พบมีไข้สูง 11 ราย หลังแรงงานแห่กลับวันสุดท้าย

                   วันที่ 25 มีนาคม 2563 ได้มีแรงงานชาวเมียนมานับประมาณ 1,000 คน รอเพื่อข้ามพรมแดนกลับไปยังภูมิลำเนา พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน ผกก.ตม.จว.เชียงราย จึงได้จัดกำลังเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแรงงานดังกล่าว ที่หน้าด่านพรมแดนตรงจุดผ่านแดนถาวร อ.แม่สาย สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ตรงข้าม จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา โดย จ.ท่าขี้เหล็ก หลังจากทาง จ.เชียงราย ได้มีการผ่อนผันกรณีมีคำสั่งปิดด่านพรมแดนทุกจุดเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยคงเหลือจุดเพื่อขนส่งสินค้าเพียง 2 จุดคือที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย และสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงของ แต่ได้ผ่อนผันให้แรงงานเมียนมา ที่มาทำงานในประเทศไทยที่ตกค้างสามารถเดินทางกลับได้จนถึงวันที่ 25 มี.ค. ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้าย ตั้งแต่มีการประกาศปิดพรมแดนเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ก็มีชาวเมียนมาเดินทางกลับไปแล้วเป็นจำนวนมาก 

อย่างไรก็ตามพบว่าในช่วงวันสุดท้ายประสบกับปัญหาการข้ามแดนเนื่องจากทางการเมียนมาได้มีการปรับระบบภายในที่ด่านพรมแดน จ.ท่าขี้เหล็ก จึงไม่มีการเปิดด่านพรมแดนเพื่อรับผู้คนที่ตกค้าง ทำให้นายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอแม่สาย และศูนย์ประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา ส่วนท้องถิ่น (แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก) หรือทีบีซีได้ประสานกับทางอูมิ้น ไหน่ ผู้ว่าการจังหวัดท่าขี้เหล็ก และได้รับคำตอบว่าทางท้องถิ่นของเมียนมาก็รอคำสั่งจากรัฐบาลกลาง จนกระทั่งช่วงสายจึงมีการเปิดด่านพรมแดนรับชาวเมียนมากลับตามปกติ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไทยทั้งทหารกองกำลังผาเมือง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ฝ่ายปกครอง และ สภ.แม่สาย ได้อำนวยความสะดวกให้โดยมีการแจกจ่ายหน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคด้วย ขณะเดียวกันพบว่ามีคนไทยที่ตกค้างในรัฐฉานเดินทางกลับมาประมาณ 100 คนแล้ว

จากรายงานพบว่าเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมาได้มีชาวเมียนมาเดินทางข้ามไปจำนวนมากแล้วตรวจพบมีไข้ขึ้นสูงจำนวนถึง 11 ราย ปัจจุบันถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลท่าขี้เหล็กแล้ว ทำให้ทางการเมียนมาต้องปรับระบบเพื่อคัดกรองและเฝ้าระวังผู้เดินทางกลับอย่างหนักจึงเป็นผลให้มีการเปิดด่านล่าช้าดังกล่าว ซึ่งพบว่าแรงงานชาวเมียนมาที่ได้รับการผ่อนผันให้กลับไปไปชุดแรกวันนี้ประมาณ 700 คน และเดินทางข้ามสะพานไปก็ถูกตรวจสอบและกักอยู่บริเวณหน้าด่านฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก โดยยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ชั้นในของประเทศโดยทันทีแต่อย่างใดซึ่งขั้นตอนในประเทศเมียนมาดังกล่าวคาดว่าใช้เวลานานทำให้แรงานจำนวนมากพากันนั่งรออยู่เต็มฝั่งเมียนมา

ด้านชายแดนไทย-สปป.ลาว อ.เชียงของ ซึ่งมีการปิดพรมแดนโดยอนุญาตให้เฉพาะรถขนส่งสินค้าข้ามไปมาได้เท่านั้นนั้น พบว่าได้มีคนสัญชาติลาวจำนวน 1 คนเดินทางมาจากเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ข้ามมารักษตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเชียงของ และพบว่ามีรถบรรทุกสินค้าขนสนค้าออกจากประเทศไทยไปจำนวน 5 คัน และเดินทางกลับมาจำนวน 41 คัน ผู้ขับขี่เป็นคนไทยทั้งหมดซึ่งได้ถูกตรวจคัดกรองทั้งหมดแล้ว