ข่าว

"ทษช." ปราศรัยใหญ่ กทม.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"จาตุรนต์" ซัด คสช.วางแผนสืบทอดอำนาจ 20 ปี ดึงองค์กรอิสระเป็นพวก เรียกร้องคนรุ่นใหม่หนุน ปชต.รวมพลังทั่วประเทศ ย้ำ "ทษช." มุ่งมั่น พูดไว้คำไหนคำนั้น

 

              วันที่ 1 มี.ค.62 ที่ลานคนเมือง ศาลว่าการกรุงเทพมหานคร พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ได้จัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกใน กทม. ซึ่งเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. โดย รถไฟฟ้าเชื่อม 3 ไฮไลท์ของการหาเสียงคือช่วงเวลา 19.20 น. ที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสคร์พรรค ทษช. ได้ขึ้นเวทีกล่าวว่า

              "มาเห็นพี่น้อง มากันวันนี้แล้ว ที่มีโพลหลายสำนัก บอกว่าพรรคจะไม่ได้สักที่นั่ง เชื่อว่าโพลทุกที่ในประเทศไทยจะผิด เราจะได้ทั้งหมด เราได้ไปพบกับพี่น้องประชาชนในกรุงเทพฯ มาหลายพื้นที่ แต่ครั้งนี้เป็นการปราศรัยใหญ่ครั้งแรกใน กทม. ซึ่งการปราศรัยครั้งนี้ ไม่ใช่การปราศรัยหาเสียงแบบปกติ เพราะว่านอกจากจะปราศรัยกับพี่น้องกรุงเทพฯทั้งหมดแล้ว เราจะถือโอกาสนี้ปราศรัยกับประชาชนทั่วประเทศ พูดกับคนทั่วประเทศ ที่ 5 ปีมานี้เสนอความเห็นอะไรก็ไม่ได้ ร้องเรียนอะไรก็ไม่ได้ เลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อบต. อบจ.ก็ไม่ได้ เรียกว่ากำหนดอะไร ก็ไม่ได้สักอย่าง วันนี้เรามาปราศรัยกับพี่น้องประชาชนเขตพระนคร เพื่อสื่อสารว่า พรรค ทษช. เชิญชวนประชาชน ให้พี่น้องที่กำหนดอะไรไม่ได้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ให้ออกมาช่วยกำหนดอนาคตประเทศไทยกันในวันนี้ ซึ่งเราก็พบกับประชาชนในต่างจังหวัด เราก็ได้รับฟังปัญหามาเยอะ อย่างภาคใต้ก็ได้พูดกันเรื่องราคายางตกต่ำ ที่ชาวสวนยางต้องขายต้นยางแทนน้ำยางมาส่งลูกเรียนแล้ว ชาวประมงทำงานหากินไม่ได้ แทนที่จะขายปลาก็ต้องมาขายเรือ ชาวนาก่อนหน้านี้ มีเงินใช้กันอย่างมีความสุข แต่ 5 ปีมานี้ต้องขายทรัพย์สิน ขายที่ดินเป็นหนี้เป็นสินเต็มไปหมด ไปที่ไหนก็มีความเดือดร้อนเหมือนกันหมด ไปที่ไหนๆ มาเขาก็บอกว่าจะอดตายกันหมดอยู่แล้ว อย่างไปที่ จ.ชัยยาท เขาก็เข้ามากอด บอกว่าจะตายกันหมดแล้ว และปัญหาเศรษฐกิจยังแก้ไม่ได้ ไม่มีทางออก เพราะมีคนเข้ามาขวางทางไม่ยอมให้พรรคที่เป็นประชาธิปไตยตั้งรัฐบาล แล้วต้องการสืบทอดออำนาจ คสช. ซึ่งนอกจากจะทำให้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นไปไม่ได้เท่านั้น แต่ยังสร้างระบบการปกครองอีกแบบหนึ่งขึ้นมาด้วย เรียกว่า "ระบอบ คสช." ขณะที่เมื่อมีการจัดเลือกตั้งแล้ว ประเทศไทยครั้งนี้แปลกประหลาดที่สุด รัฐบาลทั้งรัฐบาลไม่เป็นรัฐบาลรักษาการ และยังใช้งบประมาณตามใจชอบ สร้างบประมาณผูกพันตามใจชอบ หรือจะจัดซื้ออาวุธ โดยที่ไม่ปรึกษาหารือ กกต.และที่สำคัญคนที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็เป็นหัวหน้า คสช. มีอำนาจเหนือองค์กรทุกองค์กรในประเทศไทย แล้วอย่างนี้การเลือกตั้งจะเสรีเป็นธรรมได้อย่างไร นี่คือแผนการสืบทอดอำนาจของ คสช."

 

 

"ทษช." ปราศรัยใหญ่ กทม.

 

 

 

              ขณะที่ช่วงหนึ่ง นายจาตุรนต์ ยังพูดถึงองค์กรอืสระด้วยว่า อย่าง กกต.พูดไม่ถึงหู ไม่ตอบสนองนโยบาย คสช. ก็ปลด กกต. หรือ ป.ป.ช.ตั้งขึ้นมาโดยการแทรกแซง ของ คสช. เอาคนสนิท เอาหน้าห้องรองนายกฯ ไปเป็น แล้วยังออกฎหมายลูกให้อยู่ต่อไปได้จนครบเทอม ทั้งที่ ป.ป.ช.มีลักษณะต้องห้ามกันหลายคน และไม่ต้องแปลกใจเลยที่นาฬิกา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ 20 เรือน 30 เรือนอะไรนั้นที่ยืมเพื่อนมาแล้วเพื่อนตายไปแล้ว ป.ป.ช.ก็เชื่อ องค์กรอิสระจึงไม่มีในประเทศนี้อีกแล้ว องค์กรอิสระในประเทศนี้เป็นองค์กรที่อิสระจากประชาชนคนไทยเท่านั้น แต่ไม่อิสระจาก คสช. และหาทางเป็นรัฐบาล มีองค์กรอิสระก็เป็นพวกช่วยตัวเอง หากเป็นฝ่ายตรงข้าม เมื่อไรก็จะลำบาก และที่บอกว่าปี 2562 คนจนจะหมดประเทศ ก็ขอให้พวกเราร่วมกันส่งเสียงให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ยินว่าไม่จริง และส่งเสียงให้ถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ด้วยว่า ตอนนี้เขาจนกันทั้งประเทศแล้ว และอย่างการส่งออก ตัวเลขตอนนี้ล่าสุดก็ติดลบแล้ว หรือการท่องเที่ยวที่ว่ากำลังจะดี พอรองนายกรัฐมนตรีออกมาพูดกับเขาดีๆไม่เป็น ก็ต้องไปก็จัดเลี้ยงข้าวเหนียวมะม่วงแทน และเรื่องที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะดีเบตดีหรือไม่นั้น ก็พูดว่าตัวเองแสดงวิสัยทัศน์มาตั้ง 5 ปีแล้ว จะไปทำไม ไร้สาระ ความจริงน่ะแกกลัวว่าถ้าแกไปดีเบต แกจะตายก่อนเวลาอันสมควร พล.อ.ประยุทธ์ ไปพูดในสภา กฎหมายงบประมาณอะไนเสร็จใน 2 ชั่วโมง ไม่มีใครถามอะไนสักคำ ก็ผ่านกฎหมายงบประมาณไปได้ และยังผ่านกฎหมายกันเป็นร้อยๆ ฉบับไม่มีการตั้งกระทู้ ไม่มีการเสนอญัตติ ซึ่งหากมีใครไปออกรายการอะไรแล้วพูดวิจารณ์นายกฯ เขาก็จะส่งทหารไปคุมและไปขู่จะปิดรายการ ซึ่งปิดทั้งสถานีก็เคยมาแล้ว และระหว่างเลือกตั้งนี้ก็ยังปิดสื่อโทรทัศน์มาแล้ว ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยมีใครโต้แย้งเพราะโต้แย้งไม่ได้เวลามีใครวิจารณ์ก็เรียกไปปรับทัศนคติ แต่ถ้าไปดีเบตตนก็อยากไปเจอด้วย แต่กลัวอย่างเดียว กลัวว่าไปดีเบตด้วยแล้วจะถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา แต่จากพูดถึงเรื่องดีเบต หรือไม่ดีเบตนั้น เราพบข้อน่าสนใจอย่างหนึ่งคือ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ออกมาชี้แจงแทนพล.อ.ประยุทธ์ ว่า ไม่ขาดคุณสมบัติการเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ แล้วถ้าเช่นนั้นเคยสั่งให้เจ้าหน้าที่มาจับคลุมหัวตนไปได้อย่างไร มาสั่งระงับการทำธุรกรรมทางการเงินของตนมา 4 ปีได้อย่างไร จะสั่งเจ้าหน้าที่ คสช. ไปแจ้งความ เล่นงานคนในเวลาที่มาวิจารณ์รัฐบาลได้อย่างไร ตัวอย่างพวกตนยังแถลงข่าว ช่วงเย็นตำรวจไม่ได้อ่านอะไรเลยก็ตั้งข้อหาแล้ว และทำทั้งหมดนี้โดยกินเงินเดือนของรัฐบาล และถ้าไม่มีกฎหมายรองรับรัฐบาลยังเอาเงินภาษีประชาชนไปให้ชาวบ้านประชาชนได้อย่างไร นานตั้ง 5 ปี ซึ่งหากจะทำเช่นนั้นได้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่นายวิษณุก็ชี้แจงไปชี้แจงมาจนไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ และสักพัก ก็มาพูดว่าถ้าหากไปดีเบสก็ไม่รู้ว่าพลเอกประยุทธ์จะพูดถึงนโยบายของพรรคพลังประชารัฐหรือนโยบายของตนเอง ซึ่งเป็นข้าราชการต้องวางตัวให้เป็นกลาง ฟังแล้วก็สับสน แต่ก็ยังไม่รู้ว่า กกต. จะว่าอย่างไร

 

 

"ทษช." ปราศรัยใหญ่ กทม.

 

 

 

              โดยช่วงท้ายของการปราศรัย นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า ถ้าให้อยู่ต่อไปอีก 20 ปี ที่เคยออกมาตะโกนกันว่า จะตายกันอยู่แล้ว คงได้ตายจริงๆ กันทั้งประเทศ ซึ่งยุทธศาสตร์ชาติที่กันเขียนไว้ก็จากแม่น้ำ 4 สายที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เลือกมา และเขียนด้วยคนกลุ่มเดียว ไม่เคยฟังใคร ไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน และเขาก็เขียนว่ายุทธศาสตร์นี้ให้แก้ได้ 5 ปีครั้งหนึ่ง โดยกลุ่มส.ว. 250 คนที่เขาเลือกมา และถ้าเป็นแบบนี้สุดท้ายก็จะได้รัฐมนตรี รัฐบาลหน้าเดิม อย่างพล.อ.ประยุทธ์ อย่างพล.อ.ประวิตร และระบบ คสช.แบบนี้ จะเป็นระบอบปกครองล้าหลังไม่ปรับตัว ถ้าปกครองกันแบบนี้ 20 ปีโดยแก้ไขไม่ได้ แล้วคนรุ่นใหม่จะอยู่กันอย่างไร จะเป็นความเสียหายยาวนาน การเลือกตั้งครั้งนี้ จึงมีความหมายสำคัญ จะทำให้เห็นว่าแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้หรือไม่ จะยังแก้ไม่ได้ถ้ายังเลือก คสช. ซึ่งจะแก้ปัญหาได้ต้องให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยก่อน ก็ต้องเลือกพรรคที่เป็นประชาธิปไตยเท่านั้น ถ้าพี่น้องไม่เอาเขา แต่เขามี 250 ส.ว.ในมือ ถ้าไม่เอา ก็ต้องชนะท่วมท้นเท่านั้นฝ่ายประชาธิปไตย ถ้าจะไม่เอาระบบ คสช. ปกครองไปอีก 20 ปี ก็ส่งเสียงดังๆ บอกไม่เอา

 

 

"ทษช." ปราศรัยใหญ่ กทม.

 

 

              "ที่เคยบอกว่าเราจะหาทางแก้กับดักรัฐธรรมนูญ และพรรคที่จะตัดสินอนาคตว่าฝ่ายประชาธิปไตยชนะหรือไม่ พรคที่จะเป็นตัวชี้ขาดคือพรรค ทษช. ที่พี่น้องกำลังสนับสนุนอยู่ เราพูดไว้อย่างไร เรายังมุ่งมั่นอย่างนั้น ทษช. จะเป็นตัวชี้ขาดและ ชัยชนะของฝ่าย ประชาธิปไตย และช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เราก็เห็นแล้วว่าเสียงที่สนับสนุนพรรค ทษช.และพรรคการเมืองประชาธิปไตยเติบโตชึ้นมากขึ้นทุกที และพลังนี้จะไม่ไปไหน จะร่วมกันสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย จะหยุดงยั้งการสืบทอดอำนาจ พลังคนสนับสนุนประชาธิปไตย จะร่วมกับพรรค ทษช. กับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยทั้งประเทศ ร่วมสร้างรัฐบาลประชาธิปไตย แก้ปัญหาเศรษฐกิจิิ สร้างประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตย"

 

 

"ทษช." ปราศรัยใหญ่ กทม.

 

 

              ขณะที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคฯะกรรมการรณรงค์หาเสียงพรรค ทษช. ขึ้นปราศรับปิดท้าย ก็ได้กล่าวโจมตีถึงกรณีที่นายวิษณุ ให้ความเห็นทางกฎหมายเรื่องความเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ของ พล.อ.ประยุทธ์ และยังกล่าวถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหนาพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยว่า ก็ยังคงเล่นบทพระเอกละครรีรันที่มาแล้ว 10-20 ปี ว่าจะะสู้ระบอบ ปชต. จะต่อสู้เผด็จการรัฐสภา เราจะเป็นประชาฺธิปไตย 20 ปีมาแล้วก็พูดอย่างนี้แต่ยังไม่เคยแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปราศรัยใหญ่ในพื้นที่กทมของแกนนำพรรค ทษช.วันนี้ก็ได้รับความสนใจจากประชาชน มาร่วมฟังเต็มลานคนเมือง ซึ่งหลายช่วงที่ได้พูดถึงการสืบทอดอำนาจ คสช.อย่างไรบ้าง ประชาชนก็จะส่งเสียงโห่ แสดงความเห็นด้วยกับที่แกนนำพรรค ทษช. พยายามจะให้ทุกคนมาใช้สิทธิเลือกตั้งที่ครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญ ที่จะหยุดยั้งการทอดอำนาจของคสช.

 

 

"ทษช." ปราศรัยใหญ่ กทม.

 

 

"ทษช." ปราศรัยใหญ่ กทม.

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ