ข่าว

"เสี่ยหนู" สวนรัฐบาลออกกฎหมายกัญชาผูกขาดให้นายทุน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"อนุทิน" สวนรัฐบาลออกกฎหมายกัญชาผูกขาดให้นายทุน เชื่อซ้ำรอย เหล้า-เบียร์ ยันเดินหน้ากัญชาเป็นของประชาชน

 

          วันที่ 25 ก.พ. 62 - นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟสบุ๊ส "อนุทิน ชาญวีรกูล" หัวข้อ  ร่วมต่อต้าน นายทุน และต่างชาติผูกขาดกัญชาไทย โดยมีใจความว่า นโยบายกัญชาเสรี พรรคภูมิใจไทย กำลัง(ถูกวิจารณ์)ร้อนแรง จากผู้อยู่ในองค์กรของรัฐ และผู้ใช้อำนาจรัฐทุกระดับ ทุกหน่วยงาน ตนทราบดีว่าภายใต้กฎหมายที่รัฐบาลนี้ประกาศบังคับใช้เมื่อเร็วๆ นี้ ประชาชนปลูกไม่ได้ ใช้ไม่ได้ และเชื่อว่าหลายๆ คนที่สนใจเรื่องประโยชน์ของกัญชา ก็รู้ดีว่ากฎหมายฉบับนี้ ยังปิดกั้นประชาชน ไม่ให้เข้าถึงกัญชา ทั้งในฐานะพืชสมุนไพร และพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าหลายแสนล้านบาทในต่างประเทศ

 

          แต่ที่ผมไม่ทราบ และคนหลายๆ คน ไม่ทราบ ก็คือ เบื้องหน้า เบื้องหลังของกฎหมายฉบับนี้ ว่าทำไมต้องปิดกั้นสิทธิของประชาชน ทำไมต้องมีแต่หน่วยงานของรัฐ ที่ทำได้ หรือ ร่วมลงทุนดับเอกชนได้ หรือ อนุมัติให้เอกชนทำได้ ซึ่งจะไม่แตกต่างจากการให้สัมปทาน และนำไปสู่การผูกขาดกัญชา ในอนาคต เหมือน เหล้า เบียร์ ที่มีเอกชนรับสัมปทานผูกขาด และบุหรี่ ที่รัฐผูกขาดเพียงรายเดียว ในปัจจุบันนี้


          ทำไมต้องหวงกัญชาไว้กับตัว ทำไมกัญชาอยู่กับรัฐ หรือ อยู่ในมือคนได้สัมปทาน หรืออยู่กับบริษัทที่รัฐ อนุญาต จึงถูกกฎหมาย ทำไมกัญชาอยู่กับประชาชนผิดกฎหมาย ทั้งๆ ที่ประชาชนที่สนใจศึกษา รู้จักกัญชา ดีกว่ารัฐ และเจ้าหน้าที่รัฐ รวมไปถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่รอรับสัมปทานทำธุรกิจผูกขาดกัญชา อยู่ในขณะนี้

 

          นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ภายใต้กฎหมายที่เพิ่งประกาศใช้นี้ ถ้าไม่มีการแก้ไขให้กัญชาเป็นของประชาชน ตามที่พรรคภูมิใจไทย นำเสนอ ทำนายไว้ตรงนี้เลยว่า วันหนึ่ง จะมีบริษัทระดับชาติ และบริษัทต่างชาติ หรือ นายทุนยักษ์ใหญ่เข้ามาครอบครองและหาประโยชน์ ทำกำไรจากกัญชาเหมือนกับธุรกิจสุรา หรือ เหล้า เบียร์ ที่ผู้ได้สิทธิสัมปทานจากรัฐจะรวยหลายแสนล้านบาท และประชาชนต้องเป็นผู้ซื้อ เป็นผู้จ่ายฝ่ายเดียว ทั้งๆ ที่มีความสามารถผลิตใช้เองได้ แต่กฎหมายบอกว่า "ผิด" ประชาชน ต้มเหล้ากิน มานานหลายร้อยปี เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น อยู่มาวันหนึ่ง รัฐบาลออกกฎหมายห้ามประชาชนต้มเหล้า กินเอง ผิดกฎหมาย ใครจะทำเหล้ากิน หรือ ขาย ต้องมาขออนุญาตจากรัฐบาล ต้องทำตามกฎเกณฑ์ที่รัฐกำหนด ซึ่งใช้เงินลุงทุนสูง และมีเงื่อนไขที่ประชาชนทั่วไป ทำไม่ได้

 

          "จะมีก็แต่ บริษัทยักษ์ใหญ่ หรือ นายทุนที่มีเงินทุนเป็นร้อยล้าน พันล้าน ไม่กี่รายเท่านั้น ที่จะทำตามเงื่อนไขได้ สุดท้ายกัญชาก็จะเป็นธุรกิจสัมปทานผูกขาด เหมือนสัมปทานเหล้า ในที่สุดวันนี้ นายทุนที่ได้สัมปทานเหล้า รวยหลายแสนล้านบาทวันนี้ ชาวไร่ชาวนา ต้องแอบต้มเหล้ากิน เพราะไม่มีเงินซื้อ แต่ถ้าถูกจับ มีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ วันหนึ่งธุรกิจกัญชาก็จะไม่แตกต่างจากนี้"   

 

          นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า พรรคภูมิใจไทย ติดตามศึกษาแนวคิดและแนวทางเรื่องกัญชาของรัฐบาลมาตั้งแต่เริ่มต้นยกร่างจนกระทั่งออกมาเป็นกฎหมาย เราเห็นว่าเป็นกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชนส่วนใหญ่ เข้าทำนอง "ชนชั้นใดเขียนกฎหมาย เพื่อชนชั้นนั้น"


          เราจึงยกร่างกฎหมายของพรรคขึ้นมาใหม่ เพื่อทำให้กัญชาเป็นของประชาชน ใครจะใช้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อการแพทย์ หรือ เพื่อสันทนาการ ต้องได้ใช้อย่างเสรี และมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด หรือไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย ภายใต้กติกาที่กำหนดร่วมกัน เพราะเรารู้ดี กฎหมายที่รัฐบาลนี้ประกาศบังคับใช้ จะนำไปสู่การผูกขาดกัญชาให้แก่กลุ่มทุน ที่จะสร้างผลประโยชน์หลายแสนล้านบาท และปิดกั้นโอกาสประชาชนเข้าถึงกัญชา เป็นการทำลายภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนไทยที่ใช้กัญชามาหลายร้อยปี พรรคภูมิใจไทย จึงประกาศนโยบายกัญชาเสรี และจะแก้ไขกฎหมาย อีกครั้ง เพื่อปิดโอกาสกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่หรือบริษัทต่างชาติมาสวมชื่อคนไทยผูกขาดกัญชา และเปิดโอกาสให้ประชาชนคนไทยทุกคนได้เป็นเจ้าของ ได้ใช้ประโยชน์จากกัญชา อย่างกว้างขวางที่สุด 
 

          “นี่คือที่มาของการนำเสนอนโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย และอาจจะเป็นเหตุให้ผู้มีอำนาจรัฐ หงุดหงิด และวิจารณ์นโยบายกัญชาเสรี อย่างร้อนแรงในขณะนี้ก็แบบนี้ไง จึงต้องลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน ดังนั้นหากสนับสนุนนโยบายกัญชาเสรี ร่วมแสดงพลังคนไทยต่อต้านนายทุน&ต่างชาติ ผูกขาดสัมปทานกัญชาไทย 24 มีนา เข้าคูหากาพรรคภูมิใจไทย” นายอนุทิน กล่าวปิดท้าย.

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ