สาวโพสต์ขู่ ปาดคอเด็ก พูดชัดแค่ประชด ไม่ได้ทำจริง

            จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้หญิง และคาดว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ได้โพสต์ภาพเด็กชายประมาณวัย 2 ขวบ ในสภาพเนื้อตัวมอมแมม ได้รับบาดเจ็บ มีเลือดไหลออกมาที่ปาก พร้อมข้อความในลักษณะว่า ขนาดตัวเท่านี้ยังสร้างปัญหา หากโตขึ้นมาแล้วจะเป็นอย่างไร หากไม่สงสารจะนำไปปล่อยวัดแล้ว และข้อความในลักษณะขู่ปาดคอเด็ก เพราะขนาดพ่อแม่ยังไม่สนใจ แล้วตนเป็นใครจะสนใจเพื่ออะไร ซึ่งหลังจากมีการโพสต์ภาพและข้อความนี้ออกไปในโลกโซเชียล ทำให้มีการแชร์ พร้อมแสดงความคิดเห็นต่างๆนาๆ ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ทราบสาเหตุและต้นตอของผู้ที่โพสต์ แต่ตำหนิการโพสต์ภาพเด็ก และเกรงว่าเด็กจะไม่ได้รับความปลอดภัย 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ นายอำเภอสมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.สมเด็จ นายสมานมิตร อัฐนาค ผอ.โรงพยาบาลสมเด็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สมเด็จ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกันตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ทราบว่าผู้ที่โพสต์คือ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ  26 ปี   ชาว อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ส่วนเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ คือ  ด.ช.บี อายุ 2 ปี  โดยเด็กได้รับบาดเจ็บจากการล้มตามประสาความซุกซนทำให้ปากแตก มีเลือดออก ไม่ได้เกิดจากการถูกทำร้ายร่างกาย

โดยจากการสอบถาม น.ส.เอ ระบุว่า ตนเป็นญาติพี่น้องกับแม่ของเด็ก มีศักดิ์เป็นน้า ที่ผ่านมาแม่ของเด็กได้เอาลูกชายมาให้ยายวัย 67 ปี เป็นคนเลี้ยงดู ส่วนแม่ไปทำงานต่างจังหวัด ซึ่งตนสงสารเห็นว่ายายอายุมากแล้ว จึงช่วยเลี้ยงดูแทนไปพร้อมกับลูกชายของตนที่อายุ 2 ขวบเท่ากัน ซึ่งก็รักและเลี้ยงดูเหมือนลูกในไส้ตนเอง ส่วนภาพที่เห็นและสาเหตุที่โพสต์นั้น ตนถ่ายเอง เป็นเหตุการณ์เด็กวิ่งล้มจนปากแตกเลือดไหลและรักษาแล้ว แต่เก็บภาพไว้ กระทั้งเมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ด้วยความโมโหจึงตัดสินใจโพสต์ลงเฟสบุ๊ก เนื่องจากอยากให้แม่ที่แท้จริงส่งเสียเลี้ยงดูเด็ก เพราะระยะหลังมาไม่ส่งเสียเลี้ยงดูลูก อีกทั้งตนพยายามติดต่อไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่รับสาย จึงต้องโพสต์เรียกร้องความสนใจผู้เป็นแม่เท่านั้น ซึ่งอาจจะใช้คำพูดที่รุนแรงเกินไป แต่ไม่ได้มีเจตนาอื่นและไม่ได้ทำร้ายเด็ก อีกทั้งไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่ารักและจะเลี้ยงดูเด็กเหมือนลูกแท้ๆตามเดิมต่อไป ซึ่งก็ฝากขอโทษผู้ที่เกี่ยวข้องและสังคมด้วย ต่อไปจะไม่ใช้อารมณ์อีกแล้ว 

ด้านนายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ นายอำเภอสมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวทางอำเภอสมเด็จ ได้รับทราบเรื่องตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พร้อมกับลงพื้นที่ไปตรวจสอบร่วมกับ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.สมเด็จ จนทราบตัวคนโพสต์ พร้อมกับนำตัวมาสอบถามแล้ว ทราบว่าเป็นการโพสต์ภาพเด็กที่วิ่งหกล้มปากแตกไม่ได้ทำร้าย ส่วนกรณีข้อความที่ขู่ปาดคอ และทำร้ายนั้น เป็นการโพสต์ เพื่อเรียกร้องให้แม่ของเด็กสนใจ แต่อาจจะใช้คำพูดที่รุนแรง ด้วยความโมโหอารมณ์ชั่ววูปและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ 

นายสมลักษ์  กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยเจ้าตัวยืนยันว่า ยังสามารถดูแล และเลี้ยงดูเด็กได้อยู่ เพราะอยากให้เด็กมีครอบครัว ซึ่งทางอำเภอได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.กาฬสินธุ์ เข้าติดตามประเมินเป็นระยะๆ เพื่อที่จะหาแนวทางช่วยเหลือ และให้ผู้นำชุมชนดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากขาดเหลืออะไรให้รีบแจ้งเข้ามาเพื่อที่จะเข้าช่วยเหลือทันที  อย่างไรก็ตามอยากฝากเตือนไปยังผู้ใช้สื่อบนโลกโซเชียล ซึ่งมีทั้งผลดี และผลร้าย ควรที่จะมีสติ และคิดให้รอบครอบอย่างถี่ถ้วนก่อนโพสต์และแชร์

ขณะที่ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.สมเด็จ กล่าวว่า จากสอบถามบ้านใกล้เคียง และดูร่องรอยตามตัว ไม่พบ ร่องรอยถูกทำร้ายส่วนภาพเด็กบาดเจ็บที่โพสต์ถูกถ่าย เมื่อวันที่  2 และวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปยังโรงพยาบาลสมเด็จ เพื่อตรวจสุขภาพและบาดแผล พบว่า อาการบาดเจ็บของเด็กก็หายเป็นปกติแล้ว ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ดำเนินคดี แต่ได้ว่ากล่าวตักเตือนและแนะนำให้ใช้สติคิดอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

ชมพิศ  ปิ่นเมือง  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กาฬสินธุ์