แม่วัยสาวชาวชัยนาท โพสต์เฟสบุ๊กเศร้า เฝ้ารอลูก 9 เดือน สุดท้ายเสียชีวิตระหว่างทำคลอด ติดใจการทำคลอดของหมอพยาบาล เหตุใดถึงห้ามเบ่งคลอด ล่าสุดได้เข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว ขณะที่ผู้บริหาร รพ. ส่งหนังสือแถลงข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีคุณแม่วัยสาวรายหนึ่งในจังหวัดชัยนาท ได้โพสต์ภาพลูกชายวัยแรกคลอดที่เสียชีวิต ลงในเฟสบุ๊ก พร้อมกับเขียนข้อความ เล่าเรื่องราวที่เธอไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ซึ่งเธอมีอาการปวดเบ่งมาก แต่หมอ-พยาบาล กลับไม่ยอมให้เธอเบ่งคลอด สุดท้ายลูกเธอเสียชีวิต โดยเธอระบุว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา เวลา 7 โมงกว่า เธอปวดท้องและไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร มีการตรวจปากมดลูก วัดคลื่นเสียงหัวใจลูกเต้นเป็นปกติ เธอบอกว่า ขณะนั้นเธอมีอาการน้ำเดินแล้ว และปากมดลูกก็เปิดได้ 2 เซนติเมตร และเธอมีอาการปวดมาก ต้องการเบ่งคลอด แต่หมอ-พยาบาล บอกว่ายังไม่ให้เบ่ง ต้องรอให้ปากมดลูกเปิด 9-10 เซนติเมตรก่อน เพราะถ้าเบ่งตอนนี้จะทำให้มดลูกบวมจะทำให้คลอดลูกยาก แต่เธอทนปวดไม่ไหว หมอจึงให้ยาแก้ปวด ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ก็ตะโกนบอกหมอว่า หนูปวดอยากเบ่งแล้ว พยาบาลจึงมาดู ให้ตั้งขาขึ้น แล้วก็บอกว่าหัวเด็กออกมาแล้ว จากนั้นจึงให้เธอเบ่งคลอด แค่ 2 ที ลูกชายก็ออกมา แต่ไม่มีเสียงร้อง ต่อมาหมอก็มาบอกว่าลูกเสียชีวิตแล้ว ทำให้เธอเสียใจมาก และติดใจการทำคลอดของหมอ-พยาบาล ที่ห้ามเธอเบ่งคลอดลูก จนสุดท้ายทำให้เธอต้องเสียลูกชายที่เฝ้ารอคอยมา 9 เดือน
ความคืบหน้า วันนี้(1 ส.ค.) เวลา 11.44 น. น.ส.กฤษณา ขวัญศรี อายุ 23 ปี และ นายอณวัฒต์ เปี่ยมศิริ อายุ 27 ปี คุณแม่และคุณพ่อที่สูญเสียลูก ได้เดินทางไปพบ ร.ต.อ.ฉลองชัย บางจั่น พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยนาท เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ลงบันทึกประจำวัน เพราะติดใจในการเสียชีวิตของลูกชาย พร้อมกับร้องขอให้พนักงานสอบสวน ส่งศพลูกชายไปที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิต อีกครั้งหนึ่ง เพื่อจะได้ทราบผลที่ชัดเจน หลังจากก่อนหน้านี้ ทางโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ได้ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ แล้ว แต่ยังไม่ทราบผล
น.ส.กฤษณา ขวัญศรี เปิดเผยว่า ตนมั่นใจว่าในวันนั้น หากหมอให้ตนเบ่งคลอด ก็จะสามารถคลอดลูกออกมาได้ เพราะลมเบ่งมาเต็มที่แล้ว แม้ปากมดลูกจะเปิดเพียง 2 เซนติเมตร ก็คิดว่าจะคลอดได้ เพราะตอนที่คลอดลูกคนแรก ปากมดลูกก็เปิด 2 เซนติเมตร ก็ยังสามารถคลอดได้ แต่ครั้งนี้หมอบอก ยังไม่ให้เบ่ง ให้นอนรอปากมดลูกเปิด 10 เซนติเมตร ทำให้ตนปวดมาก จนทนไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องสูญเสียลูกไป ตนรู้สึกเสียใจมาก เสียใจจนทำอะไรไม่ถูก คิดอะไรไม่ออก ไม่อยากพูด ไม่อยากเจอใคร และไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ เสียใจจริงๆ เพราะลูกคนนี้ ตั้งใจมาก ตั้งใจที่จะอยู่กับเค้า อยากเจอหน้าเค้า แต่ก็ต้องมาสูญเสียไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่อุ้มท้องมา 9 เดือน ลูกตนแข็งแรงดี จึงอยากให้ทางโรงพยาบาล ออกมาชี้แจงให้ชัดเจนว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่
ด้าน นายอณวัฒต์ เปี่ยมศิริ เปิดเผยว่า ตนและภรรยา รู้สึกคาใจกับการทำคลอดของหมอและพยาบาล ที่ไม่รีบทำคลอดให้ภรรยา ทั้งที่น้ำคร่ำไหลออกมาแล้ว และปากมดลูกก็เปิดได้ 2 เซนติเมตรแล้ว แต่หมอกลับไม่ให้เบ่งคลอด ทำให้ภรรยาปวดท้องหนัก ต้องนอนรอคลอดหลายชั่วโมง จนสุดท้ายลูกคลอดออกมาเสียชีวิต ทำให้ตนและภรรยา คาใจถึงสาเหตุการเสียชีวิตของลูกเป็นอย่างมาก ทั้งนี้แม้ทางโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร จะนำศพลูกชายส่งให้แพทย์โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตแล้ว แต่ก็ยังไม่ทราบผล ตนและภรรยา ยังทำใจไม่ได้กับเรื่องนี้ จึงได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท เพื่อขอให้ลงบันทึก และส่งศพลูกชายไปสถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อผ่าพิสูจน์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากผลชัณสูตรของ 2 โรงพยาบาล ยังไม่ออกชี้ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด ตนก็จะยังไม่นำศพลูกชาย ไปทำพิธีฝังตามศาสนาแต่อย่างใด และหากพบว่าสาเหตุการเสียชีวิต เกิดจากความผิดพลาด หรือความประมาทของหมอและพยาบาล ตนก็จะดำเนินการกฎหมายต่อไป
ขณะที่ผู้บริหารโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ แต่ได้ทำหนังสือแถลงข้อเท็จจริง เรื่องดังกล่าว ส่งให้ผู้สื่อข่าวผ่านทางไลน์ โดยแถลงดังกล่าวระบุว่า “โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ขอแถลงข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของเด็กชายบุตรคุณกฤษณา ขวัญศรี ก่อนอื่นโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว คุณกฤษณา ขวัญศรี ที่ต้องสูญเสียบุตรชาย อันเป็นที่รักไปจากการคลอดในครั้งนี้ ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ให้การดูแลรักษาอย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อผู้ ได้รับข่าวสารที่อาจมีข้อสงสัยในกระบวนการรักษา โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทรขอลำดับเหตุการณ์ ดังนี้ คุณกฤษณา ขวัญศรี เป็นมารดาครรภ์ที่ 2 อายุครรภ์ 38 สัปดาห์กับ 2 วัน ผลเลือดปกติ ครรภ์แรกคลอดปกติ ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร วันที่ 27 กรกฎาคม 2563 เวลา 07.50 น. ผู้ป่วยมาโรงพยาบาลเนื่องจากมีอาการเจ็บครรภ์คลอด ตรวจร่างกายพบว่าปากมดลูกเปิด 2 เชนติเมตร จึงให้นอนโรงพยาบาลเพื่อรอคลอด ระหว่างนอนโรงพยาบาลการดำเนินและความก้าวหน้าของการคลอดเป็นไปตามปกติ หลังจากนอนโรงพยาบาล ผู้ป่วยมีอาการปวดหน่วง คล้ายปวดเบ่ง แต่แพทย์ประเมินปากมดลูก พบว่าปากมดลูกเปิด 3 เชนติเมตร ซึ่งยังไม่เข้าสู่ระยะเบ่งคลอด เสียงหัวใจทารกปกติ จึงให้ยาบรรเทาอาการปวด หลังจากนั้น การดำเนินการคลอดดำเนินไปตามปกติ จนเวลา 11.40 น. ปากมดลูกเปิด 10 เซนติเมตร พร้อมที่จะเบ่งคลอด จึงมีการเบ่งคลอด และคลอดทารก เวลา 11.49 น. แต่พบว่า ทารกไม่ร้อง ไม่หายใจ ไม่มีหัวใจเต้น จึงทำการช่วยกู้ชีพทารก ด้วยการปั้มหัวใจ ใส่ท่อช่วยหายใจ ให้ออกซิเจน ให้ยา ให้สารน้ำ ช่วยกู้ชีพทารกอย่างเต็มที่ตามมาตรฐานทางการแพทย์ เป็นเวลามากกว่า 1 ชั่วโมง แต่ก็ไม่สามารถช่วยกู้ชีพทารกได้ ซึ่งในขณะนี้สาเหตุที่ทำให้ทารกเสียชีวิต ยังไม่ทราบแน่ชัด จึงส่งตรวจชันสูตรพลิกศพ ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ตั้งแต่วันที่ทารกคลอด ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผล ซึ่งผลจะออกประมาณ 2-4 สัปดาห์ หลังจากส่งตรวจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง