กกต.แน่น 34 พรรคแห่สมัครปาร์ตี้ลิสต์

 

          สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) – 7 ก.พ.62  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศวันที่ 4 ของการสมัครส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อและเสนอบัญชีว่าที่นายกรัฐมนตรี การสมัครเป็นไปด้วยความคึกคักตลอดทั้งวัน พรรคการเมืองทั้งใหญ่และเล็กทยอยเดินทางมาสมัครตั้งแต่ช่วงเช้า เนื่องจากอาจเกรงว่าหากมายื่นสมัครวันสุดท้ายแล้วเอกสารรับสมัครไม่ถูกต้องครบถ้วนก็จะไม่สามารถแก้ไขได้ทัน ส่งผลให้ยอดรวมการยื่นสมัครมากถึง 34 พรรค ประกอบด้วย พรรคเพื่อนไทย ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 52 คน ,พรรคชาติไทยพัฒนา ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 67คน , พรรครวมใจไทย ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 9 คน , พรรคประชาชนปฏิรูป ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 40 คน , พรรคประชาธิปัตย์ ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 150 คน ,พรรคพลังประชารัฐ ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ120 คน, พรรคประชาภิวัฒน์ ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 127 คน

 

 

          พรรคสยามพัฒนา ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 14 คน ,พรรคประชาชาติ ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 58 คน ,พรรคกลาง ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 6 คน ,พรรคประชาธิปไตยใหม่ ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 36 คน, รวมพลังประชาชาติไทย ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 150 คน , พรรคคลองไทย ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 27 คน, พรรคพลังครูไทย ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 6 คน ,พรรคพลังปวงชนไทย ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 59 คน ,พรรคประชานิยม ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 112 คน , พรรคชาติพันธุ์ไทย ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 15 คน ,พรรคพลังสหกรณ์ ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 4 คน

 

          พรรคทางเลือกใหม่ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 13 คน ,พรรคเพื่อคนไทย ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 18 คน, พรรคพลังไทยรักไทย ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 30 คน, พรรคเศรษฐกิจใหม่ ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 83 คน, พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทยส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 9 คน ,พรรคสามัญชน ส่งสมัครรายชื่อ 6 คน ,พรรคครูไทยเพื่อประชาชน ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 82 คน ,พรรคประชากรไทย ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 18 คน ,พรรคแผ่นดินธรรม ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 25 คน ,พรรคประชาธรรมไทย ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 60 คน ,พรรคพลังไทยรักชาติ ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 12 คน ,พรรคกสิกรไทย ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 1 คน

 

         

 

          ส่วนพรรคชาติพัฒนา ส่งสมัครบัญชีรายชื่อ 56 คน แต่วันนี้มายื่นบัญชีนายกรัฐมนตรี และมีพรรคคนงานไทย พรรคฐานรากไทย และพรรคไทรักธรรม ได้เดินทางมาเพื่อยื่นสมัครแต่ไม่สามารถสมัครได้ เนื่องจากพรรคคนงานไทย มีปัญหายังไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.เขต จึงไม่สามารถสมัครบัญชีรายชื่อได้ ส่วนพรรคฐานรากไทย ยังไม่ส่งทั้ง ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ แต่จะยื่นบัญชีนายกรัฐมนตรี และพรรคไทรักธรรม เอกสารไม่ครบ

 

          ทั้งนี้ในระหว่างที่พรรคพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคพลังปวงชนไทย กำลังดำเนินการยื่นสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่ออยู่นั้น สื่อมวลชนที่รอทำข่าวได้ส่งเสียงเชียร์ให้ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคพลังปวงชนไทย จับมือกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน อดีต ผบ.ทบ. ในฐานะที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ได้หรือไม่ ซึ่งพล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า "ทำไมจะจับมือไม่ได้" จากนั้นทั้งสองคนจึงจับมือกัน ขณะที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพรรคพลังประชารัฐที่มีหลายคนเป็นอดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเดินทางมาพบกันระหว่างการยื่นสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็พูดคุยทักทายกัน นอกจากนั้นยังมีบรรยากาศสีสันอย่างตัวแทนพรรคประชาชาติ แต่งชุดไทยเข้ายื่นสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในครั้งนี้ดัวย

 

          ทางด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ยื่นสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 40 คน โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากส่วนตัวรู้สึกชอบตัวเลข 40 เป็นพิเศษ เพราะเคยเป็นคนก่อตั้งกลุ่ม 40 ส.ว. แต่ไม่เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีโดยประกาศที่จะโหวตสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในสภาฯ

 

         ขณะที่ นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ พรรคประชาภิวัฒน์ ส่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ 127 คน และเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี 3 คน คือ นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ นางนันทนา สงฆ์ประชา และ นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ส่วนพรรคพลังปวงชนไทย ยื่นสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 80 คน เสนอชื่อนายกฯ 2 คน คือ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร และ นายนิคม บุญวิเศษ

 

 

          ด้านพรรคไทรักธรรม นำโดย นายวิทิต แลต อดีตนักแสดง ซึ่งหันเหชีวิตมาเล่นการเมืองมีตำแหน่งเป็นรองเลขาธิการพรรค ได้นำผู้สมัครมายื่นสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พร้อมนำสมาชิกพรรคแต่งกายด้วยชุดผ้าไทย เพื่อสร้างความโดดเด่น โดยพรรคจะเน้นนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สร้างความเท่าเทียมทางเพศ และสร้างอาชีพ รายได้ให้กับผู้สูงอายุ โดยส่งผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขต 147 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 148 คน

 

 

          ส่วนพรรคประชานิยม นำโดย พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนง หัวหน้าพรรค พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค มาพร้อมพริตตี้สาวสวยในชุดขาว ถือป้ายนโยบายพรรคมาโปรโมทเป็นสีสัน ทำเอาบรรยากาศช่วงบ่ายคึกคักขึ้นมาทันที.