จังหวัดเลยแถลงผู้ป่วยยืนยันรายที่ 2 อายุ 19 ปี เดินทางไปหลายแห่ง แจ้งคนใกล้ชิดรายงานตัวด่วน ขณะที่กระแสข่าวผู้ค้าลอตเตอรี่รายย่อยกลับบ้านแล้วไม่กักตัว 14 วัน ต้องใช้กฎหมายดำเนินการ
เมื่อเวลา เวลา 14.00 น.วันที่ 28 มี.ค.63 ณ ห้องประชุมภูเรือ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเลย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วย นายแพทย์สมชาย ชมพูคำ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย และ นายอภิชาติ สบู่แก้ว สาธารณสุขอำเภอเมืองเลย ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์ล่าสุดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเลย หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายที่ 2 เมื่อศุกร์ที่ผ่านมา
อ่านข่าว นครพนมปิดกั้น 2 หมู่บ้าน ห้าม 2 พันคนเข้า-ออก
รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย กล่าวว่า จากการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 2 ของจังหวัดเลย เมื่อวานที่ผ่านมา โดยพบว่าเป็นชายวัย 19 ปี มีการสัมผัสผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยการสูบบุหรี่ไฟฟ้าร่วมกัน ที่ผับแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ปัจจุบันพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเลย จากการสืบไทม์ไลน์ของทีมสอบสวนโรคพบว่า มีกลุ่มเสี่ยงสูงถึง 10 ราย ด้วยกันที่มีการใกล้ชิดกับผู้ป่วยในช่วงวันที่ 15 – 25 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มในครอบครัว 2.กลุ่มที่ไปโต๊ะสนุ๊ก 3.กลุ่มที่ไปร้านกาแฟเมมโมรี่ ถ.ฝากเลย – นาบอน 4.กลุ่มเพื่อนที่เดินทางมาด้วยรถคันเดียวกัน โดยทั้ง 10 รายทางทีมงานสอบสวนโรคได้ส่งตรวจว่ามีผู้ใดติดเชื้อเพิ่มหรือไม่ คาดว่าผลตรวจน่าจะทราบในวันพรุ่งนี้
สำหรับไทม์ไลน์การดินทางของหนุ่มวัย 19 ปี ตลอดช่วงวันที่ 14 – 25 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่าเดินทางพบปะกินอาหาร ดื่ม หลายกลุ่มหลายสถานที่ ประกอบด้วย วันที่ 14 มี.ค.63 ซึ่งเป็นวันรับเชื้อวันแรกผู้ป่วยได้ไปเที่ยวสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อที่ร้านยูบาร์ จ.ขอนแก่น ตั้งแต่เวลา 23.30 น. – 02.30 น. วันที่ 15 มี.ค.63 เวลา 16.00 – 20.00 น. ได้เดินทางกลับมายัง จ.เลย ด้วยรถยนต์ส่วนตัวของเพื่อน ถึง บ้านนาดอกไม้ อ.วังสะพุง เวลา 20.00 น. จากนั้นได้ให้มารดาขับรถส่วนตัวมารับกลับบ้าน วันที่ 16 มี.ค.63 เวลา 16.00 น. ได้ขับรถยนต์ส่วนตัวของมารดาไปรับของที่ บขส.เลย ก่อนไปรับประทานเนื้อย่างที่ร้านกีกี้ กับมารดา 2 คน จากนั้นเวลา 20.00 -20.10 แวะไปเก็บเงินค่าขนมที่ตลาดคลองถม ต.กุดป่อง อ.เมืองเลย วันที่ 17 มี.ค.63 เวลา 17.00 -19.00 น. เดินทางไปที่ตลาดนัดบ้านนาหนองช่วยมารดาขายขนม จากนั้นเวลา 23.00 – 24.00 น. ไปที่ร้านสังสรรค์กับเพื่อนที่ร้าน Canvas และเวลา 24.00 – 02.40 น. ไปเล่นสนุ๊กเกอร์ที่ซอยข้างซอยโรบอท
วันที่ 18 มี.ค.63 เวลา 15.30 – 21.00 น. ไปขายของกับมาดาที่ตลาดนัดเชียงคาน จากนั้นเวลา 21.00 - 22.00 น. ไปรับประทานข้าว เล่นเกม และสูบบุหรี่ไฟฟ้า ร่วมกับเพื่อนที่ร้านเมมโมรี่ค็อฟฟี่ ถ.ฟากเลย-นาบอน วันที่ 19 มี.ค.63 ไปซื้อเนื้อย่างที่ร้านกีกี้ สาขาบ้านฟากนา กลับไปรับประทานที่บ้าน วันที่ 20 – 22 มี.ค.63 อยู่กับบ้านไม่ได้ออกไปไหน วันที่ 23 มี.ค.63 นั่งรถส่วนตัวไปเล่นเกมส์ที่ร้าน เมมโมรี่ค็อฟฟี่ ถ.ฟากเลย-นาบอน วันที่ 24 มี.ค.63 เห็นโพสต์ของเพิ่อนที่ไปร่วมสังสรรค์ที่ร้าน ยูบาร์ จ.ขอนแก่น ว่าติดเชื้อโควิด-19 และกำลังรักษาตัวที่ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี วันที่ 25 มี.ค.63 เดินทางมายังโรงพยาบาลเลย เพื่อแจ้วทีมแพทย์ว่าเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ก่อนแพทย์จะทำการแอดมิด นำผลเลือดไปตรวจ วันที่ 26 มี.ค.63 ผลการตรวจเลือดพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ด้าน นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม กล่าวว่า การที่มีการปิดสถานที่ที่เป็นสถานบริการ เช่น โต๊ะสนุ๊ก สถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ที่มีความเสี่ยงทั้งหมด และผลการตรวจแสดงให้เห็นความชัดเจนของการติดเชื้อซึ่งยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าเชื้อติดกันทางน้ำลายจากการสูบบุหรี่มวนเดียวกัน ซึ่งไม่สมควรทำอย่างยิ่ง และเรียนเน้นย้ำกับพี่น้องประชาชนที่สงสัยว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ผู้ที่กำลังกักตัว Home Quarantine ผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงติดโรค หรือมีอาการสงสัยว่าตัวเองติดโรค ไม่ต้องเดินทางมาโรงพยาบาลด้วยตนเอง แต่ให้โทรศัพท์มาประสานงานกับโรงพยาบาลตามที่สถานที่ที่กำหนด (เบอร์ที่แนบในภาพ) หลังจากนั้นทีมสอบสวนโรคจะประเมินแล้วจะจัดช่องทางที่ปลอดภัยในการดำเนินการตรวจติดตามรักษาโรค จึงขอให้บุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่โดยเร็ว ภายในวันที่ 29 -30 มีนาคม 2563
สำหรับสถานที่ในการรายงานสำหรับผู้ที่รู้ หรือสงสัยว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงการติดเชื้อได้แก่คลินิกหมอครอบครัวกุดป่อง ข้างร้านใจสดชื่น โทร. 081-768-2786 / 083-672-2280 /086-242-8498 / 081-117-2106 2. ศูนย์บริการสาธารณะสุข เทศบาลเมืองเลย ต.กุดป่อง ในเขต เทศบาลเมืองเลย โทร 089-157-2580 / 089-455-8024 / 063-451-4561 3.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ต.นาอาน โทร. 061-929-2942 / 082-964-0628
ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวอีกว่า สำหรับข่าวว่าประชาชนผู้ค้าล็อตเตอรี่รายย่อยเดินทางกลับมาจากทุกภูมิภาคถึงบ้านแล้วไม่ปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์ ไม่ยอมกักตัวเอง 14 วัน ไปไหน-มาไหน ได้ นั้น เรามีการลงทะเบียนลงประวัติไว้ชัดเจนแล้ว เราวางกฎหลักเกณฑ์เพื่อปฏิบัติแล้วมีคณะทำงานดูแลตามกฎหมาย ตนจะรีบเข้าไปดูและสั่งการกำกับอย่างเข้ทมงวดแน่นอน โดยหากพบว่ารายใดยังฝ่าฝืนจะใช้กฎหมายดำเนินการทันที
-------------------------------------------------
บุญชุ ศรีไตรภพ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง