Lifestyle

"ต้อม" แรงจัด เกมโอเวอร์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รายงานพิเศษ จากหนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันที่ 31 ส.ค. 62

 

 

*****************************

 

ในยุคสมัยที่คนดังแสดงออกทางการเมืองอย่างโจ่งแจ้ง ไม่แอ๊บ ไม่แอบ ชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในบ้านนี้เมืองนี้ อย่างน้อยๆ ก็กว่าทศวรรษที่ผ่านมา

 

ถ้าคนอย่าง ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค” จะออกมาอีกสักคน ทำไมคนไทยจะต้องแปลกใจ

 

 

  "ต้อม"  แรงจัด เกมโอเวอร์

เฟซบุ๊ก Yuthlert Sippapak

 

 

ต่อให้เราอาจตกใจบ้างกับแอ็กชั่นของเขาที่ทั้งรุนแรง และท้าทาย แต่คนที่เป็นแฟนคลับจะรู้ว่านี่แหละพี่ต้อม ผู้กำกับหนัง “หัวขบถ” คนเดิม ผู้ไม่เคยเกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหน

 

แต่มาหนนี้ ทุกคนอาจเริ่มเป็นห่วงชะตากรรมของเขาไปพร้อมๆ กัน เพราะลูกบ้าเที่ยวล่า อาจนำพาชายวัย 52 คนนี้ ไปยังจุดที่แม้แต่ตนเองยังนึกไม่ถึง

 

 

ผู้กำกับหัวขบถ

 

หลายคนอาจเรียกเขาว่า ผู้กำกับสายติสต์ สายแหวก แต่ในที่นี้ขอเรียกว่า ต้อม หัวขบถ”

 

“ต้อม” ซื่อตรงต่อสายที่เรียนเพียงปีเดียว คือจบคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยดังย่านหน้าพระลาน ราวปี 2534 แล้วไปทำอย่างอื่น

 

คืออาจไม่ถึงกับหักเข็มทิศ แต่การเบนไปเรียนต่อที่ The Art Students League of New York อีก 2 ปี (2536-2538) และซุ่มเรียนรู้งานด้านภาพยนตร์จากการศึกษาหาอ่านด้วยตนเองที่ร้านหนังสือ “บาร์นส์แอนด์โนเบิล” ได้นำเขาเข้าสู่เส้นทางของ “ศิลปะแขนงที่ 7” ได้อย่างไม่ผิดหวัง

 

เพราะที่สุด คนไทยวงกว้างมารู้จักต้อม ก็ตอนที่เขามานั่งให้สัมภาษณ์สื่อในฐานะผู้กำกับหนังหน้าใหม่ที่ปังตั้งแต่เรื่องแรก มือปืน/โลก/พระ/จัน” ในปี 2544 กวาดรายได้กว่า 120 ล้านบาท

 

 

  "ต้อม"  แรงจัด เกมโอเวอร์

 

 

ด้วยฝีมือของคนหนุ่มวัยสามสิบต้นๆ ต้อมไม่เพียงเป็นผู้กำกับ แต่ยังเขียนบทเองอีกด้วย แถมหนังเรื่องต่อๆ มา นายทุนของต้อมไม่เคยเจ๊ง แถมรวยซ้ำรวยซ้อน

 

 

  "ต้อม"  แรงจัด เกมโอเวอร์

 

 

ปี 2546 ต้อมโชว์เหนือทั้งหนังรัก-หนังผี อย่าง “กุมภาพันธ์” และ “บุปผาราตรี” เรื่องหลังเรียกว่าแหวกขนบหนังผีไทยไปหมดสิ้น เพราะทั้งขำทั้งหลอนสุดๆ และอีกหลายเรื่อง ที่โกยรายได้เพียบ !

 

 

  "ต้อม"  แรงจัด เกมโอเวอร์

 

 

แต่สิ่งที่คนไทยสัมผัสได้อย่างหนึ่ง คือแม้ต้อมจะให้สัมภาษณ์สื่ออย่างมั่นใจและกล้าเอ่ยถึงความเก่งกาจของตนเองอย่างตรงไปตรงมา แต่เขาก็ยังเป็นคนช่างแซะ ช่างเสียด มานานแล้ว มิใช่เพิ่งเป็นกับการเมืองอีกด้วย

 

ตัวอย่างพอสังเขป ต้อมเคยพูดถึงหนังรางวัลใหญ่แถบยุโรปทำนองว่า ทำหนังไปคานส์ง่ายนิดเดียว คือทำให้ดูยากเข้าไว้ แน่นอนมีคนเห็นด้วย และเห็นต่างตัวโก่ง แต่ก็พอจะฉายภาพของต้อมหัวขบถได้เป็นอย่างดี

 

 

ศิลปินหัวรุนแรง?

 

ต้อมเคยกล่าวไว้ในผู้จัดการออนไลน์ ช่วงปี 2546 เขาบอกว่า ความสำเร็จของเขาในวันนี้ มาจากความไม่พอใจ และความโกรธ เป็นพลังขับเคลื่อนที่ทรงพลังที่สุด เราอาจนึกไม่ถึงว่า ต้อมเคยถูกปฏิเสธจากหลายๆ ค่าย

 

ก่อนจะมาได้โอกาสจาก “วิสูตร พูลวรลักษณ์” เจ้าของค่ายไท เอนเตอร์เทนเม้นท์ ในขณะนั้น หากวันต่อๆ มา ยุทธเลิศก็ยังคงใช้ความโกรธเป็นแรงขับเคลื่อนในการสร้างผลงาน

 

 

  "ต้อม"  แรงจัด เกมโอเวอร์

 

 

เราคงยังไม่ลืม ภาพยนตร์ของต้อมอีกเรื่องที่คนไทยอดดู อย่าง “ปิตุภูมิ” เพราะทีมสร้างตัดใจไม่นำออกฉาย เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเกินไป ทั้งที่เดิมทีวางแผนจะลงโรงทั่วประเทศวันที่ 5 ธันวาคม 2555

 

เรื่องนี้มาจากหนังสือ “พรมแดน” ของ วสิษฐ เดชกุญชร” เกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมาได้ “ต้อมคนเก๋า” สร้างสรรค์ พัฒนา เขียนบท และกำกับ

 

 

  "ต้อม"  แรงจัด เกมโอเวอร์

กองถ่าย "ปิตุภูมิ" ที่นราธิวาส ภาพจากเฟซบุ๊ก Yuthlert Sippapak

 

 

อาจเป็นความโกรธ หรือความกวนโอ๊ย ตามสไตล์ยุทธเลิศก็ได้ ช่วงปี 2556 เขาให้สัมภาษณ์สื่อในทำนองว่าได้วางแผนสร้างโรงหนังของตนเองไกลถึง “เชียงคาน” แถบบ้านเกิด และบอกเลยว่าหนังใครโดนแบนให้มาหาเรา (ฮา)

 

หรือบางทีอาจเป็น “ความน้อยใจ” ก็ไม่แน่ เพราะต้อมบอกว่า นี่คือความตั้งใจทำหนังที่ดึงให้คนไทยกลับมารักกัน หลังจากที่เห็นคนไทยโกรธกันเองมาระยะหนึ่ง ในบรรยากาศการเมืองขั้วสี

 

แน่นอนทางหนึ่ง ปิตุภูมิได้ทำหน้าที่สองอย่างคือ สร้าง “คู่ขวัญ” ขึ้นมาในโลกจริง ระหว่าง “เบลล่า” ราณี และ เวียร์” ศุกลวัฒน์ ที่ปิ๊งปั๊งกันจากเรื่องนี้

 

 

  "ต้อม"  แรงจัด เกมโอเวอร์

ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chatchawan Sonon

 

 

และคนเมืองเลยได้มีโรงหนัง “เพชรเชียงคาน” ขนาด 100 ที่นั่ง ที่ยุทธเลิศไม่ได้โม้ แต่ทำจริงโดยเช่าพื้นที่กลางเมืองเชียงคานนาน 13 ปี เพื่อสานฝันส่วนนี้

 

แต่สำหรับ ต้อม ยุทธเลิศ เอง ดูเหมือนว่าหลังจากนั้น คนไทยเริ่มเห็นเขาในบทบาทของคนดังที่มีความคิดเห็นทางการเมืองอย่างสุดโต่ง และยิ่งโจ่งแจ้ง รุนแรง คนหนึ่งนับจากกลางๆ ปี 2557 เป็นต้นมา

 

 

ประชาชนหัวสี?

 

ที่น่าสนใจและขนลุกไปพร้อมกัน ต้อมเคยบอกในรายการเจาะข่าวตื้นหลายปีก่อน ว่าก่อนจะเป็น “ปิตุภูมิ” เขาเคยคิดสร้างหนังอิงการเมือง ชนิดที่ดูเสร็จแล้วคนไทยจะไม่มีเหลือง-แดง แต่จะกลายเป็น “สีส้ม” และจะรักกันสุดๆ

 

  "ต้อม"  แรงจัด เกมโอเวอร์

 

กระนั้นก็ดี เท่าที่คนไทยจำได้ เราไม่เคยเห็นต้อมไปโผล่ที่เวทีไหน จะเหลือง-แดง หรือแม้แต่ “นกหวีด” นอกจากประกาศตนชัดเจนว่าสนับสนุนสีส้ม อย่าง “พรรคอนาคตใหม่” พรรคที่เพิ่งกำเนิดมีอายุแค่ขวบปี

 

เพียงแต่เขาไม่ได้แค่สนับสนุนการเมืองของคนรุ่นใหม่ และ (อาจจะ) กาเลือกพรรคนี้อย่างเดียว แต่ยังแสดงออกในการต่อต้านการเมืองที่อยู่ภายใต้ คสช. อย่างเต็มที่

 

เรื่องนี้ในแง่การทำงาน เจ้าตัวบอกว่ามีปัญหาบ้างกับเพื่อนร่วมงานที่ 9 ใน 10 คนคิดต่างกับเขา จึงพยายามไม่ไปแตะ และร่วมงานกันได้

 

แต่ในส่วนตัว ยุทธเลิศไม่เพียงไปออกสื่อ และให้สัมภาษณ์ทางการเมืองอย่างเผ็ดร้อน เขายังใช้แพลตฟอร์มในสื่อโซเชียลมีเดีย อย่าง ทวิตเตอร์ @yuhtlerd และอินสตาแกรม yuthlerd.nmg แสดงออกเต็มที่

 

ช่วงพฤษภาคมที่ผ่านมา เขาออกเคลื่อนไหวโดยโพสต์ภาพบนไอจีใส่หน้ากากสีดำ พร้อมระบุแคปชั่นในท่วงทำนองต่อต้านนายกรัฐมนตรี เรียกกระแสฮือฮาไปพักใหญ่

 

 

  "ต้อม"  แรงจัด เกมโอเวอร์

 

 

แต่ก็ยังไม่เด็ดเท่าทวิตเตอร์เที่ยวล่าสุด ที่ทวิตไปแค่ประโยคเดียวทำเสียวทั้งบาง จนต้องลบข้อมูลและข้อความที่โพสต์ไว้ทั้งหมดแล้ว หลังมีคนเข้าแจ้งความเอาผิดต่อพนักงานสอบสวนในข้อหา “หมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ”

 

งานนี้ไม่รู้จะนำพาเขาไปถึงไหน อาจไม่มีอะไร หรืออาจทำให้เขาและครอบครัว ต้องย้ายไปอยู่นิวซีแลนด์ตามแผนที่วางไว้ (ถ้าเกิดแอ็กซิเดนท์บางอย่าง) เร็วกว่าปกติก็ได้

 

****************************

 

ขอบคุณภาพจาก

อินสตาแกรม yuthlerd.nmg
เฟซบุ๊ก Chatchawan Sonon
เฟซบุ๊ก Yuthlert Sippapak
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ