"เพื่อไทย"โวชนะเลือกตั้งแน่นอน

 

           21 กันยายน 2561  พล.ต.ท.วิโรจน์  เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวหลังประชุมรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรค

       

          โดยนายภูมิธรรม กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นการยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยยังมีชีวิตและพร้อมเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง เพื่อจะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองให้ประชาชนซึ่งในวันที่ 28 ก.ย. พรรคจะส่งตัวแทนไปร่วมหารือกับกกต. เวลา17.00น. และในเย็นวันนี้พรรคจะเผยแพร่ร่างข้อบังคับพรรค ผ่านเว็บไซต์พรรค โดยเนื้อหาสำคัญมีทั้งคำประกาศเจตนารมณ์ คำประกาศอุดมการณ์ของพรรค คำประกาศนโยบายของพรรค ที่จะกำหนดแนวทางพรรคในอนาคต รวมไปถึงการกำหนดโครงสร้างการบริหารจัดการพรรครูปแบบใหม่

       

           ทั้งนี้วันที่ 25 ก.ย. พรรคเพื่อไทยจะเปิดรับสมัครสมาชิกและในวันที่ 26 ก.ย.จะเชิญอดีตรัฐมนตรี อดีตส.ส. สมาชิกพรรค มาหารือฟังข้อบังคับพรรค วันพุธที่ 3 ต.ค.จะมีการประชุมใหญ่พรรคเพื่อรับรองข้อบังคับพรรค โดยจะมีรักษาการกรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรคจำนวน 250คน ประกอบด้วย อดีตรัฐมนตรี อดีตส.ส. และตัวแทนแต่ละภาคมาร่วมประชุมด้วย ขั้นตอนจากนี้นั้นจะมีการตั้งสาขาพรรค 4 สาขา ตามที่กฎหมายกำหนด ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ อีสานจ.อุดรธานี ภาคกลาง จ.สมุทรปราการ ภาคใต้จ.นครศรีธรรมราช 

         

           นอกจากนี้จะมีการเปิดรับผู้สมัครแต่ละภูมิภาค โดยมีแกนนำพรรค พร้อมเดินทางไปรับสมัครสมาชิกพรรคด้วย เพราะถ้าเราไม่ไปรับสมัคร คงไม่มีใครเดินมาสมัครสมาชิกพรรคถึง500คน โดยคสช.อย่ากังวล ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่เราทำไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายลูกกำหนดไว้ คสช.จะกลัวอะไร อย่ากลัวแม้แต่เงาตัวเอง

 

           อย่างไรก็ตามเมื่อที่ประชุมใหญ่รับรองข้อบังคับพรรคแล้ว จะมีการประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันอาทิตย์ที่ 28 ต.ค. โดยคณะกรรมการชุดใหม่จะมีกรรมการบริหารพรรค 21 คนและจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครจำนวน 11 คน 

 

           ส่วนคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรคนั้น ยืนยันว่า ทุกคนที่เป็นสมาชิกพรรค สามารถถูกเสนอชื่อได้ แม้มีแคนดิเดตหลายคน จะไม่ทำให้พรรคขาดเอกภาพ ไม่ทำให้เกิดปัญหาในพรรค คนจะมาเป็นหัวหน้าพรรค ต้องเห็นพ้องต้องกัน มองเห็นจุดยืน อุดมการณ์พรรคชัดเจน เห็นโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป สามารถนำพาพรรค บุคคลากรเพื่อทำหน้าที่ฝ่าฟัน แก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ทำให้ชีวิตพี่น้องประชาชนต้องดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งพรรคจะมีโครงสร้างพรรค ประกอบไปด้วยนักการเมืองหน้าใหม่ คนรุ่นใหม่   

       

           ผู้สื่อข่าวถามว่าในเรื่องของการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ส่งผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า หลายเขตลดลง เนื่องจากจำนวนส.ส.ลดลง จาก 375 เหลือ 350 คน คงจะส่งผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทย เมื่อกฎหมายเป็นเช่นนี้ พรรคจะดำเนินการเลือกตั้งต่อไปในบริบทดักล่าว ส่วนการแบ่งเขตใหม่ ขอให้ผู้สมัครติดตามจากกกต.ด้วย หากไม่เป็นไปตามเกณฑ์จะต้องดำเนินการคัดค้าน

       

           ต่อข้อถามที่ว่า พรรคเพื่อไทยคาดหวังจำนวนส.ส.ไว้บ้างหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคมั่นใจจะได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่ง และร่วมมือกับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย สามารถนำพาสังคมไทยพ้นจากสภาพที่เป็นอยู่ได้ วันข้างหน้าการเมืองมีแค่2ฝ่าย คือฝ่ายที่เป็นอยู่ปัจจุบัน หรือฝ่ายประชาธิปไตย ที่พร้อมจะมาเปลี่ยนแปลงให้พี่น้องดีอยู่เดิม แต่ว่าทุกอย่าง ยังมีปัจจัยเงื่อนไข น่าพึงกังวลเช่นกัน นายวิษณุ พูดในทำนองเหมือน พรรคการเมืองไม่เข้าใจ แต่ต้องขอเรียนว่า เราเข้าใจ แต่พวกท่านทำสวนทางกลับสิ่งที่ควรจะเป็น ระบบการเมืองปกติ พรรคการเมืองสามารถสื่อสารกับประชาชนได้ตลอดเวลา นายวิษณุ ไม่เคยลงเลือกตั้ง เลยไม่เข้าใจ โดยในวันที่ประชุมร่วมกับกกต.จะนำเรื่องนี้ไปหารือด้วย  

       

           ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสข่าวกลุ่มสามมิตรจะดึงอดีตส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ไปร่วมงานการเมืองด้วย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ค่อยสนใจกลุ่มสามมิตรเท่าไหร่ ที่อยากจะไปดูดคนนั้น คนนี้ เขามีสิทธิจะทำ แต่ต้องยอมรับ ช่วงการเปลี่ยนแปลงโยกย้าย บุคคลากรเลือกตั้งมีเป็นเรื่องธรรมดา อยู่ที่ว่าการเปลี่ยนแปลงของผู้สมัคร มีเหตุผลที่พี่น้องประชาชนเข้าใจ ยอมรับได้หรือไม่ ประชาชนจะตัดสินใจตอนวันเลือกตั้ง ตอนนี้เป็นเหมือนการเกทับ บลัฟแหลก บางคนที่ไป ไปด้วยเหตุอะไร ต้องไปดูกัน แต่ปัจจุบันยังไม่เห็นว่า พรรคเพื่อไทยใครจะไป

       

           ส่วนบทบาทนายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จากนี้ เนื่องจากเงื่อนไขรัฐธรรมนูญกำหนดห้ามเข้ามาบงการ สั่งการ นายภูมิธรรมกล่าวว่า นายทักษิณ เป็นบุคคลากรของโลกไปแล้ว หลายประเทศเชิญเป็นที่ปรึกษา ในส่วนพรรคเพื่อไทยยึดมั่นในข้อกฎหมาย ไม่ได้กังวลใจ เป็นปัญหาเก่า ที่มักถูกถามขึ้น แต่เราก็ยืนยันในจุดยืน ยึดมั่นตามกรอบรัฐธรรมนูญในปัจจุบัน