ทะเลระยองส่อวิกฤติ ประมงพื้นบ้านเจอตะกอน สีชมพู เกลื่อนพื้นทะเล

        ชาวประมงพื้นบ้านระยองตื่นตระหนก ทะเลสีชมพู พบตะกอนสีเทาเกาะอวนปู นำขึ้นมาล้างกลายเป็นสีชมพู มีกลิ่นเหม็น ฉุน หวั่นเป็นสารพิษตกตะกอนขยายวงกว้างอยู่พื้นทะเล ประมงจังหวัดระยองรุดตรวจสอบ นำสารไปตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์วิจัยจังหวัดระยอง เบื้องต้นสันนิษฐานอาจเป็นปรากฏการแพลงก์ตอนสี แต่ชาวบ้านยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะปูมีจำนวนลดน้อยลงอย่างมาก

     เรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อ วันที่ 12 พฤษภาคม 2564 น.ส.ประไพ สาธิตวิทยา อายุ 65 ปี ประธานกลุ่มอนุรักษ์ประมงสามัคคีบ้านพลา จ.ระยอง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ประชาชน และชาวประมงพื้นบ้าน อ.บ้านฉาง ได้เกิดความตระหนก หวาดกลัวเป็นอย่างมาก เกรงว่าสัตว์ทะเลบริเวณอ่าวบ้านฉางจะลี้ภัยหนีให้พ้นวิถีจากสารประหลาดออกไปนอกพื้นที่ โดยเฉพาะปู และสัตว์ที่หากินอยู่หน้าดิน อาจจะมีสารพิษเจือปนอยู่ในร่างกาย เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอาหารทะเล เนื่องจากเมื่อวันที่ 8 พ.ค.64 ที่ผ่านมา นายสมภพ นุชสมบัติ  นายมนัส บุญหอม นายวัลลภ เกตุสาคร และอีกหลายคน ซึ่งเป็นชาวประมงพื้นบ้านได้ออกไปกู้อวนปู ระยะห่างจากชายฝั่งด้านสนามบินอู่ตะเภา ประมาณ 2-3 ไมล์ทะเล เกิดความสงสัยว่า ปริมาณปูที่เคยได้ทำไมมีจำนวนลดน้อยลงอย่างมาก

 ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณชายหาดบ้านพลา อ.บ้านฉาง ได้พบกับ น.ส.ประไพ และกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านจำนวนมาก จึงได้สอบถามข้อเท็จจริงเรื่องปรากฏการใต้ทะเลสีชมพู จึงทราบว่า ชาวประมงที่ไปเก็บกู้อวนปูได้พบกับสารประหลาดจริง โดยสารเป็นลักษณะตะกอนที่เกาะอวนปูขึ้นมา จะไม่หลุดเหมือนตะไคร่น้ำธรรมดาที่เคยพบ และที่สำคัญปริมาณปูที่เคยได้ก็หดหายไป แทบไม่มีปูติดอวน จึงได้เก็บอวนขึ้นมาล้างบนบก ปรากฏว่าตะกอนที่เป็นสีเทาในทะเล เมื่อสัมผัสอากาศ และน้ำเค็มด้านบน ได้กลายเป็นสีชมพู และสีมะเหมี่ยว ทำให้ชาวประมงหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เกรงว่าอาจจะเป็นสารเคมี หรือสารพิษที่มีคนนำมาทิ้งไว้ในทะเล จึงได้แจ้งให้ประมงจังหวัดระยอง ทราบ เพื่อเก็บน้ำสีชมพูดังกล่าวไปตรวจพิสูจน์ เบื้องต้นประชาชน และชาวประมงยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นแพลงก์ตอนชนิดใดชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

      น.ส.ประไพ กล่าวว่า ปรากฏการณ์ใต้พื้นทะเลสีชมพูที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ปกติ เพราะทางด้าน จ.ระยองไม่พบมาก่อน เบื้องต้นสันนิษฐานกันว่าอาจเป็นสารพิษชนิดหนึ่งที่ถูกมนุษย์นำมาทิ้งในทะเลด้านทิศตะวันตกของ รันเวย์สนามบินอู่ตะเภา ห่างออกไปประมาณ 2 ไมล์ทะเล อีกทั้งเป็นสารหนักที่ตกตะกอนอยู่ที่พื้นทะเลในวงกว้าง และเป็นที่น่าวิตกก็คือ ปริมาณปูม้า ที่อยู่หน้าดินบริเวณดังกล่าวได้หายไปจำนวนมาก ถ้าตะกอนสีชมพูนี้เป็นสารพิษจริง จะส่งผลสู่ร่างกายของผู้บริโภคอาหารทะเลในอ่าวระยอง อย่างแน่นอน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ตรวจพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าเป็นอะไร ประชาชน ชาวประมง ผู้บริโภคอาหารทะเล จะได้ไม่วิตกกังวล หวาดกลัว ซึ่งขณะนี้ได้ขอร้องให้ชาวประมงนำอวนไปลงพิกัดเดิมอีกครั้งเพื่อจะพิสูจน์ว่าตะกอนดังกล่าวจะติดอวนขึ้นมาอีกหรือไม่

 ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง ประมงจังหวัดระยอง ทราบว่าได้ส่งเจ้าหน้าที่มาเก็บน้ำสีชมพูดังกล่าว ส่งไปให้ศูนย์วิจัยประมงระยอง เพื่อตรวจพิสูจน์ว่าเป็นสาร หรือแพลงก์ตอน แต่ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ประมง บอกว่าขณะนี้ยังไม่สามารถให้คำตอบที่แน่ชัดได้ เพียงสันนิษฐานในสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้เท่านั้นว่า อาจเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ หรือแพลงก์ตอนที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงต้องรอผลการพิสูจน์ต่อไป จึงจะได้คำตอบที่แน่นอน

     พัชรพล   ปานรักษ์  จ.ระยอง