ข่าว

วธ.พิจิตร แจงเจตนาสุจริตเหตุทวงเงินอุดหนุนวัดคืนเพื่อทำถุงยังชีพ (ตอนที่ 4)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เงินอุดหนุนวัดของวัฒนธรรมพิจิตรที่ให้แล้วทวงคืน อ้างนำจัดทำถุงยังชีพในภาพรวม ของจังหวัดและของกระทรวงแต่ที่เป็นเรื่องอาจเป็นเพราะความไม่เข้าใจถึงเจตนาสุจริตที่ต้องการจัดหาสิ่งของแจกในช่วงวิกฤตโควิดเพื่อช่วยเหลือประชาชน

วันที่ 21 ก.ย. 2563 นางณัณธิญาจ์  มังคละคีรี  วัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร ให้สัมภาษณ์ชี้แจงกับผู้สื่อข่าว จากกรณีโครงการ กิจกรรมเฉลิม โครงการบรรพชาอุปสมบทสามเณรภาคฤดูร้อนและบวชศีลจาริณีประจำปีงบประมาณ 2563  ในวันที่ 2 เมษายน 2563 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ  สยามบรมราชกุมารี ซึ่งต้องจัดสรรงบประมาณ(เงินอุดหนุน) ให้กับวัดที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 31 วัดๆละ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 330,000 บาท 

วธ.พิจิตร แจงเจตนาสุจริตเหตุทวงเงินอุดหนุนวัดคืนเพื่อทำถุงยังชีพ  (ตอนที่ 4)

จากนั้นวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร ได้มอบหมายให้นักวิชาการผู้ประสานงานอำเภอประสานไปยังวัดที่เข้าร่วมโครงการ โดยได้ขอปรับเปลี่ยนกิจกรรมเป็นการจัดซื้อถุงยังชีพมอบให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด19 เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนั้นเป็นนโยบายของรัฐบาล โดยศูนย์ ศบค.ได้กำหนดมาตรการ Social Distancing จึงทำให้โครงการบวชเฉลิมพระเกียรติถูกปรับเปลี่ยนเป็นการซื้อถุงยังชีพแจกให้กับพระภิกษุสงฆ์และประชาชน แต่กลับมีเรื่องร้องเรียนว่า สนง.วัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร  โอนเงินให้วัดแล้วไปขอเป็นเงินสดกลับคืนมาเพื่อดำเนินการจัดซื้อถุงยังชีพเสียเอง

 

วธ.พิจิตร แจงเจตนาสุจริตเหตุทวงเงินอุดหนุนวัดคืนเพื่อทำถุงยังชีพ  (ตอนที่ 4)

วธ.พิจิตร แจงเจตนาสุจริตเหตุทวงเงินอุดหนุนวัดคืนเพื่อทำถุงยังชีพ  (ตอนที่ 4)

ล่าสุด ดร.ณัณธิญาจ์  มังคละคีรี  วัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร ได้ให้สัมภาษณ์ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวโดยยอมรับว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการเงินอุดหนุนให้กับทางวัดต่างๆ 31 วัด เป็นจำนวนเงิน 330,000 บาท  ซึ่งได้โอนเข้าบัญชีวัดต่างๆ เพื่อทำถุงยังชีพ แต่ด้วยความปรารถนาของ สนง.วัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร ที่ต้องการทำเป็นภาพรวมให้ดูดี จึงได้ไปเจรจาและทำข้อตกลงกับวัดต่างๆว่าจะขอเงินที่โอนมาให้แล้วนั้นให้นำมากองรวมที่วัฒนธรรมจังหวัดเพื่อจะได้จัดซื้อถุงยังชีพและทำถุงโดยให้มีโลโก้ของจังหวัดพิจิตร และของกระทรวง 

ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ถามว่า...เมื่อโครงการนี้เป็นเงินอุดหนุนทำไมไม่ให้วัดต่างๆดำเนินการเอง ซึ่ง ดร.ณัณธิญาจ์ วัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร  ก็ตอบว่า...เป็นเงินอุดหนุนให้วัดแต่เราจะขอทำเป็นภาพรวมแล้วก็ได้จัดถุงยังชีพคืนให้วัดเท่ากับจำนวนเงินที่ขอเอามา ยกตัวอย่างเช่น วัดท่าหลวง  พระอารามหลวง  ยอดเงิน 10,000 บาท ก็จัดทำถุงยังชีพจำนวน 20 ถุง มูลค่าถุงละ 500 บาท  ซึ่งในถุงก็บรรจุสิ่งของที่มีค่าใช้จ่าย คือ ค่าจัดทำถุงผ้าและสิ่งของประกอบด้วย 1.ข้าวสารเสาไห้ 5 กก.   2. ไข่ไก่ 1 แผง 3.ปลากระป๋อง 6 กระป๋อง  4.นมจืด 1 แพ็ค 5. น้ำพริก 2 กระปุก  6.น้ำมันพืช 1 ขวดใหญ่

วธ.พิจิตร แจงเจตนาสุจริตเหตุทวงเงินอุดหนุนวัดคืนเพื่อทำถุงยังชีพ  (ตอนที่ 4)

วธ.พิจิตร แจงเจตนาสุจริตเหตุทวงเงินอุดหนุนวัดคืนเพื่อทำถุงยังชีพ  (ตอนที่ 4)

 

 

 

ผู้สื่อข่าวจึงถามถึงว่า เมื่อเงินอุดหนุนโอนให้วัดแล้ววัดต่างๆก็ถูกเอาเงินกลับคืน แล้ววัดที่ได้รับโอนเงินจะทำรายการบิลค่าใช้จ่ายอย่างไร? ในเมื่อไม่ได้เป็นผู้ใช้เงินนั้น  ซึ่ง ดร.ณัณธิญาจ์  วัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร  ก็ตอบว่า...ทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตรเป็นผู้ดำเนินการให้  แต่โดยสรุป เธอยืนยันว่า เจตนาสุจริต ตอนที่จะดำเนินการก็ลงพื้นที่เจรจากับวัดต่างๆ ก็ไม่มีข้อขัดแย้งอะไร  อีกทั้งการดำเนินการก็มีการถ่ายภาพ ถ่ายคลิปวีดีโอ ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมที่จะชี้แจงในความบริสุทธิ์ .... 

วธ.พิจิตร แจงเจตนาสุจริตเหตุทวงเงินอุดหนุนวัดคืนเพื่อทำถุงยังชีพ  (ตอนที่ 4)

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าว ล่าสุดขณะนี้  นายสิริรัฐ  ชุมอุปการ  ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้สั่งให้ตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่า การกระทำดังกล่าวส่อไปในทางทุจริตหรือไม่   แล้วมีสิทธิ  อำนาจ  หน้าที่  ไปดำเนินการเอาเงินอุดหนุนที่โอนเงินเข้าบัญชีวัดแล้วไปทวงคืนเป็นเงินสดเอามาทำถุงยังชีพเอง เป็นการกระทำโดยชอบด้วยระเบียบหรือเปล่า?  ซึ่งความคืบหน้าของการดำเนินการตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนในครั้งนี้ ผลจะออกมาเป็นเช่นไร  ผู้สื่อข่าวจะได้รายงานให้ทราบต่อไป

 

ทีมข่าวเฉพาะกิจ ภูมิภาค

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ