ข่าว

สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่เชียงดาวยังแรง ส่งผลPM.2.5 พุ่ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ค่า PM.2.5 เชียงใหม่ทะลุ 535 มคก/ลบ.ม ในเมืองเชียงใหม่ 332 มคก/ลบ.ม สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่เชียงดาวแรง เน้นย้ำยกระดับมาตรการห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิด หากฝ่าฝืนจะลงโทษตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด

วันที่ 13 มีนาคม 2563 นายเจริญฤทธิ์  สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นควันในพื้นที่อำเภอเชียงดาว ณ ที่ว่าการอำเภอเชียงดาว โดยมี นายชัชวาลย์ พุทธโธ นายอำเภอเชียงดาว ฝ่ายปกครอง อปท. ผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ เข้าร่วมหารือ เพื่อมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานอย่างเร่งด่วน หลังได้ตั้งศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ (ส่วนหน้า) ภายหลังได้ตั้งศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ (ส่วนหน้า) ภายในค่ายพิชิตปรีชากร ร.7 พัน.2 อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ในปฏิบัติการ Set Zero โดยเน้นพื้นที่อำเภอเชียงดาว พร้าว ไชยปราการ และแม่แตง ล่าสุดวันนี้ที่อำเภอเชียงดาวทะลุ 535 มคก/ลบ.ม ในเมืองเชียงใหม่ 332  มคก/ลบ.ม

  สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่เชียงดาวยังแรง ส่งผลPM.2.5 พุ่ง

สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่เชียงดาวยังแรง ส่งผลPM.2.5 พุ่ง

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ อปท.ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว เร่งจัดทำแผนโครงการอนุมัติจ้างผู้ที่หาของป่าจากบัญชีรายชื่อที่อำเภอได้เคยสำรวจไว้ มาเป็นพนักงานลาดตระเวนและดับไฟในพื้นที่ของ อปท.นั้น โดยเฉพาะตำบลปิงโค้ง ตำบลทุ่งข้าวพวง และตำบลเมืองนะ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดความร้อนขึ้นสูงและมีไฟป่าเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แม้จะมีมาตรการปิดป่า 100% แล้วก็ตาม โดยจากการตรวจสอบพบว่าเกิดการลักลอบเผาในเขตป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ สภาพป่าที่มีสภาพแห้งแล้ง ทำให้ติดไฟง่ายและลุกลามไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ภูเขาสูงชัน ยากต่อการที่หน่วยดับไฟภาคพื้นดินเข้าถึง ทั้งนี้ ได้ขอรับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์​ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อสนับสนุนภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ โดยจะมาประจำการอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยก่อนหน้านี้เฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้นำอากาศยานเข้าไปช่วยดับในพื้นที่แล้วอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ได้กำชับให้ กำลังทหาร ตำรวจ เหยี่ยวไฟ สังกัดกรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่เสือไฟ สังกัดกรมอุทยานฯ ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน และจิตอาสาในพื้นที่ ยังคงตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ รวมทั้งจัดกำลังพลออกลาดตระเวนในแต่ละพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องปรามการลักลอบเผาป่าเพิ่ม ตามข้อสั่งการของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ให้เพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง นับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ต้องดำเนินการควบคู่กับการดับไฟป่า เพื่อแก้ไขปัญหาจุดความร้อนในพื้นที่ให้ลดลง และไม่มีเกิดจุดความร้อนเกิดขึ้นอีก

สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่เชียงดาวยังแรง ส่งผลPM.2.5 พุ่ง

นอกจากนี้ ได้ส่งกำลังทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่อุทยาน สนธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครอง อปท. ผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ ออกลาดตระเวน ตรวจสอบจุดความร้อน และเฝ้าระวังการเกิดไฟป่า ซึ่งเป็นการดำเนินการตามนโยบายของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ให้เพิ่มการลาดตะเวนในพื้นที่เสี่ยงให้มากขึ้น ถือเป็นปฏิบัติการทางจิตวิทยา และกลยุทธ์สำคัญที่ต้องทำควบคู่กันไป เพื่อป้องปรามการลักลอบเผาป่าเพิ่ม พร้อมกันนี้ยังมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านในพื้นที่รู้ถึงโทษภัยของไฟป่า และงดเผาป่าในทุกพื้นที่ด้วย ภายหลังจากได้ออกประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง “กำหนดช่วงเวลาห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดอย่างเด็ดขาดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563” ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม – 30 เมษายน 2563 เพื่อเน้นย้ำการยกระดับการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันและไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ หากฝ่าฝืนจะดำเนินการลงโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเฉียบขาดต่อไป และสำหรับผู้ชี้เบาะแสเพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดจะได้รับรางวัลนำจับรายละ 5,000 บาท โดยสามารถแจ้งเหตุได้ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 053-112-808 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 191 ตลอด 24 ชั่วโมง สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่เชียงดาวยังแรง ส่งผลPM.2.5 พุ่ง

ฟงหวิน ศักดิ์อัศวิน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เชียงใหม่

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ