"อดีตรองเลขาฯสมช."ที่โดน"ม.44"นั่ง"รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่"

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมใหญ่พรรคอนาคตใหม่ สมาชิกพรรคมีการรับรองชื่อพรรค สัญลักษณ์ของพรรค รวมถึงข้อบังคับต่างๆ และคณะกรรมการพรรค ทั้งหมด 17 คน ได้แก่ 1. ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (Thanathorn Juangroongruangkit) หัวหน้าพรรค รองประธานกรรมการบริษัทไทยซัมมิท จบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์การเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้านการเงินจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และด้านกฎหมายธุรกิจระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยเซนต์แกลเลน สวิตเซอร์แลนด์ 
 
2. ปิยบุตร แสงกนกกุล (Piyabutr Saengkanokkul) เลขาธิการพรรค นักวิชาการด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทด้านกฎหมายมหาชนจากฝรั่งเศส มีผลงานทางวิชาการ และข้อเสนอทางวิชาการออกสู่สังคมอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่าน 

3. กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ (Kunthida Rungruengkiat) รองหัวหน้าพรรคคนแรก จบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทด้านการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมจากมหาวิทยาลัยแห่งเมืองยูวาสกูล่า ประเทศฟินแลนด์ ปัจจุบันศึกษาปริญญาเอกด้านภาษาศาสตร์ประยุกต์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มีผลงานแปลวรรณกรรมเยาวชนและรวมเรื่องสั้นจากนักเขียนชั้นนำของประเทศฟินแลนด์ และเขียนหนังสือและคอลัมน์ใน WAY Magazine เกี่ยวกับประเด็นการศึกษาและวัฒนธรรม
 
4. ชำนาญ จันทร์เรือง (Chamnan Chanruang) รองหัวหน้าพรรคคนที่ 2 อาจารย์พิเศษด้านการเมืองและกฎหมาย นักสิทธิมนุษยชน อดีตประธานแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ปัจจุบันเป็นคณะทำงานความเป็นธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองไทยในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ  และเป็นผู้ยกร่าง พรบ.ระเบียบบริหารราชการเชียงใหม่มหานคร ต้นแบบจังหวัดจัดการตนเองที่แพร่หลายไปกว่า 50 จังหวัด 

 
5. พล.ท.พงศกร รอดชมภู (Pongsakorn Rodchompoo) รองหัวหน้าพรรคคนที่ 3 นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 14  อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และอดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่ร่วมเจรจาแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัจจุบัน เกษียณอายุราชการแล้ว แต่ยังคงเขียนบทความและนำเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับด้านการทหาร การต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ พล.ท.พงศกร เคยโดนคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่21/2558 โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ให้พ้นจากตำแหน่ง รองเลขาฯสมช. มาแล้ว ซึ่งมีรายงาน พล.ท.พงศกร เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น14 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสมช. ซึ่งใกล้ชิดกับรัฐบาลเพื่อไทย ทำให้หัวหน้าคสช.มีคำสั่งดังกล่าว

                                                    พล.ท.พงศกร รอดชมภู

 

 

6. รณวิต หล่อเลิศสุนทร (Ronnawit Lorlertsoonthorn) รองหัวหน้าพรรคคนที่ 4 จบการศึกษาปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิตสองสถาบัน จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และมหาวิทยาลัยแห่งเมืองน็อตติงแฮม ประเทศอังกฤษ ปริญญาโทวิศวกรรมศาสตร์ สาขาการสื่อสารโทรคมนาคม อิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผ่านประสบการการทำงานในสายงานการพัฒนาธุรกิจกับบริษัทเอกชนชั้นนำในธุรกิจด้านการสื่อสารโทรคมนาคมและด้านเทคโนโลยีในประเทศไทยหลายแห่ง และผ่านการใช้ชีวิตการทำงานกับบริษัทไอทีและเทคโนโลยีระดับโลกในต่างประเทศ กว่า 10 ปี

 

7. พรรณิการ์ วานิช (Pannika Wanich) โฆษกพรรค จบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทด้านการเมืองโลกจากวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน หรือ LSE อดีตบรรณาธิการฝ่ายต่างประเทศ สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี เคยเป็นผู้ดำเนินรายการวิเคราะห์ข่าว Tonight Thailand, Voice Insight, The Chat Room, Divas’ Café และรายการสารคดี iASEAN เป็นนักวิเคราะห์ข่าวที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลทหารมาอย่างต่อเนื่อง

 

8. ไกลก้อง ไวทยาการ (Klaikong Vaidhyakarn) นายทะเบียนสมาชิกพรรค จบการศึกษาปริญญาโท สารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เริ่มทำงานด้านเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารเพื่อพัฒนาสังคม มากว่า 20 ปี ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาสังคม บริหารโครงการด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์สังคมร่วมกับหลายหน่วยงาน เช่น Google, Microsoft  เป็นผู้ผลักดันเรื่องการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะในประเทศไทย โดยมีความตั้งใจที่จะทำเรื่องข้อมูลสาธารณะให้ประชาชนเข้าถึงได้ เพื่อความโปร่งใส และพัฒนาเศรษฐกิจ เทคโนโลยีอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

9. นิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์ (Nitipat Taemphairojana) เหรัญญิก จบการศึกษาปริญญาตรี ด้านการเงินบริการ จากสถาบันเซาท์แธมตัน ประเทศอังกฤษ ปริญญาโทสาขาวิศวกรรมการเงิน จากประเทศเนเธอร์แลนด์ เคยร่วมงานที่ธนาคารโลก สาขาประเทศไทย  ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ (HSBC) บริษัทหลักทรัพย์ภัทร ก่อนจะลาออกมาเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับโภชนาการนักกีฬา และนำเข้าอุปกรณ์การกีฬา

 

10. สุนทร บุญยอด (Sunthon Bunyod) กรรมการสัดส่วนเครือข่ายผู้ใช้แรงงาน จบการศึกษา ปวส.ช่างกล จากวิทยาลัยเทคนิคยะลา จากนั้นเริ่มต้นทำงานเป็นช่างประกอบตัวถังรถยนต์ อยู่ในบริษัทเอกชนหลายแห่ง โดยในปี 2522 เริ่มต้นเข้าสู่ขบวนการสหภาพแรงงาน ทำงานร่วมกับเครือข่ายสหภาพแรงงานของบริษัทต่างๆ มีผลงานที่โดดเด่น อาทิ ร่วมผลักดันกฎหมายประกันสังคม ร่วมผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายคุ้มครองแรงงาน รวมถึงการเข้าร่วมช่วยเหลือแรงงานที่ถูกบริษัทต่างๆ เลิกจ้างและได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ตลอดระยะเวลาที่ทำงานมาเกือบ 40 ปี 

 

11. วิภาพรรณ วงษ์สว่าง (Wipaphan Wongsawang) กรรมการสัดส่วนเครือข่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่ (NGN)
นักออกแบบสื่อสารประเด็นสังคม มีประสบการณ์ 5 ปีด้านการพัฒนาเยาวชนผ่านกระบวนการอ่านออกเขียนได้ทางสื่อ นอกจากนี้ยังเคลื่อนไหวในประเด็นความเท่าเทียมทางเพศและการเรียนรู้ ปัจจุบันกำลังศึกษากระบวนการเกมและการออกแบบสภาพแวดล้อมทางความรู้

12. เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ (Yaowalux Wongpraparat) กรรมการสัดส่วนภูมิภาค ภาคเหนือ จบการศึกษาปริญญาโท สาขาจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปี 2535 เริ่มต้นทำงานเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดหลักทรัพย์ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากนั้น ปี 2545 ได้ย้ายกลับภูมิลำเนาเดิมที่ จ.เชียงใหม่ เป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยพายัพ ก่อนจะมาที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ จนกระทั่งปัจจุบัน มีผลงานวิจัยร่วมกับชุมชนจำนวนมาก อาทิ การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงการลงพื้นที่ให้บริการด้านวิชาการในชุมชนภาคเหนือมากว่า 15 ปี

 

13. สุรชัย ศรีสารคาม (Surachai Srisaracam) กรรมการสัดส่วนภูมิภาค ภาคกลาง จบการศึกษา ปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต ม.รามคำแหง ปริญญาโทด้านรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยรูสเวลท์ สหรัฐอเมริกา และปริญญาเอก รัฐประศาสนศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต รับราชการเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัดหลายแห่ง เคยดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) และเกษียณอายุในตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีผลงานโดดเด่น อาทิ โครงการจัดทำเลขประจำตัวประชาชน และการจัดสร้างฐานข้อมูลทะเบียนประชาชนกลางของประเทศไทย ที่ใช้กระทั่งปัจจุบัน เพื่อให้การจัดการทะเบียนราษฎรสะดวกและรวดเร็ว

 

14. เจนวิทย์ ไกรสินธุ์ (Janevit Kraisin) กรรมการสัดส่วนภูมิภาค ภาคใต้ จบการศึกษา ปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิพัฒนาและส่งเสริมเยาวชนคนหนุ่มสาว ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิ อีกทั้งยังเป็นประธานเครือข่ายคนรักถิ่น จ.นครศรีธรรมราช ในอดีต เป็นผู้ปฏิบัติงานให้กับสมาชิกสมาชิกวุฒิสภา จ.นครศรีธรรมราช พ.ศ.2551-2557

 

15. ชัน ภักดีศรี (Chan Phakdisri) กรรมการสัดส่วนภูมิภาค ภาคอีสาน จบการศึกษา วิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เริ่มทำงานด้านการพัฒนาในพื้นที่ภาคอีสานร่วมกับองค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2533  อาทิ เป็นผู้ช่วยผู้ปฏิบัติงานพื้นที่สนับสนุนทุนการศึกษาเด็ก ทุนภาคอีสานเหนือ เป็นผู้จัดการสหกรณ์การเกษตร ชาวนามหาชนจำกัด เลขานุการสภาองค์กรชุมชนภาคอีสานตอนล่าง คณะยุทธศาสตร์ขบวนองค์กรชุมชนภาคอีสานตอนกลาง เลขาธิการและคณะยุทธศาสตร์ขบวนการองค์กรชุมชน จ.ขอนแก่น ปัจจุบันยังคงทำงานด้านการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมเวลากว่า 40 ปี

 

 16. จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการสัดส่วนเลือกตั้งโดยตรงจากที่ประชุมใหญ่ นักธุรกิจภาคเอกชน ผู้บริหารองค์กร sme ขนาดใหญ่ เป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชน์ ตัวแทนกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่มีเครือข่ายทั่วประเทศ เป็นตัวแทนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและค้าขายกับต่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตลาด เข้าใจปัญหาโดยเฉพาะ sme สนใจช่วยเหลือทางด้าน การผลิต การตลาด หรือการพัฒนาสินค้าไปสู่นวัตกรรม สินค้าเกษตร การท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาชีวิตกระจายรายได้สู่ภูมิภาค และเป็นโครงการที่ทำได้จริง 

 

17. นิรามาน สุไลมาน กรรมการสัดส่วนเลือกตั้งโดยตรงจากที่ประชุมใหญ่ การศึกษาสูงสุด ป.โท สาขานิติศาสตร์บัณฑิต I.I.U.M มาเลเซีย อาจารย์สอนกฎหมาย เลขาธิการคณะกรรมการทนายความรุ่นที่ 5 ตั้งใจให้เกิดการปฏิรูประบอบราชการทุกระบบให้ปลอดคอรัปชั่น สร้างความกินดีอยู่ดีให้กับประชาชน ปฏิรูปการศึกษาให้ทั่วถึง ผลงานที่ผ่านมา อาทิ การคลี่คลายสถานการณ์การประท้วงของพี่น้องประชาชนมุสลิมเรือนหมื่น ณ มัสยิดกลาง จ.ปัตตานี ปี 2550