นาทีต่อนาที วันพิพากษา "จำนำข้าว"

06.00 น. : ภูมิ สาระผล เดินทางถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 
06.20 น. ตำรวจเปิดให้ประชาชนทยอยเข้าพื้นที่ที่กำหนดไว้
06.50 น. : องค์คณะผู้พิพากษาทั้งสองคณะถึงศาลฎีกาฯ
07.00 : มวลชนทยอยออเต็มหน้าฟุตบาธ
07.18 น. : กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตหัวหน้าที่เศรษฐกิจ รัฐบาล "ยิ่งลักษณ์"  ภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เดินทางมาถึง

07.20 น.: มณฑาทิพย์ ชินวัตร ,  พายัพ ชินวัตร  เดินทางถึงศาลฎีกาฯ

07.30 น. : บุญทรง เตริยาภิรมย์  เดินทางมาถึงศาลฎีกาฯ 

07.50 น.: มวลชนลงมาที่ถนน ปิดถนน 1 เลน  

 

09.30 น. : "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ" ยังไม่มาปรากฎตัว ขณะที่แกนนำพรรคเพื่อไทย อย่าง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์  ทะยอยเดินทางมาศาลฎีกา เพื่อรอมาให้กำลังใจสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่เป็นจำเลยของคดีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว

 

09.42 น. : "ยิ่งลักษณ์" ไม่มาศาล ระบุเหตุผลว่า "ป่วย" เพราะโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน ศาลพิเคราะห์แล้วว่ามีพฤติการณ์หลบหนี จึงออกหมายจับ และเลื่อนอ่านคำพิพากษา เฉพาะคดี "ยิ่งลักษณ์" ไป 27 กันยายน เวลา 09.00 น.

 

09.50 น. :  แกนนำพรรคเพื่อไทยยังอยู่ที่บริเวณศาล พร้อมจับกลุ่มพูดคุย ไม่เชื่อข่าวที่ออกมาว่า "ยิ่งลักษณ์" ถูกออกหมายจับ โดย "นพดล ปัทมะ" ระบุว่า ไม่ทราบว่า อดีตนายกฯ อยู่ที่ไหน และไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเป็นแบบนี้  เพราะเมื่อ 1-2สัปดาห์ก่อน ตนได้พบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีสิ่งบ่งชี้ใดๆ ส่วนกรณีที่ศาลใช้ดุลยพินิจออกหมายจับนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเคารพ ขณะที่ความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยหลังจากนี้หรือไม่นั้น อาจมีการพูดคุยกันในวงที่คุ้นเคย 

 

10.00 น. : หลังจากที่แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้รับทราบความชัดเจน ว่า "ยิ่งลักษณ์" ไม่เดินทางมาศาลในวันนี้ ทีมกฎหมายของพรรค อาทิ นายชัยเกษม นิติศิริ, นายภูมิธรรม เวชชยชัย ได้เดินทางกลับออกจากพื้นที่ศูนย์ราชการด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และผ่อนหลาย ซึ่งแตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่มีสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อทราบข่าวว่า ศาลออกหมายจับ "ยิ่งลักษณ์"

     

 

10.00 น. : "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี" ให้สัมภาษณ์หลังทราบข่าวว่าศาลออกหมายจับ "ยิ่งลักษณ์" เพราะมีไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัดหมาย  พร้อมเผยว่ามีคนกระซิบว่าเธออาจจะไม่มา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ความผิดพลาดทางการข่าว เพราะอดีตนายกฯ มีหลายบ้าน มีรถใช้หลายคัน และคนที่เป็นถึงอดีตนายกฯ อาจมีความเป็นไปว่าจะมีเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ  ส่วนขั้นตอนของศาล ไม่ขอก้าวล่วง

 

10.20 น. : นรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ "ยิ่งลักษณ์" ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้รับการประสานจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง เมื่อ 08.00 น. ว่า คุณยิ่งลักษณ์มีอาการอ่อนเพลีย เพราะป่วยด้วยโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน จึงไม่สามารถเดินทางมาศาลฯ ได้ ซึ่งตนได้ชี้แจงต่อศาลไปแล้ว ส่วนขณะนี้คุณยิ่งลักษณ์จะอยู่ที่โรงพยาบาลไหน หรือยังอยู่ภายในประเทศหรือไม่นั้น ไม่มีข้อมูล ขณะที่ประเด็นการออกหมายจับรวมถึงแนวทางปฏิบัติของศาลนั้น ศาลจะเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนกรณีที่คุณยิ่งลักษณ์ เดินทางมาศาลก่อนวันที่ 27 กันยายน แล้วไม่ต้องถูกหมายจับหรือไม่นั้น ตนไม่มั่นใจในขั้นตอน

 

 

11.00 น. : มวลชนหน้าศาล เริ่มทยอยออกจากพื้นที่หน้าศาลฏีกาบ้างแล้ว ขณะที่ศาลฯ ยังอยู่ระหว่างอ่านคำพิพากษาคดีที่มี "บุญทรง และพวก" เป็นจำเลย

 

14.50 น. : ศาลฏีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีพิพากษา คดีทุจริตขายข้าวแบบจีทูจี ให้จำคุก ภูมิ สาระผล อดีตรมช.กระทรวงพาณิชย์ จำคุก 36 ปี , บุญทรง เตริยาภิรมย์ จำคุก 42 ปี  , นายมนัส สร้อยพลอย  จำคุก 40 ปี, นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ จำคุก 32 ปี, นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ จำคุก 24 ปี และ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร  หรือ "เสี่ยเปี๋ยง"  จำคุก 48 ปี ซึ่งเป็นโทษจำคุกสูงสุดของคดีนี้ ขณะที่จำเลยคนอื่นให้ลงโทษจำคุกลดหลั่นตามพฤติการณ์

              โดยสาระของคำพิพากษาความผิดชี้ชัดว่าพฤติกรรมของภูมิ และ บุญทรง ฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ที่ครม. เห็นชอบให้ซื้อขายแบบ รัฐต่อรัฐ ได้ลงนามเห็นชอบสัญญาซื้อขายข้าวกับบริษัทของประเทศจีน นั้น ขายข้าวต่ำกว่าราคาตลาดทำให้ประเทศเสียหาย หลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการซื้อขายที่เป็นธรรม อีกทั้งไม่มีการซื้อขายข้าวที่แท้จริงไปยังประเทศจีน

            คำพิพากษาของศาลฏีกาฯ  ยังสั่งให้ บ.สยามอินดิก้า , นายอภิชาติ และ นายนิมล  รักดี หรือ "เสี่ยโจ" มือขวาของเสี่ยเปี๋ยง ร่วมชดใช้ค่าเสียหายแก่ "กระทรวงการคลัง" เป็นเงิน กว่า  1.6หมื่นล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 นับแต่วันที่รับมอบข้าวตามสัญญาแต่ละฉบับ ซึ่งการชดใช้ค่าเสียหายนั้น ให้จำเลยอื่นร่วมชดใช้ด้วย ขณะที่ นายสมยศ คุณจักร จำเลยที่ 19 , และกลุ่มบริษัทเอกชนโรงสีข้าวและกรรมการบริษัท ฐานะจำเลยที่ 22-28 นั้น ศาลให้ยกฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 21 ซึ่งเป็นบุตรสาวของเสี่ยเปี๋ยง " น.ส.ธันยพร จันทร์สกุลพร กรรมการบริษัทกีธา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด" ซึ่งศาลพิพากษาให้ชดใช้เงิน กว่า  1,294 ล้านบาท แต่เนื่องจาก น.ส.ธันยพร ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาจึงนัดให้มาฟังคำพิพากษาในวันที่ 27 กันยายน เวลา 09.00 น.

         

15.27 น. :  เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้นำตัว ภูมิ และบุญทรง และจำเลยที่ถูกพิพากษาขึ้นรถลูกรงเรือนจำ ออกจากศาล เพื่อนำตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างรอทนายของผู้ต้องคำพิพากษาเขียนคำขออุทธรณ์ตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 กำหนดไว้ให้

 

 

16.00 น. : อธบดีกรมราชทัณฑ์ - "กอบเกียรติ กสิวิวัฒน์" เผยจำเลยคดีทุจริตซื้อขายข้าวแบบจีทูจี จะถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ก่อนที่วันอื่นๆ จะถูกพิจารณาไปจำคุกที่เรือนจำอื่นๆ เช่น เรือนจำกลางคลองเปรม สำหรับเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นั้นจะใช้คุมขังนักโทษที่มีโทษจำคุกเพียงไม่กี่ปี ขณะที่ขั้นตอนการรับตัวผู้ต้องขังนั้น เป็นไปตามกระบวนการปกติ และส่งเข้าแดนแรกรับ ทั้งนี้การเข้าเรือนจำของผู้ต้องขังมาในเวลาเย็น ในขั้นตอนตรวจร่างกายนั้นจะเริ่มในวันที่ 26 สิงหาคม

             ส่วน "เสี่ยเปี๋ยง" ที่ถูกคุมขังอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว ล่าสุดมีอาการป่วนและถูกขังที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทั้งนี้จะเปิดให้ญาติเข้าเยี่ยมได้ในวันพรุ่งนี้ ตามเวลาเยี่ยมที่กำหนดไว้