ข่าว

"ศุภชัย - ธนา" ติดโผ 200 ชื่อ ลุ้น คสช. เลือก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ศุภชัย" อดีตประธาน กกต. "ธนา" อดีตทนายทักษิณ ผ่านเข้ารอบ มีชื่อติดโผรายชื่อ 200 ส.ว. เสนอให้ คสช. เลือก 50 คน

 

               27 ธ.ค. 61 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 2  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการเริ่มเปิดการลงคะแนนเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในเวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่แต่ละจุดได้จัดให้ผู้สมัครเข้าคูหาลงคะแนนของแต่ละกลุ่ม โดยการลงคะแนนแต่ละกลุ่มใช้เวลา 30 - 60 นาที แตกต่างกันตามจำนวนของผู้สมัคร เมื่อการลงคะแนนเสร็จสิ้นลง เจ้าหน้าที่ได้ปิดหีบและเริ่มนับคะแนน โดยกลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เป็นกลุ่มแรกที่ลงคะแนนเสร็จ ปรากฏว่า มีผู้ได้รับเลือกในลำดับที่ 10 ซึ่งเป็นลำดับสุดท้าย ได้คะแนนเท่ากัน จึงต้องมีการจับสลาก โดยเป็นการจับสลากกันเองของผู้สมัครที่ได้คะแนนเท่ากัน ซึ่งการจับสลากพบว่าเกิดขึ้นเกือบทุกกลุ่ม ซึ่งบางกลุ่มต้องจับสลากผู้ที่จะได้คัดเลือกเป็น ส.ว. ถึง 5 ลำดับ โดยกลุ่มใดที่เจ้าหน้าที่ประกาศผู้ได้รับเลือกทั้ง 10 อันดับแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะอนุญาตให้ผู้สมัครกลับบ้านได้

 

 

 

               นายศุภชัย สมเจริญ อดีตประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งได้รับเลือกมาเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กล่าวขอบคุณผู้สมัครกลุ่มที่ 2 ที่เลือกตนเอง ทั้งนี้ การลงสมัครไม่ได้คาดหวังอะไร เพียงต้องการมาทดสอบระบบการบังคับใช้กฎหมาย และเห็นว่าการให้ลงคะแนนเลือกกันเอง 2 คน ถ้าไม่ใช่เป็นบทเฉพาะกาลคงต้องแก้ไข แต่ในอนาคตที่กฎหมายกำหนดให้เป็นการเลือกไขว้ระหว่างกลุ่มวิชาชีพน่าจะดีกว่า ที่ผ่านมา ตนไม่เคยได้รับโทรศัพท์ขอคะแนน มีแต่โทรมาแนะนำตัว หลังจากนี้ยังต้องไปลุ้นกันอีกว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเลือกตนหรือไม่ และเห็นว่า คสช. ไม่จำเป็นต้องเลือกคนที่ได้คะแนนสูงสุดในแต่ละกลุ่มแต่ละสายไปอยู่ในบัญชี 50 คน ทั้งหมดเป็นดุลยพินิจที่ไม่ขอก้าวก่าย เพราะเป็นอำนาจของ คสช. โดยตรง ซึ่งหากได้รับเลือก ตนก็จะใช้ประสบการณ์ในฐานะอดีตประธาน กกต. ในการทำงาน ส่วนการจะเลือก นายกฯ ตนยังไม่ได้มองไปขนาดนั้น เพราะยังไม่รู้ว่า คสช. จะเลือกตนเข้าไปเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่

               โดย นายธนา เบญจาทิกุล อดีตทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกฯ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็น ส.ว. สายสมัครด้วยตนเอง กลุ่มที่ 2 กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม โดยวิธีการจับสลากเลือกกันเอง เนื่องจากเป็นผู้ได้รับคะแนนลำดับท้ายที่มีผู้สมัครอื่นได้คะแนนเท่ากัน กล่าวว่า การที่กฎหมายให้ผู้สมัคร ส.ว. ลงคะแนนเลือกกันเอง ก็ถือว่าเป็นประชาธิปไตยทางหนึ่งอยู่แล้ว แต่เมื่อได้รับเลือกแล้วก็ยังต้องไปลุ้นว่าจะได้รับเลือกจาก คสช. หรือไม่ ตนมองว่า คสช. ไม่จำเป็นต้องเลือกผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดในแต่ละกลุ่มของแต่ละสายไปอยู่ในบัญชี 50 คน แต่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ คสช. เพราะคะแนนที่ผู้สมัครแต่ละรายได้มากหรือน้อย เป็นเพียงกระบวนการคัดเลือกให้ได้มาเท่านั้น ไม่ได้บอกว่าใครเหนือกว่าใคร และเมื่อได้รับเลือกแล้ว ถือว่าทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันและมีคุณสมบัติพร้อมที่จะทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง ซึ่งส่วนตัวก็คิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติพอที่จะทำงานเพื่อบ้านเมืองได้ และเราไม่ได้เป็นคนของใคร แม้ในอดีตจะเป็นทนายความให้กับนักการเมืองก็เป็นการประกอบอาชีพ แต่ปัจจุบันก็พยายามไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ซึ่งก็แล้วแต่ว่าเขาจะเห็นว่าเรามีความสามารถหรือไม่

 

 

 

               ขณะที่ พ.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (ผบช.ภาค 4) และอดีตที่ปรึกษา นายอภิชาต สุขัคคานนท์ อดีตประธาน กกต. กล่าวว่า สาเหตุที่ตนได้คะแนนสูงสุดในกลุ่มที่ 2 กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะตนเคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จึงทำให้เป็นที่รู้จักของหลายคน อย่างไรก็ตาม การมาสมัครครั้งนี้ ตนมาสมัครด้วยตนเอง ไม่มีใครทาบทามมาเป็นการส่วนตัว ขณะเดียวกันตนก็ไม่ได้รู้จักกับบุคคลใน คสช.

               ขณะที่ นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ อดีตกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวภายหลังทราบผลคะแนนได้รับเลือกเป็น 1 ใน 200 รายชื่อ ส.ว. ระดับประเทศ ถึงเหตุผลการลงสมัคร ส.ว. กลุ่ม 2 กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ว่า ตำแหน่ง ส.ว. ตามบทเฉพาะกาลเป็นตำแหน่งที่มีบทบาทสูงมาก หากได้รับตำแหน่งก็จะสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง ส่วนความคาดหวังที่จะได้รับการคัดเลือกเป็น ส.ว. นั้น ตนคิดว่าเป็นอำนาจของ คสช. แต่อย่างไรก็ตาม ตนได้รับการคัดเลือกเข้ามาในระดับประเทศ ก็ถือว่าภูมิใจแล้ว เพราะคะแนนที่ได้มานั้นหลายคนมองเห็นถึงความสามารถจึงได้ลงคะแนนให้

               เมื่อถามถึง กรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเคยชี้มูลว่า นายธีรวัฒน์กระทำการผิดจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระ จะกระทบต่อการคัดเลือก ส.ว. ในครั้งนี้หรือไม่ นายธีรวัฒน์ กล่าวว่า ตนเป็นลูกผู้ชายพอ ซึ่งเรื่องที่ถูกชี้มูลเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นการแบล็คเมล์ ตนยอมเจ็บปวดฝ่ายเดียว ไม่ตอบโต้ เพราะไม่อยากให้คนอื่นเสื่อมศรัทธา หลังจากนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ว่าความจริงเป็นอย่างไร และมั่นใจว่าจะไม่มีผลต่อการพิจารณาคัดเลือก ส.ว.

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ