ผู้ว่าฯ ภูเก็ตออกคำสั่งผ่อนคลาย 10 กิจกรรม ตามแผน ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ 1 ก.ค. นี้ สามารถดื่มเครื่องดื่ม "แอลกอฮอล์" ในร้านอาหารได้ไม่เกิน 5 ทุ่ม
22 มิถุนายน 2564 เกาะติดสถานการณ์วิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) ระลอกใหม่ ในประเทศ จังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดภูเก็ต (21 มิ.ย.) ผ่อนคลายการปิดสถานที่ และกำหนดมาตรการป้องกัน เฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (เพิ่มเติม)
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมการรองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัวตามแผน Phuket Tourism Sandbox ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 โดยให้บางสถานที่สามารถเปิดดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้และประชาชนสามารถประกอบกิจกรรมอันจำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพ เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และสังคมสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับมาตรการด้านสาธารณสุข
ผ่อนคลาย 10 กิจกรรม
1. โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกประเภทสามารถใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อการจัดการเรียนการสอนการสอบการฝึกอบรมหรือการทำกิจกรรมใดๆได้ตามความเหมาะสม
2. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติ ยกเว้นส่วนที่เป็นตู้เกมเครื่องเล่นร้านเกมและสวนสนุกที่งดการให้บริการ
3. ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่มิได้ประกอบกิจการเป็นสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ให้บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านได้ภายในเวลาที่กำหนดโดยให้มีการจำหน่ายและบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านได้ ไม่เกินเวลา 23.00 น.
4. ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ
5. สนามกีฬาหรือสถานีเพื่อการออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส แบดมินตัน สามารถเปิดให้บบริการได้ตามปกติ และจัดการแข่งขันได้โดยจำกัดผู้เข้าชมในสนาม
6. ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมตกแต่งทรงผมสุภาพบุรุษและสตรีสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ
7. สถานที่จัดให้มีโต๊ะสนุกเกอร์บิลเลียดโต๊ะพูลหรือการเล่นที่มีลักษณะคล้ายกันโดยจัดให้มีการเล่นได้ระหว่างเวลา 15.00 - 23.00 น.
8. ร้านเกมคอมพิวเตอร์ เกมออนไลน์ สามารถเปิดดำเนินการได้ตามกฎหมายกำหนด
9. โรงภาพยนต์ โรงมหรสพ สวนน้ำให้เปิดดำเนินการได้ตามปกติของสถานที่นั้นๆ ยกเว้นสวนสนุก เครื่องเล่นประจำที่ หรือเครื่องเล่นแบบเคลื่อนที่กลางแจ้ง ให้เปิดดำเนินการได้ตั้งแต่ 06.00 - 20.00 น.
10. การรวมกลุ่มทำกิจกรรมสังสรรค์จำหน่ายบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะ ชายหาด สวนสาธารณะให้ถือปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด
ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มเกิน 200 คน
ห้ามการจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลซึ่งมีจำนวนมากกว่า 200 คน หรือเว้นแต่เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเป็นกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรค เป็นต้น
นอกจากนี้ ให้สามารถจัดกิจกรรมทางสังคม, งานสังสรค์, งานเลี้ยง, งานรื่นเริง, งานวันเกิด, งานขึ้นบ้านใหม่, เลี้ยงรับ - ส่ง และเลี้ยงฉลองแสดงความยินดีในโอกาสต่างๆ รวมถึงการจัดพิธีการตามประเพณีนิยม เช่น งานพิธีการศพ, งานอุปสมบท, งานมงคลสมรส, วันสำคัญทางศาสนา หรืองานบุญ ให้สามารถดำเนินการได้ภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่เพียงพอเพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อ และปฏิบัติตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
ผ่อนคลายถ่ายทำภาพยนตร์ตาม ศบค.
การผ่อนคลายสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ การถ่ายทำภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ หรือการถ่ายทำสื่อในลักษณะคล้ายกัน ให้สามารถดำเนินการได้ภายใต้มาตรการที่ประกาศกำหนด ในการจำกัดจำนวนบุคคลที่เข้าร่วมการถ่ายทำ การยกเว้นไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในบางกรณี หรือบางช่วงเวลาของการถ่ายทำ และต้องดำเนินการตามแนวปฏิบัติสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ตามที่ได้รับอนุมัติจาก ศบค.
ผับ - บาร์ - คาราโอเกะ ยังไม่เปิด
มาตรการปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ให้ปิดสถานบริการ ผับ บาร์ คารโอเกะ สถานบันเทิง และสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการทุกแห่งในท้องที่จังหวัดภูเก็ต เป็นการชั่วคราวต่อไป และให้ปิดสนามชนไก่ สนามกัดปลา สนามแข่งนก สนามแข่งไก่ สนามมวย หรือสถานที่จัดให้มีการเล่นการพนัน เป็นการชั่วคราวต่อไป
คุมเข้มพื้นที่เสี่ยง โควิด-19
มาตรการตรวจสอบเข้มงวดกับสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ ระบาดของโรคแบบกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจสอบสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค เช่น โรงงาน, สถานที่พักของแรงงานต่างด้าว หรือสถานที่อื่นๆ ให้เป็นไปตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบและระเบียบรวมทั้งมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด ในกรณีที่พบผู้ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ว่ากล่าวตักเตือนและสั่งให้ผู้นั้นปฏิบัติให้ถูกต้อง ถ้าผู้นั้นไม่ปฏิบัติตามให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจมีความปิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับปม่เกินสองหมื่นบาท หรือมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558
คำสั่งดังกล่าวมีผลตั้งแต่ 21 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
อ่านข่าว - 19 "คลัสเตอร์" ชลบุรีสุดโต่งฉุดไม่ไหวยอดพุ่งติดเชื้อ โควิด-19 วันเดียว 335 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง