อสม.ควนปริง เรียกร้องผู้ว่าตรัง ปิดเมืองยับยั้งการระบาด

                  ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังว่า ที่ รพ.สต. ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ตรังเขต 1 นำหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ มอบให้เจ้าหน้าที่อนามัย ผู้นำท้องถิ่น และ อสม. เพื่อนำไปใช้ในการป้องกันและรักษาความสะอาด และร่วมรับฟังปรึกษาหารือจากผู้นำชุมชนและผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องของปัญหาต่าง ๆ และผลกระทบจากไวรัสโควิด-19  โดยปัญหาส่วนหนึ่งที่ผู้นำและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้ประสบคือ การไม่ให้ความร่วมมือจากประชาชนเพราะเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจ สำรวจ ประชาชนก็มีการต่อต้าน จนเกิดความขัดแย้ง มีการทะเลาะกัน  เพราะมองว่าอยู่ภายในบ้านในชุมชนคงไม่มีปัญหาอะไร และทั้งนี้ยังมีการใช้ชีวิตตามปกติยังคงมีการเดินทางออกต่างจังหวัดหรือเข้าสู่ตัวเมืองตรัง ถึงแม้ว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง จะขอความร่วมมือแล้วก็ตาม แต่ประชาชนไม่ได้ตื่นตัวแต่อย่างใด ซึ่งทางผู้นำ  อบต. ควนปริงได้มีการให้ทางเจ้าหน้าที่นำยาไปฉีดพ่นเพื่อฆ่าเชื้อและทำความสะอาดตลาดและเข้มงวดปั๊มน้ำมันต่างๆ ในพื้นที่ในการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 แล้ว

นายอับดล อาบูบาเกอร์ ประธาน อสม.ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง กล่าวว่า มาตรการของ อสม.เป็นด่านหน้าในการคัดกรองบุคคลภายนอกที่เข้ามาในพื้นที่โดยให้สมาชิกที่รับผิดชอบแบ่งกลุ่มครัวเรือนที่จะเข้าไปรับผิดชอบเข้าไปสำรวจว่ามีบุคคลภายนอกเข้าไปในพื้นที่หรือไม่ ถ้ามีก็ให้เขียนรายงานส่งไปที่ รพ.สต.ทาง รพ.สต.ก็จะส่งข้อมูลไปทางอำเภอ พื้นที่ตำบลควนปริงมีแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานอยู่ห้องเย็นหรือโรงงานผลิตอาหารทะเล  ปั๊มน้ำมัน ซึ่งทางโรงงานจะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบของเขาเองในการควบคุมการเข้าออก ส่วนที่ปั๊มน้ำมันทาง อบต.จะเป็นผู้ที่เข้าไปควบคุมดูแล ตรวจสอบ ซึ่งล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมามีบุคคลภายนอกเดินทางจากสุราษฎร์และภูเก็ตเข้ามาอยู่ประมาณ 3 คน มีชาวเมียนมา 2 คน แจ้งกำนัน นายก อบต.และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลเรียบร้อยแล้ว ส่วนตลาดที่เป็นจุดเสี่ยงทางนายก อบต.ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่นำยาไปฉีดพ่นเพื่อฆ่าเชื้อและทำความสะอาดตลาด ส่วนการรณรงค์จะมีการประชาสัมพันธ์ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือของพ่อค้าแม่ค้าที่มาจำหน่ายสินค้าให้ลูกค้าที่เดินในตลาด

ในส่วนความคิดเห็นส่วนตัวของตนและที่ได้พูดคุยกับสมาชิก อสม.ต่างมีความคิดเห็นตรงกันว่าน่าจะมีการสั่งปิดเมือง หรือล็อกดาวส์ เพราะการควบคุมของประชาชนตามที่รัฐบาลประกาศมาให้ควบคุมอยู่กับบ้านไม่ออกนอกพื้นที่ แต่ที่ตนเองขับรถสำรวจดูพบว่าประชาชนยังคงใช้ชีวิตตามปกติเหมือนเดิมไม่เคารพทำตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ไม่ฟังคำสั่งรัฐบาล ตนจึงมองว่าสมควรจะสั่งปิดเมือง หรือล็อกดาวส์ เพราะทุกวันนี้ประชาชนยังคงขับรถออกต่างจังหวัดตามปกติอยู่ ไม่ได้คิดว่าอยู่ในช่วงโรคระบาด ต้องมีการควบคุม ดูว่าประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ คนตรังที่เป็นชาวบ้านทั่วไปไม่มีใครตื่นตระหนกไม่ได้ให้ความสำคัญ แต่สำหรับผู้นำ องค์กร ทุกภาคส่วนจะพยายามเต็มที่แล้ว ช่วยเต็มที่ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยชาวบ้านก็ถูกต่อต้านไม่ให้ความร่วมมือทำให้เกิดการทะเลาะกัน จึงเห็นว่ามาตรการปิดเมือง หรือล็อกดาวส์ ช่วงนี้มีความจำเป็นมาก

"คมชัดลึก ลึกยิ่งกว่าข่าว" ภาพ/ข่าว ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดตรัง