โรงแรมหรูย่านเขาหลักแจ้งความ หลังถูกใส่ร้ายมีพนักงานติดเชื้อ

คืบหน้าจากกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความว่า “ โควิค 19....มาโรงแรมแห่งหนึ่งในย่านท่องเที่ยวเขาหลัก ตั้งนานแล้วนะ เป็นเดือนแล้วเค้าปิดข่าว ” และมีการโต้ตอบคอมเม้นว่า “ ข้ามมาโรงแรมแห่งหนึ่งในย่านท่องเที่ยวเขาหลักแล้ว อิอิ อีกนิดเดียวก็เข้ามาทับละมุแล้ว บายใจ๊ บายใจ ”  ทำให้เกิดความตื่นตระหนก ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพักในโรงแรม จนเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ต้องลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนสู่โรงแรมอีกครั้ง

ล่าสุด นายจีรศักดิ์ เกาะสมัน ผู้จัดการโรงแรมหรูย่านแหล่งท่องเที่ยวเขาหลัก ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา นำเอกสารหลักฐานการกระทำผิด เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.เทิดศักดิ์ แก้วมณี พนักงานสอบสวน สภ.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา หลังโพสต์ดังกล่าวได้ทำให้ทางโรงแรมได้รับความเสียหาย  ซึ่งการนำเอกสารเข้าแจ้งความในครั้งนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ เรียกตัวผู้กระทำผิดเข้ามาดำเนินการตามกฎหมายเป็นเยี่ยงอย่าง เพื่อให้ผู้ที่ใช้โลกสังคมออนไลน์ ได้มีความตระหนัก มีการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง ก่อนโพสต์ข้อความ ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายให้กับผู้อื่น จนเข้าข่ายการหมิ่นประมาท และเป็นความผิดทางกฎหมาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้ติดต่อยัง เจ้าของ เฟสบุ๊กดังกล่าว คือ ชาย อายุ 31 ปี พ่อค้าขายเครปญี่ปุ่น น้ำผลไม้และน้ำหวาน ชาวบ้าน หมู่ 5 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ก่อนเข้าแสดงตัวต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งการสอบปากคำเบื้องต้นได้มีการยืนยันเป็นเจ้าของเฟสบุ๊กจริง และยอมรับว่าได้คอมเม้นข้อความจริง แต่ทำด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เนื่องจากเห็นมีการโพสต์ข้อความเฝ้าระวัง เชื้อไวรัสโควิค 19 ในพื้นที่ต่างๆ ทำให้ตนเองที่ทราบข้อมูลจากรถตู้โดยสารซึ่งจอดรถรอรับส่งนักท่องเที่ยวที่บริเวณ ทางเข้าท่าเทียบเรือบ้านทับละมุ พูดคุยกัน จึงเชื่อว่ามี เชื้อไวรัสโควิค19 ในพื้นที่ท้ายเหมืองจริง

ขณะที่ให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ได้ยกมือไหว้พร้อมกล่าวขอโทษ ขอขมา ต่อ นายจีรศักดิ์ เกาะสมัน ผู้จัดการโรงแรม ก่อนแจ้งให้ลบคอมเม้นพร้อมโพสต์ข้อความขอโทษผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อแจ้งให้ผู้ติดตามและเพื่อในออนไลน์ได้รับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น กระทั่งตัวแทนโรงแรมพอใจต่อการแจ้งผ่านสื่อออนไลน์และการขอโทษเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการว่ากล่าวตักเตือน พร้อมลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และยินยอมไม่เอาความ

ซึ่งชายคนดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนเองกระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยไม่ได้ไตร่ตรองข้อมูลข้อเท็จจริงก่อนทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย หลังจากนี้ตนเองจะคอมเม้นหรือโพสต์ลงข้อความใดๆต้องคิด หาข้อเท็จจริงก่อนโพสต์ข้อความต่างๆ และขอให้สังคมสื่อโซเชียลทั้งหลายนำเป็นบทเรียนแก่สังคมทั่วไป

ภาพ/ข่าว วรรณศิริ โพธิพันธ์ รายงานจากจังหวัดพังงา