หนุ่มวัย 47 ปี "บอกเมาไม่อิ่ม" วกมาขอเงินแม่วัย 76 ปีกลางดึก หลังรู้ว่าเงินพิการน้องออก แม่ไม่ให้ โมโหจิกหัวแม่ตบ เตะชายโครง แม่กับน้องสาวพิการ 41 ปี ตะกายหนีเข้าห้องล็อกประตู แจ้งตำรวจ กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาล พบฟันหักและกระดูกซี่โครงร้าว สุดท้ายแม่อภัยให้
วันที่ 7 ก.ค.2563 เมื่อเวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา ร.ต.อ. ณัฐวุฒิ สำเรียนรัมย์ รองสารวัตร (สอบสวน)สภ.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุลูกทำร้ายร่างกายแม่ภายในบ้าน ได้รับบาดเจ็บ และกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในห้อง จึงประสานหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ บุรีรัมย์ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวเลขที่ 53 หมู่ 10 ต.หนองกง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พบชายทราบชื่อต่อมาคือนายสุชิต ก้อนคำ อายุ 47 ปี เป็นลูกชายของเจ้าของบ้าน เดินสวนกับเจ้าหน้าที่ออกจากบ้านไปศาลากลางหมู่บ้าน ในสภาพใบหน้าเคร่งเครียด ไม่พูดคุยกับใคร
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเรียกหาคนภายในบ้าน นางสาวบัว เข็มมา อายุ 76 ปี แม่ของนายสุชิต และ น.ส.อมร ก้อนคำ อายุ 41 ปี น้องสาวนายสุชิต (พิการ) รีบเปิดประตูห้องออกมาด้วยความตกใจ โดยเฉพาะแม่ของนายสุชิต เดิมออกมาในสภาพกุมปากและชายโครงเหมือนเจ็บปวด พร้อมกับให้การกับตำรวจว่า
คนที่ก่อเหตุทำร้ายแม่คือนายสุชิต ลูกชายของตัวเอง เมื่อช่วงหัวค่ำ นายสุชิต ได้มาขอเงิน เพื่อจะไปซื้อเหล้ามากิน หลังทราบว่าเงินคนพิการของน้องสาวออก แต่แม่ไม่ให้ เพราะเป็นเงินแค่ 800 บาทต้องเอาไปเป็นค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือน แต่สุชิต เชื่อว่าน่าจะมีเงินเข้ามากกว่านั้น เพราะทราบข่าวเรื่องเงินเยียวยาโควิด 19 ของรัฐบาล นายสุชิต จึงเดินไปกินเหล้ากับเพื่อนในหมู่บ้าน จนกระทั่งกลางดึก แม่และน้องสาวพิการ ซึ่งนอนอยู่นอกห้อง ได้ยินเสียงนายสุชิต ตะโกนเรียกหาแล้วเดินมาในสภาพเมาเหล้า บอกว่า ”กินเหล้ายังไม่อิ่ม” ขอเงินด้วย ก็ถูกปฏิเสธจากแม่ไปอีก นายสุชิต จึงใช้มือจิกผมแม่ แล้วตบใบหน้าหลายครั้ง จากนั้นก็เตะไปที่ชายโครงอีก 1 ที
น้องสาวซึ่งพิการ จึงคว้าแม่ตะเกียกตะกาย หลบเข้าไปในห้อง แล้วล็อกประตู ก่อนจะโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายสุชิต ไปสงบสติอารมณ์ ที่ สภ.นางรอง เอาไว้ก่อน
ล่าสุดหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์บุรีรัมย์ ได้เดินทางไปเยี่ยมนางสาวบัว ที่โรงพยาบาลศูนย์นางรอง หมอระบุว่าว่าฟันหัก 1 ซี่ และกระดูกซี่โครงร้าว แต่พ้นขีดอันตรายแล้ว กู้ภัยถามยายว่า ถ้าจะแจ้งความกู้ภัยก็จะพาไป หลังจากรักษาหาย ได้รับคำตอบจากนางสาวบัว ว่า ”ถึงยังไงก็ลูกให้อภัยทุกอย่าง” จะไม่ไปแจ้งความ แต่ยังมีความผวา กลัวลูกชายจะก่อเหตุในลักษณะนี้อีก ก็อยากให้เจ้าหน้าที่พาลูกชายไปอบรมสั่งสอนเพื่อให้รู้จักผิด ชอบ ชั่วดี บ้างตนก็พอใจ...นางสาวบัว ...กล่าว
ภาพ/ข่าว ธีรยุทธ ชำนาญกอง ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง