Lifestyle

สิ้นนักสู้อีสาน “พ.อ.สมคิด ศรีสังคม” ผู้ยึดมั่นในสังคมนิยม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วันนี้ ชีวิตที่เดินมาถึง 100 ปี 2 เดือน หากบวกกับเสียงยกย่องชื่นชม และศรัทธาจากคนรุ่นหลัง ที่ยังคงก้องกังวาน ถือว่าเกินคุ้มสำหรับ พ.อ.สมคิดแล้ว

               ข่าวเศร้า เมื่อ “พ.อ.สมคิด ศรีสังคม” อดีตหัวหน้าพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย ถึงแก่กรรมลงด้วยอาการสงบ ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อเวลา 04.58 น.ของวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา หลังจากป่วยด้วยโรคชรา และพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านซอยท่านผู้หญิงพหลฯ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร มาระยะเวลาหนึ่งแล้ว

               ทั้งนี้ เบื้องต้นครอบครัวจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดในกรุงเทพมหานคร ก่อนเคลื่อนศพมาเก็บไว้ที่ อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี เพื่อรอประกอบพิธีในเดือนธันวาคมนี้

               สำหรับ พ.อ.สมคิด ศรีสังคม นั้น มีประวัติความเป็นมาที่ต้องนับว่าเป็นคนพิเศษคนหนึ่ง เพราะเขาคือ อดีต ส.ส., อดีต ส.ว.อุดรธานี และอดีตประธานโครงการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย หรือไกลกว่านั้นคือ เขาคือหัวหน้าพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทยอีกด้วย

               พ.อ.สมคิด เกิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2460 จึงแปลว่า ขณะเสียชีวิต ท่านมีอายุถึง 100 ปี กับ 2 เดือน!! พื้นเพเดิมเป็นชาวบ้าน ต.สร้างคอม อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี บิดาคือ “นั่น” มารดาคือ “คำมี” ศรีสังคม เป็นน้องคนสุดท้องจากพี่น้อง 8 คน ในครอบครัวชาวนา

               ขณะที่ชีวิตครอบครัว สมรสกับชาวต่างชาติ คือ “ฟรานเซสกา ศรีสังคม” มีบุตรชาย 1 คน คือ “ศักดา ศรีสังคม” และบุตรสาวอีก 3 คน

               ชีวิตวัยต้น พ.อ.สมคิดเรียนที่โรงเรียนประชาบาลบ้านสร้างคอม โดยเรียนชั้น ป.1-5, จากนั้นไปต่อที่โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล อุดรธานี จบชั้น ม.8 ช่วงปี 2478 ด้วยคะแนนระดับดีเยี่ยมของประเทศ และเข้ากรุงเทพฯ มาเรียนที่โรงเรียนฝึกหัดครูกรุงเทพฯ จนจบหลักสูตรประกาศนียบัตรประโยคประถม (ป.ป.)

               ช่วงปี 2479 กลับมาเป็นครูที่บ้านเกิด โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล แต่ด้วยเหตุที่ได้ศึกษาวิชากฎหมายจนจบธรรมศาสตรบัณฑิต และนิติศาสตรบัณฑิต ม.ธรรมศาสตร์ จึงไปสอบได้เป็นข้าราชการกรมอัยการ กระทรวงมหาดไทย ตำแหน่งผู้ช่วยอัยการ

               แต่ทำงานได้เพียง 6 เดือน ก็สอบแข่งขันได้เป็นทหารในกรมพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม ในปี 2484 จนถึงปี 2492 ก็สามารถสอบชิงทุนไปต่อปริญญาตรีด้านสังคมศาสตร์ ที่อังกฤษ

               ใช้เวลา 8 ปี ก็กลับมาไทย เข้ารับราชการจนติดยศระดับพันเอก แต่แล้วก็ตัดสินใจลาออกจากราชการมาทำงานวิชาการที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย ในปี 2506 จากการชักชวนของ ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ขณะนั้น

               ที่สุด พ.อ.สมคิดก้าวสู่เส้นทางการเมือง โดยลงเลือกตั้งในปี 2512 หรือราวอายุ 52 ปี โดยลงในนาม "พรรคเสรีประชาธิปไตย" ซึ่งมี “จารุบุตร เรืองสุวรรณ” เป็นหัวหน้าพรรค และที่น่าทึ่งคือ ทั้งพรรคมีเขาเพียงคนเดียวที่ได้รับเลือก

               ต่อมา ในช่วงรอยต่อของเหตุการณ์เดือนตุลา 2516 พ.อ.สมคิดตัดสินใจก่อตั้งพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย(พสท.) ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2517 และนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค ส่งสมาชิกลงเลือกตั้ง ช่วง 2518 ส่ง 82 คนได้ที่นั่งในสภาทั้งสิ้น 15 ที่นั่ง ขณะที่ในการเลือกตั้งปี 2519 ก็ยังได้เก้าอี้มาอีก 2-3 ที่นั่ง

               แต่ภายหลังช่วงปี 2519 พรรคการเมืองอื่นๆ ในประเทศ ถูกยุบตามคำสั่งของ คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2519 พรรคนี้ก็หายเงียบไป

               ข้างผู้ก่อตั้งอย่าง พ.อ.สมคิด ก่อนหน้านั้น ก็ย้ายไปร่วมงานที่ “พรรคแรงงานประชาธิปไตย” หรือชื่อเดิมคือ “พรรคแรงงาน” อยู่ก่อนแล้ว โดยหัวหน้าพรรคตอนนั้น คือ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร และปี 2529 ได้เป็น ส.ส.อุดรฯ ในนามพรรคแรงงานประชาธิปไตย ด้วยวัย 69 ปี

               ขณะที่ยังเคยเป็น 1 ใน 99 สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2539 หรือสภาที่มีหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี

               กระทั่งมาได้รับเลือกให้นั่งเก้าอี้ ส.ว.อุดรธานี ระหว่างปี 2543-2549 โดยเป็นส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้ง

               สำหรับ เส้นทางชีวิตของ พ.อ.สมคิด แม้จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ความจดจำของผู้ที่ศึกษาการเมืองไทย จะรู้กันดีว่าเขาคือหัวหน้าพรรคการเมือง “ฝ่ายซ้าย" คือ พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย ผู้เป็นบุคคลแรกๆ ที่นำแนวคิดทางการเมืองแบบสังคมนิยมประชาธิปไตยเข้ามาเผยแพร่ เช่น การสร้างรัฐสวัสดิการ และการมุ่งแก้ปัญหาความยากจนของคนในภาคอีสาน ฯลฯ

               นอกจากนี้หากจำกันได้ ช่วงปี 2553 ที่มีการเปิดตัวพรรคแนวร่วมสังคมประชาธิปไตย ที่หลายคนเรียกว่า เป็น “พรรคสังคมนิยม 2553 คืนชีพ” โดย รศ.สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ ร่วมกับเพื่อนหลายคนตั้งขึ้นมา

               วันงานเปิดตัวในปีนั้น เพื่อความขลังจึงมีการเชิญ พ.อ.สมคิด มากล่าวปาฐกถาบนเวที เรียกเสียงฮือฮาไปพอสมควร แต่ที่สุดก็ไม่ประสบความสำเร็จตามที่รู้กัน

               แต่นั่นยังไม่ประทับใจเท่ากับภาพจากสื่อสังคมออนไลน์ช่วงปีก่อน ที่แชร์คลิปวิดีโอ บุตรชายของ พ.อ.สมคิด เป่าแคนด้วยท่วงทำนองสไตล์เสียงอีสาน ให้พ่อฟังขณะนอนป่วย แต่ก็ยังมีลีลาอารมณ์ดีตามไปด้วย เพราะชื่นชอบในเสียงแคนมาก

               ดังนั้นกับวันนี้ ชีวิตที่เดินมาถึง 100 ปี 2 เดือน หากบวกกับเสียงยกย่องชื่นชม และศรัทธาจากคนรุ่นหลัง ที่ยังคงก้องกังวาน ถือว่าเกินคุ้มสำหรับ พ.อ.สมคิดแล้ว

               แต่หลายคน ยังอยากรู้เคล็ดลับ ซึ่งเรื่องนี้มีการสัมภาษณ์เจ้าตัวและลูกหลานอยู่หลายครั้งหลายหน และทุกครั้งมีคำตอบมาว่า

               “กินปลาเป็นอาหารหลัก กินผักและผลไม้เป็นยา กินกล้วยน้ำว้าในยามว่าง เดินทางวันละห้าพันก้าว จีบสาวเป็นบางโอกาสไม่พลาดอายุยืน”

               ก็ถือเป็นอีกมรดกที่ทิ้งไว้ให้ และน่ายึดถือเป็นแบบอย่างให้เดินตามรอยสุดๆ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ