รวบ "สีหมอก กำโลน" หลังสะเดาะห์กุญแจหนีโรงพัก สารภาพเตรียมหนีข้ามประเทศ

จากกรณีคดีนายณัฐพงศ์   ดวงแก้ว อายุ 23 ปีหรือฉายา ”สีหมอก  กำโลน” พ่อค้ายานรกรายใหญ่ในพื้นที่ อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ได้ถูกตำรวจ นปพ.ชุด กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช จับกุมพร้อมลูกสมุนหลายคนพร้อมยาบ้า1,800 เม็ด ยาไอซ์ 150 กรัม อาวุธปืนพกสั้น 3  กระบอก เมื่อค่ำ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าช่วงสายวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังพนักงานสอบสวน สภ.ลานสกา ได้เสร็จสิ้นฝากขังออนไลน์นายณัฐพงศ์หรือ "สีหมอก กำโลน" กับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว และตำรวจกำลังคุมตัวนายณัฐพงศ์ขึ้นรถยนต์ตำรวจไปฝากขังยังทัณฑสถานวัยหนุ่มนครศรีธรรมราช ปรากฏว่านายณัฐพงศ์หรือ "สีหมอก กำโลน" ได้สะเดาะห์กุญแจมือจนหลุดแล้ววิ่งหนีออกจากโรงพักแล้ววิ่งข้ามถนนหน้าโรงพักหลบหนีไปอย่างรวดเร็วแม้ตำรวจจะวิ่งไล่ติดตามแต่ไม่สามารถวิ่งไล่ตามได้ทันเนื่องจากนายณัฐพงศ์หรือ "สีหมอก กำโลน" เคยเป็นนักมวยเก่าและอดีตนักวิ่งของโรงเรียนมาก่อนทำให้ผู้ต้องหาวิ่งหลบหนีรอดไปได้ ทาง พ.ต.อ.สมคิด   ดำเกลี้ยง ผกก.สภ.ลานสกา ได้ระดมตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามไล่ล่านายณัฐพงศ์หรือสีหมอก กำโลนอย่างต่อเนื่องตลอดมา โดยทราบว่ามีบุคคลใกล้ชิดพาหลบหนีขึ้นไปบนภูเขาคีรีวง เทือกเขาหลวงนครศรีธรรมราช และพยายามกดดันให้มอบตัว แต่นายณัฐพงศ์หรือสีหมอก กลับไม่ยอมมอบตัวง่าย ๆ แต่ยังหลบหนีไปเรื่อย ๆ โดยทาง พล.ต.ท.จิรวัฒน์   ทิพยจันทร์ ผบช.ภ.8 และพล.ต.ต.สนธิชัย   อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ตามล่าติดตามตัว”สีหมอก กำโลน”มาดำเนินคดีให้ได้

ล่าสุดเมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 4 มิ.ย.2563 พ.ต.อ.สมคิด   ดำเกลี้ยง ผกก.สภ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ได้สืบทราบว่านายณัฐพงศ์ หรือสีหมอก  กำโลน ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปกบดานซ่อนตัวบนภูเขากรุงชิง หมู่ 1 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช และกำลังเตรียมจะวางแผนหลบหนีไปยังจังหวัดหนึ่งแถวภาคอีสานและจะข้ามฝังไปประเทศลาวในเร็ว ๆ นี้    พ.ต.อ.สมคิด จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ศิริพร   ช่วยคุ้ม รอง ผกก.สส.,พ.ต.ท.นพเสถียร  สิงห์สุขพนธ์ สว.สส.และ พ.ต.ต.แสงโรจน์   สมโรจน์รัตน์ สวป. วางแผนนำกำลังตำรวจชุดสืบสวนและตำรวจสายตรวจนอกเครื่องแบบของสภ.ลานสกาล้วนๆ จำนวน 30 นาย พร้อมอาวุธปืนครบมือ แบ่งเป็น3ชุด ไปฝังตัวในพื้นที่ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ โดยเฝ้าดักรอทางขึ้นภูเขากรุงชิง หมู่ 1 ต.กรุงชิง จนกระทั่งเวลา 09.30 น.วันนี้ (4มิ.ย.) พบนายณัฐพงศ์หรือ "สีหมอก กำโลน"ผู้ต้องหา ได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสันสีส้ม ลงจากภูเขากรุงชิง  และเมื่อนายณัฐพงศ์ ผู้ต้องหาได้ขับรถเลี้ยวขึ้นบนถนนสายปากลง-กรุงชิง พ.ต.อ.สมคิด จึงได้สั่งกำลังตำรวจที่ดักอยู่ปากทาง ขับรถไล่ตามและเบียดตัดหน้ารถของนายณัฐพงศ์ทันที  ก่อนกำลังตำรวจทั้งหมดได้จู่โจมเข้าล้อมจับนายณัฐพงศ์หรือ "สีหมอก กำโลน"ได้อย่างละม่อมในชุดสวมเสื้อยืดแขนยาวสีเทา นุ่งกางเกงยีนส์สวมแว่นตาดำ สักเต็มตัว ก่อนคุมตัวนายณัฐพงศ์หรือ "สีหมอก กำโลน" ผู้ต้องหามายังสภ.ลานสกาทันที

จากการสอบสวนปากคำนายณัฐพงศ์หรือ "สีหมอก กำโลน" ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ตนหลบหนีออกจากโรงพักเนื่องจากไม่อยากติดคุก ต้องการอิสระจึงอาศัยช่วงหวะตำรวจนำตัวไปฝากขังเรือนจำ ได้สะเดาะห์กุญแจมือวิ่งหลบหนีออกจากโรงพักทันที แล้ววิ่งข้ามถนนหน้าโรงพักไปหลบซ่อนตัวบนภูเขาคีรีวง ก่อนมีคนสนิทพาไปกบดานที่บนภูเขากรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราชและเตรียมจะหลบหนีไปภาคอีสานเพื่อข้ามฝังไปประเทศลาว แต่ไม่รอดถูก ผกก.สภ.ลานสกา นำกำลังตำรวจ 30 นายตามจับกุมได้ดังกล่าว ซึ่งสาเหตุที่ตนวิ่งหลบหนีรอดไปได้ในวันเกิดเหตุเพราะตนอดีตเคยเป็นนักมวยและนักวิ่งของโรงเรียนก่อนทำให้วิ่งเร็วทำให้ตำรวจวิ่งตามไม่ทัน ก่อนตำรวจคุมตัวนายณัฐพงศ์หรือสีหมอก ส่งเข้าเรือนจำทัณฑสภานวัยหนุ่มนครศรีธรรมราชต่อไป

นรศักดิ์  สานุจิตต์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช