พ่อแม่พาเด็กขับรถกระบะผ่าเมืองเข้าพบตำรวจ

               ความคืบหน้ากรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กchotikachandaketได้โพสต์ข้อความและรูปภาพว่า "เห้ยย ให้เด็กตัวเท่านี้ขับรถได้ไง แถมในรถมีน้องอีกคน ย้ำว่าขับนะคะ ไม่ใช่นั่ง เด็กน่าจะไม่ถึง 10 ขวบเลย ทำไงดี กลัวมีอันตรายจัง พิกัดหน้าตลาด ซอยหลังบิ๊กซีชลบุรี หมายเลขทะเบียน ผอ711 ชลบุรี กระบะอีซูซุ สีบอร์นเงิน พื้นที่เสม็ด ลองสัมภาษณ์ ผกก. ว่าแบบนี้ผิดไหม" สร้างความปั่นป่วนให้กับ ตำรวจ สภ.เสม็ดนั้น

                       พ.ต.ท.วุฒินันท์ นามแสง ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ เรืองนวมดี รองผู้กำกับการพร้อมกำลังตำรวจช่วยติดตามพ่อแม่และผู้ปกครองของเด็กที่ขับรถกระบะดังกล่าว    จนกระทั่งสามารถติดตามรถได้ที่บ้านเลขที่ 26/7 หมู่ 7 ตำบลหนองข้างคอก อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี    โดยมีนายสุชาติ มั่นการ อายุ 59 ปี และนางสายพินธ์ เผือกรอด อายุ 48 ปี พ่อแม่ของ ด.ช.โอ อายุ 13 ปี คนขับรถกระบะ ยอมรับว่า   ให้น้องโอขับรถจริง หลังจากนั้นจึงได้นำตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเสม็ด ซึ่งทั้งพ่อและแม่ยอมรับผิด จึงได้ตั้งข้อหายินยอมให้เด็กไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถขับรถ จึงได้เปรียบเทียบปรับไป 1,000 บาท ปรากฏว่าทั้งเนื้อทั้งตัวนายสุชาติ และนางสายพินธ์ มีเงินในกระเป๋า 50 บาท เท่านั้น ทาง พ.ต.อ.กฤศ ธิติทัศนะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเสม็ด จึงได้ออกค่าปรับให้

              จากการสอบถามนางสายพินธ์กล่าวว่า ช่วงที่มีผู้เห็นลูกชายขับรถนั้น เป็นช่วงที่ตนเองเอาของเก่ามาขาย และแวะตลาดหนองสมอ หมู่ 3 ตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เพื่อซื้อกับข้าวกลับบ้าน    การที่ให้ลูกชายขับรถมาให้นั้น เนื่องจากสามีป่วยขับรถไม่ได้ เห็นว่าใกล้บ้านจึงได้ให้ลูกชายขับมา   ปกติหากลูกชายขับรถจะมีแม่และพ่อคอยดูแลเป็นประจำ ส่วนที่ทางผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเสม็ดช่วยออกค่าปรับให้ขอขอบคุณจริงๆ ช่วงนี้สามีก็ป่วย ครอบครัวก็ยากจนตนมีลูกชาย 4 คน ก็ต้องหาเช้ากินค่ำ

                         ทางด้านนายสุชาติ พ่อของน้องโอ กล่าวว่า ปกติลูกชายได้ช่วยเหลือครอบครัวมาตลอด ยอมรับว่า   ลูกชายตนขับรถได้ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นรถกระบะ รถพ่วง รถเทลเลอร์ แม้กระทั่งรถแม็คโครสามารถขุดตักทำงานได้อย่างเรียบร้อย ยอมรับว่าตนเองป่วย จากการทำงานขับรถแม็คโคร ช่วงนี้ทำงานไม่ได้ ครอบครัวเดือดร้อนเหมือนกัน

                        พ.ต.อ.กฤศ กล่าวว่า การที่ตนช่วยออกค่าปรับนั้นไม่ได้ส่งเสริมให้เด็กกระทำผิด แต่เป็นการช่วยเหลือเด็กมากกว่า เพราะครอบครัวยากจน พ่อป่วยทำงานไม่ได้ อย่างไรก็ตามได้กำชับไปแล้วว่าอย่าขับรถอีก เพราะผิดกฎหมาย

อำนาจ    ลลิตลาวัณย์    ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   ประจำจังหวัดชลบุรี