ผอ.โรงเรียนแม่ข้าวต้มท่าสุด ยันไม่ติดเชื้อ ทำความสะอาดโรงเรียนฆ่าเชื้อไวรัส

                       จากกรณีโรงเรียนแม่ข้าวต้มท่าสุด ต.ท่าสุด อ.เมือง จ.เชียงราย ได้ปิดทำการเรียนการสอน  ระหว่างวันที่ 2 ถึง 6  มี.ค.เป็นเวลา 5 วัน  ภายหลังตรวจพบเด็กนักเรียนจำนวน 17 คน ได้คลุกคลีกับผู้ปกครองที่เดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงคือประเทศใต้หวัน เกาหลีใต้และประเทศจีน  ทางโรงเรียนจึงได้มีมาตรการป้องกันในระยสั้นและระยาว โดยระยะเร่งด่วนจะมีการทำความะสอาดโรงเรียนครั้งใหญ่ในที่ 4 มี.ค. เพื่อฆ่าเชื้อโรครวมถึงเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์หรือโควิด 19 แม้ว่าเบื้องต้นจะยังไม่พบนักเรียนหรือผู้ปกครองกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัส  แต่เพื่อความปลอดภัยให้นักเรียนทั้ง 17 คนหยุดเรียนเป็นเวลา 14 วัน ขณะที่ล่าสุดมีรายงานมีครูของโรงเรียน 1 คน มีอาการป่วยไม่สบายซึ่งได้ดำเนินการส่งตัวไปตรวจคัดกรองตรวจหาเชื้อตามขั้นตอนของกระทนรวงสาธารณสุขแล้ว

นายสุวิทย์ บุรษรากุล  รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนแม่ข้าวต้มท่าสุดกล่าวว่า ทางโรงเรียนมีมาตรการคัดกรองและตรวจสอบนักเรียนกลุ่มเสี่ยงตามมาตรการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอยู่แล้ว เนื่องจากพื้นที่มีกลุ่มผู้ปกครองไปทำงานยังประเทศกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้จำนวนมาก ซึ่งเมื่อตรวจสอบพบว่ามีการเดินทางกลับมาจากการทำงานในประเทศเหล่านี้จำนวน 17 ราย จึงขอให้มีการหยุดเรียนก่อนจำนวน 14 วัน ส่วนนักเรียนปกติให้หยุด 5 วัน เป็นมาตรการเร่งด่วนเพื่อทำความะสอาดโรงเรียน โดยสัปดาห์หน้าจะเปิดให้เข้ามาทำการสอบปลายภาคอีก 3 วัน ก็จะปิดภาคเรียน โดยเมื่อเปิดให้นักเรียนมาโรงเรียนจะทำการตรวจวัดไข้ทั้งคณะครูและนักเรียนทุกคน หากพบนักเรียนมีอาการไข้จะให้ผู้ปกครองมารับกลับบ้านไม่อนุญาตให้เข้าเรียน หากผู้ปกครองไม่มารับก็จะจัดห้องพยาบาลเพื่อกักโรคโดยเฉพาะ ก่อนจะส่งตัวให้สาธาณสุขตรวจคัดกรองผู้ป่วยตามระเบียบ จนกว่าจะมีการปิดภาคเรียนซึ่งจะปิดนานประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งคาดว่าช่วงนั้นสถานการณ์จะเบาบาง แต่หากเปิดภาคเรียนสถานการณ์ยังมีการแรพ่ระบาดก็จะใช้มาตรการเดิมในการดูแลป้องกันนักเรียน  รวมทั้งงดกิจกรรมทุกอย่างทั้งการออกค่ายนักเรียน งานวิชาการหรือการแข่งขันทักษะ เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อหรือการกระจายของเชื้อไวรัสไปยังคนหมู่มาก แต่อย่างไรก็ตามจนถึงขณะยังยืนยันว่านักเรียนทั้ง 17 เป็นเพียงการเฝ้าระวังยังไม่มีการตรวจพบว่ามีนักเรียนคนไหนติดเชื้อไวรัสแต่อย่างใด