Lifestyle

สหกรณ์กับการค้าเสรี"เอฟทีเอ"ในมุมมอง"รมช.พาณิชย์"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - สุรัตน์ อัตตะ [email protected]

            การติดอาวุธทางปัญญาให้แก่สหกรณ์ไทยในการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ ถือเป็นการยกระดับการแข่งขันให้ก้าวไกลในโลกการค้าเสรีมากขึ้น การลงพื้นที่ จ.สุราษฎ์ธานี ของ “วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล" รมช.พาณิชย์ และคณะ เพื่อสำรวจปัญหาด้านการตลาดและการให้ข้อมูล “เอฟทีเอ” (FTA : Free Trade Area) หรือเขตการค้าเสรีที่มีภาษีเป็นศูนย์แก่สมาชิกสหกรณ์การเกษตรบ้านนาสาร จำกัด อ.บ้านนาสาร แหล่งผลิตเงาะโรงเรียนที่มีชื่อเสียงและสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มน้ำท่าทอง จำกัด อ.กาญจนดิษฐ์ เมื่อเร็วๆ นี้

           นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญในการสร้างความเข้มแข็งด้านการตลาดให้แก่สหกรณ์โดยไม่ต้องหวังพึ่งพาพ่อค้าคนกลางอีกต่อไป

สหกรณ์กับการค้าเสรี"เอฟทีเอ"ในมุมมอง"รมช.พาณิชย์"

“วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล" รมช.พาณิชย์

สหกรณ์กับการค้าเสรี"เอฟทีเอ"ในมุมมอง"รมช.พาณิชย์"

เงาะโรงเรียนนาสารคุณภาพส่งออก

สหกรณ์กับการค้าเสรี"เอฟทีเอ"ในมุมมอง"รมช.พาณิชย์"

บ่อเลี้ยงกุ้งขาวของสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มน้ำท่าทอง

     

     “คม ชัด ลึก” ถือโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ รมช.พาณิชย์ “วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล" ถึงแนวทางในการดำเนินนโยบายดังกล่าว

#การลงพื้นที่ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่ออะไร 

       การลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและกลุ่มสหกรณ์ใน จ.สุราษฎร์ธานี ในวันนี้ก็เพื่อต้องการทราบว่าสินค้าเกษตรท้องถิ่นที่มีศักยภาพในการส่งออกหรือที่มีการส่งออกอยู่แล้วมีความต้องการให้กระทรวงพาณิชย์สนับสนุนให้สินค้าเหล่านั้นสามารถส่งออกไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้นหรือไม่ อย่างไร ซึ่งก็พบว่าเงาะ กล้วยหอม และกุ้ง เป็นสินค้าที่มีศักยภาพของ จ.สุราษฎร์ธานี อยู่แล้ว และมีการรวมกลุ่มตั้งเป็นสหกรณ์ที่มีการบริหารจัดการที่ดี และมีการส่งออกไปยังต่างประเทศบ้างแล้ว  

      แต่ผมมองว่ายังมีช่องทางที่จะขยายการส่งออกได้เพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะในประเทศที่เราทำความตกลงการค้าเสรี หรือเอฟทีเอด้วย อย่างเช่น อาเซียน จีน และญี่ปุ่น ซึ่งไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่ที่ส่งออกจากไทย จึงอยากให้เกษตรกรใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าให้มากๆ และได้สั่งให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศช่วยเร่งให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ต่อไป

#เอฟทีเอจะช่วยแก้ปัญหาสินค้าเกษตรได้อย่างไร

       วันนี้เราเห็นอย่างหนึ่งคือสหกรณ์เขาเข้มแข็ง อย่างเงาะความต้องการยังไม่พอ ถ้าเกรดพรีเมียมเขาส่งประเทศจีนหมด ยิ่งกล้วยหอมก็ส่งญี่ปุ่น ถ้าส่งญี่ปุ่นได้ทั่วโลกไปได้หมด เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ค่อนข้างมาตรฐานสูง ผู้บริโภคมาตรฐานสูงที่สุดในโลกก็คือคนญี่ปุ่น

       ยิ่งประเทศไหนเปิดเอฟทีเอก็จะยิ่งง่ายขึ้นไปอีก เพราะมันไม่มีภาษี จีนก็ไม่มีภาษีอยู่แล้ว เพราะไทยเรามีเอฟทีเออาเซียนบวกจีน คือ 10 ประเทศในอาเซียนส่งไปจีนภาษีศูนย์เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ไทยกำลังจะเปิดเอฟทีเอกับสหภาพยุโรป

       ที่จริงยุโรปเราคุยกันมานานแล้ว คุยกันไป 4 รอบแล้ว แต่หยุดไปคราวนี้นโยบายท่านนายกรัฐมนตรีพูดชัดว่ายุโรปเป็นประเทศใหญ่ประชากร 500 ล้านคน เอฟทีเอครั้งแรกเริ่มจากอาเซียน-ยุโรป พออาเซียนหยุด ยุโรปหยุดชะงักก็เลยใช้วิธีใหม่ให้แต่ละประเทศทำกันเอง เช่น ไทย-อียู เวียดนาม-อียู จะไล่กันไปแบบนี้ แต่ตอนนี้สหภาพยุโรปเขากำลังเลือกตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ก็เลยต้องใช้ระยะเวลาสักระยะหนึ่ง

#มองตลาดจีนเป็นอย่างไรบ้าง

         จีนเป็นตลาดที่น่าสนใจมาก เป็นตลาดใหญ่ พลเมืองเขาเยอะ อย่างกุ้ง คนจีนเขาบริโภคทั้งประเทศ 1.5 ล้านตัน ประเทศไทยผลิตได้แค่ 3 แสนตัน จากเดิมผลิตได้ 6 แสนตัน ตอนนี้ลดลงเหลือ 3 แสนตัน เนื่องจากปัญหาต้นทุนที่สูง แต่คุณภาพรสชาติเราได้ ต้นทุนที่สูงก็มาจากหลายๆ ปัจจัย เช่นค่ากระแสไฟฟ้า ค่าแรงงานและหลายๆ อย่าง

         ปัญหาเขาตอนนี้อยากมีห้องเย็นจะได้เก็บไว้ได้ 1 ปี เมื่อเก็บไม่ได้คนกลางก็มากดราคา อันนี้คือปัญหาหลัก เคยคุยกับผู้นำเข้า บอกว่าถ้าเป็นกุ้งไทยราคาจะแพงกว่านิดหน่อย แต่เขาก็ยินดีที่จะซื้อ เพราะไทยเรามีชื่อเสียงมานานเป็นแหล่งอาหารของโลก

#เท่าที่รับฟังปัญหาของสหกรณ์ทั้งสองแห่งคืออะไร

         ส่วนตัวคิดว่าที่นาสารเขาไม่มีปัญหา ส่วนที่ท่าทองเขามีปัญหา อดีตที่ผ่านมาประเทศไทยผลิตกุ้งได้ 6 แสนตัน แต่ปัจจุบันการผลิตลดลงได้แค่ 3 แสนตัน ส่วนหนึ่งปัญหาจากโรคระบาด เมื่อก่อนกุ้งไทยเคยส่งออกเป็นอันดับหนึ่งของโลก แต่ปัจจุบันลงมาอยู่อันดับ 5 รองจากเวียดนาม อินเดีย อินโดนีเซีย และเอกกาวอดอร์ นั่นแสดงว่าเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งอ่อนแอลง สิ่งที่ช่วยได้คือหนึ่งอาหาร สองลูกพันธุ์ สามไฟฟ้า และสี่ห้องเย็น นอกจากนี้ทางออกน่าจะมีการรวมกลุ่มให้เยอะขึ้นและสร้างกลุ่มให้เข้มแข็ง ไม่เช่นนั้นจะลำบาก

#สินค้าจีไอ(GI)มีผลต่อส่งออกอย่างไร

         ก็มีผลในเรื่องราคา มูลค่าสินค้า อย่างมาเลย์ถ้าเป็นจีไอส่งไปเท่าไรเขาเอาหมดหรือเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ถึงจะปั้นที่อื่นก็ไม่เหมือนที่ด่านเกวียน เงาะโรงเรียนนาสารก็เหมือนกัน จะไปปลูกที่ไหนความอร่อยก็ไม่เหมือนที่แหล่งกำเนิด เขาอธิบายว่าที่นาสารมันมีแร่ธาตุบางอย่างที่มีผลต่อผลผลิตเงาะด้วย

 

  “เคหว่อง”แบรนด์เงาะโรงเรียนนาสาร  

             อรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมทางการค้าให้แก่สหกรณ์ไทยเพื่อก้าวไปสู่การค้าเสรีว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศขานรับนโยบายของ รมช.พาณิชย์ โดยให้ความสำคัญกับการหาตลาดและกระจายสินค้าในภูมิภาคของไทยไปต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ ช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้เกษตรกรและผู้ประกอบการไทย จึงร่วมมือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ดำเนินโครงการ “พัฒนาความพร้อมทางการค้าของสหกรณ์ไทยสู่การค้าเสรี” เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคของไทยสู่สากล

           โดยเฉพาะสหกรณ์การเกษตรบ้านนาสาร จำกัด จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมผลไม้ของสมาชิกสหกรณ์ โดยเฉพาะเงาะโรงเรียนนาสาร ที่ส่งออกไปจีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยปัจจุบันสหกรณ์รวบรวมเงาะได้วันละ 2.5 ตัน ส่งขายในราคากิโลกรัมละ 160 บาท ในขณะที่ราคาเงาะในประเทศกิโลกรัมละ 20 กว่าบาท นับว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าได้หลายเท่า พร้อมช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรได้อย่างยั่งยืน ในอนาคตสหกรณ์เตรียมส่งออกเงาะพรีเมียมโดยใช้แบรนด์ของสหกรณ์เอง ชื่อ “เคหว่อง” และมีแผนออกแบบบรรจุภัณฑ์ จัดทำคิวอาร์โค้ด เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งผลิตได้ ส่วนกล้วยหอม ปัจจุบันส่งกระจายให้ร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ และส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น

            ส่วนสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มน้ำท่าทอง จำกัด อ.กาญจนดิษฐ์ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตกุ้งขาวแวนนาไม มีสมาชิก 418 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงกุ้งกว่า 8,345 ไร่ ในปี 2561 สหกรณ์รวบรวมผลผลิตได้ 400 ตัน มูลค่า 86.8 ล้านบาท จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยมีตลาดหลัก คือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น แคนนาดา สหภาพยุโรป ปัจจุบันสหกรณ์มีแผนสร้างห้องเย็นเพื่อแปรรูปเป็นสินค้ากุ้งพรีเมียม และเพื่อลดต้นทุนการผลิต เตรียมส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยสหกรณ์ได้ไปแสดงสินค้าที่จีนและญี่ปุ่นมาแล้ว ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก มีแผนส่งออกหลังสร้างห้องเย็นเสร็จ ทั้งนี้จะเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้ากุ้งและเพิ่มช่องทางการจำหน่าย และลดปัญหาราคาสินค้ากุ้งตกต่ำอีกด้วย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ