน ซึ่งระหว่างเคลื่อนขบวนก็มีนายกาณฑ์ จำเลยที่ 1 , นายโชคชัย จำเลยที่ 6 , นายอานนท์ จำเลยที่ 7, นายปกรณ์ จำเลยที่ 8 , น.ส.ศรีไพร จำเลยที่ 9 และนายเอกชัย หงส์กังวาน ที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง กล่าวปราศรัยโจมตีรัฐบาล และปลุกระดมมวลชนกับทหารในกองทัพบกให้โค่นล้มรัฐบาล ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาและถอนราก คสช.ซึ่งเป็นการกระทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจาฯ ที่ไม่ใช่การวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของรัฐบาลและคสช.ในเชิงวิชาการอย่างสุจริต

 

          นอกจากนี้ยังได้ใช้รถติดเครื่องขยายเสียงปราศรัยโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. และเป็นการร่วมกันปลุกระดมมวลชนโดยปลุกปั่นให้เกิดการชุมนุมขับไล่รัฐบาลและ คสช.รวมทั้งเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ภายในเดือน พ.ย.61 พร้อมกับการชู 3 นิ้ว (นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง) เป็นสัญลักษณ์ในทางการเมืองต่อต้านรัฐบาลและคสช. ขณะที่การเคลื่อนขบวนชุมนุมได้มีการเดินล้ำเข้าไปในช่องทางจราจรที่ 1-2 โดยผู้ชุมนุมได้หยุดขบวนที่ถนนราชดำเนินนอก หน้าบก.ทบ.จึงก่อให้เกิดไม่สะดวกกับประชาชนที่ใช้ทางสาธารณะ ขณะที่ได้เลิกการชุมนุมเมื่อวันที่ 24 มี.ค.61 เวลาประมาณ 20.45 น.ซึ่งล่วงเลยเวลาที่ได้แจ้งการชุมนุมไว้ การกระทำของจำเลยกับพวก ในชั้นสอบสวนจำเลยทั้ง 9 ให้การปฏิเสธ โดยขอให้นับโทษนายกาณฑ์ จำเลยที่ 1, นายสิรวิชญ์ หรือจ่านิว จำเลยที่ 2,นายรังสิมันต์ จำเลยที่ 3 , น.ส.ณัฏฐา หรือโบว์ จำเลยที่ 4 และนายอานนท์ จำเลยที่ 7 ต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำ อ.2893/2561 ของศาลอาญานี้ด้วยขณะที่หากจำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว อัยการก็ให้เป็นดุลยพินิจของศาล เหตุเกิดที่แขวงพระบรมมหาราชวัง แขวงวัดบวรนิเวศและแขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กทม.ต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน 

 

          โดยศาลประทับรับฟ้องไว้เป็น คดีหมายเลขดำที่ อ.649/2562 และนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 13 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. 

 

อัยการฟ้องแล้ว "9 แกนนำคนอยากเลือกตั้ง" อีกสำนวน

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้จำเลยทั้ง 9 คน ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวโดยไม่ใช้หลักทรัพย์ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

 

          อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ระหว่างรอส่งตัวฟ้อง น.ส.ณัฏฐา ให้สัมภาษณ์ว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา มีการใช้กระบวนการยุติธรรมอย่างหนักในการร้องทุกข์กล่าวโทษฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลโดย คสช. ตนรู้สึกเห็นใจทุกคนในกระบวนการยุติธรรม วันนี้คนอยากเลือกตั้งถูกฟ้องเป็นคดีที่ 3 กรณีชุมนุมหน้ากองทัพบก ส่วนก่อนหน้านี้มีคดีชุมนุมหน้าหอศิลป์ (MBK39) และคดีชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน (RDN50) ซึ่งเราจะยื่นประกันโดยไม่ใช้หลักทรัพย์เหมือนกับ 2 คดีที่ผ่านมา  

 

          เมื่อถามถึง กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดวันวินิจฉัยคดีขอยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ในวันพรุ่งนี้ (7 มี.ค.) จะให้กำลังใจหรือไม่ 

 

          น.ส.ณัฏฐา กล่าวว่า พฤติการณ์คดียุบพรรค ทษช. ไม่ได้เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยเลย การเสนอชื่อใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคใด พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ฯ ระบุไว้ชัดเจน ถ้าขาดคุณสมบัติเสมือนไม่ได้เสนอชื่อ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง และหลักการยุบพรรคควรจะเกิดขึ้นเมื่อมีความผิดอาญาร้ายแรงเท่านั้น เป็นมาตรฐานสากล จะไม่ยุบพรรคง่ายๆ เพราะพรรคเป็นตัวแทนอุดมการณ์ของประชาชน ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะคงหลักการของความเป็นนิติรัฐ ให้นานาชาติเห็นว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นมีความบริสุทธิ์ยุติธรรม ที่ทุกพรรคมีสิทธิเป็นตัวเลือกให้ประชาชน
          

          ส่วนที่ กกต. อนุญาตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ช่วยพรรคหาเสียงได้นั้น น.ส.ณัฏฐา กล่าวว่า ทุกคนที่อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ลงมาเล่นการเมืองได้อยู่แล้วและข้าราชการการเมืองสามารถลงสมัครเลือกตั้งได้ ปัญหาของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้อยู่ที่ความเป็นนายกฯ แต่อยู่ที่ความเป็นหัวหน้า คสช. ได้งบประมาณของรัฐมาเป็นเงินเดือน ออกกฎระเบียบมาบังคับใช้ประชาชนได้ จึงถือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ในแง่ของคุณสมบัติต้องถามว่าทำไม กกต. ยังไม่มีการนำเรื่องนี้มาพิจารณา ส่วนเรื่องการหาเสียง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ที่มีอำนาจเต็มไม่ใช่รักษาการณ์ ซึ่งหลายปัจจัยอาจทำให้เกิดข้อได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง ทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมถ้ายังไม่ถอนตัว
          

          ส่วนคดีคลิปหลุดได้แจ้งความด้วยหรือไม่ ซึ่งนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้แจ้งความแล้ว น.ส.ณัฏฐา กล่าวว่า เราเป็นโจทก์ร่วมกัน เราไปร้องทุกข์พนักงานสอบสวน โดยมอบหมายให้ทนายความดำเนินการแล้ว 
          

อัยการฟ้องแล้ว "9 แกนนำคนอยากเลือกตั้ง" อีกสำนวน


          ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม ได้กล่าวก่อนการฟ้องคดีว่า แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งมาพบอัยการเพื่อส่งตัวฟ้องเกือบทุกคน จะขาดเพียงนายเอกชัย หงส์กังวาน ซึ่งเบื้องต้นคงประสานงานกันอีกครั้ง โดยรวมเราก็พยายามใช้กระบวนการทางศาลต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องการประกันตัวนั้นโดยทั่วไปเราจะพูดถึงการวางหลักทรัพย์ประกัน แต่ความจริงแล้วตามกฎหมายไม่จำเป็นต้องวางหลักทรัพย์ก็ได้ เพราะศาลสามารถใช้ดุลพินิจและมีอำนาจให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ประกัน เนื่องจากที่ผ่านมาเราเองก็ยืนยันมาโดยตลอดว่า เราไม่ได้หลบหนีไปไหน และพยายามต่อสู้โดยบริสุทธิ์ใจ อีกทั้งก่อนหน้านี้หลายๆ คดีเราก็ยังมาศาลตามปกติ จึงคาดว่าไม่น่าจะต้องวางหลักทรัพย์ประกัน       

 

          นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ยิ่งช่วงใกล้จะถึงวันเลือกตั้ง บรรยากาศก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ควรจะปล่อยชั่วคราว ความจริงก็หวังว่าจะยกฟ้องด้วยซ้ำ เพราะสาเหตุที่พวกเราถูกดำเนินคดีมาจากการออกมาเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง ขณะที่การดำเนินคดีก็อาจจะถูกมองหรือถูกตำหนิจากนานาประเทศได้ ดังนั้น คาดหวังว่ากระบวนการยุติธรรมจะปลดปล่อยพวกเราจากพันธนาการ 

 

          ส่วนการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ลำดับที่ 16 นั้น ตอนนี้ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่าตนเองยังมีคุณสมบัติที่สามารถลงสมัครเลือกตั้งได้ ส่วนคดีอื่นอีก 5 เรื่องที่ตนถูกดำเนินคดีนั้น คิดว่ากระบวนการคงใช้เวลา ก็คงหลังจากพ้นการเลือกตั้งไปแล้ว 

 

          "พวกเราบริสุทธิ์ใจ การชุมนุมของพวกเราก็ไม่ได้ไปกระทบกระทั่งหรือสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ใคร ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะได้รับความยุติธรรม" นายรังสิมันต์ กล่าว

 

         นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงการนัดยื่นฟ้องนายเอกชัย หงส์กังวาน ผู้ต้องหาคดีร่วมอีกคน ซึ่งวันนี้ยังไม่ได้เดินทางมาพบอัยการว่า อัยการได้นัดให้นายเอกชัยมาพบในวันที่ 15 มี.ค.นี้ เพื่อจะนำตัวไปยื่นฟ้องศาลอาญาต่อไป.

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ