ข่าว

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

เกษตรกรทำนา คือกระดูกสันหลังที่สำคัญของชาติที่ผ่านมาเกษตรกรประสบปัญหาภัยแล้งนาข้าวขาดน้ำยืนต้นตายชาวนาที่ประกอบอาชีพทำนาเพียงอย่างเดียวต่างได้รับความเดือดร้อนหนี้สินพอกพูนติดต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง ข้าราชการบำนาญท่านหนึ่งได้ " พลิกชีวิตสู้วิกฤติภัยแล้ง" ด้วยการหันมาปลูกเผือกเป็นอาชีพเสริม ในช่วงภัยแล้งที่ผ่านมาและประสบความสำเร็จสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำต่างจากการทำนา

 ที่บ้านหนองโรง ต.หนองผักนาก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก สิบตำรวจเอกทศพล ยิ้มยวน (จ่าดม) ข้าราชการบำนาญ ว่าตนได้ลาออกจากราชการมานานหลายปีแล้วหันมาประกอบอาชีพทำนาที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ภัยแล้ง แมลงศัตรูพืชเพลี้ยกระโดดกัดกินต้นข้าวทำให้ประสบปัญหาขาดทุนค่าปุ๋ยค่ายา จนต้องหันไปประกอบอาชีพเพิ่มคือเลี้ยงโคขุน ซึ่งอาชีพเลี้ยงโคขุนของ จ่าดม นั้นสามารถสร้างรายได้ในระดับหนึ่ง นอกจากทำนา เลี้ยงโคขุนแล้ว จ่าดม ไม่ยอมแพ้ต่อภัยธรรมชาติพยายามพลิกชีวิตสู้วิกฤติภัยแล้งโดยหันมาปลูกเผือก ซึ่งเป็นพืชใช้น้ำน้อยเป็นอาชีพเสริม ในช่วงภัยแล้งสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

(จ่าดม) ข้าราชการบำนาญ กล่าวอีกว่าที่ผ่านมาได้ประสบปัญหาขาดทุนจากการทำนาจึงหันมาประกอบอาชีพทำการเกษตรเพิ่มคือการปลูกเผือก ส่วนเหตุผลที่ตัดสินใจปลูกเผือกคือตนพยายามหาอาชีพที่สร้างรายได้เพิ่มโดยการติดตามข่าวทั้งทางทีวี และจากคนที่รู้จักที่ประสบความสำเร็จและพบว่าอาชีพปลูกเผือกขายเป็นอีกอาชีพที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจึงได้ศึกษาวิธีการปลูก การดูแลต่างๆก็พบว่าเผือกเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยการดูแลรักษาไม่ยุ่งยากเหมือนทำนาข้าว และราคาก็ดีกว่า จึงตัดสินใจทดลองทำโดยเริ่มจากการแบ่งที่นา 2 ไร่มาปลูกเผือกใช้เวลา 8 เดือนตั้งแต่เริ่มปลูกจนครบกำหนดขุด และใช้เงินลงทุนโดยเฉลี่ยประมาณ 30,000-35,000 บาทต่อไร่

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

และวันนี้ครบกำหนดขุดเผือกได้มีแม่ค้ามาบริการรับซื้อและช่วยคัดเกรดถึงที่ไม่ต้องบรรทุกไปหาขายตามตลาดเหมือนทำนาข้าว ราคาก็ดีกว่าจากการทดลองปลูกครั้งแรกเผือกให้ผลผลิตถึงไร่ละ5,000 กิโลกรัม( 5 ตัน)คิดเป็นเงินต่อไร่กว่า 80,000 บาทนับว่าคุ้มค่าอย่างไรก็ตามตนจะขยายพื้นที่ปลูกเผือกเพิ่มอีกถึงแม้ว่าต่อไปอีกไม่กี่เดือนจะเกิดปัญหาภัยแล้งอีกอาชีพทำไร่เผือกก็ไม่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ดังนั้นตนจึงอยากเชิญชวนพี่น้องเกษตรกรที่ทำนาแล้วขาดทุนลองเปลี่ยนอาชีพใหม่ จากการทำนาหันมาลองปลูกเผือกดูนอกจากอาชีพทำไร่เผือกแล้วยังมีถั่วเขียว พืช 2 ชนิดนี้เป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยแล้วยังดูแลรักษาง่ายและราคาดี ทั้ง2 อาชีพนี้เป็นอาชีพทางเลือกใหม่เป็นการ" พลิกชีวิตสู้วิกฤติภัยแล้ง"ปลดหนี้มีเงินเก็บแน่นอน 

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

สุพรรณบุรี วิกฤติภัยแล้งเกษตรกรหันมาปลูกเผือกขายสร้างรายได้ปลดหนี้

ภาพ/ข่าว  ภัทรพล  พรมพัก  มงคล  สว่างศรี  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุพรรณบุรี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ