ทำลายแหล่งผลิตและสกัดกั้นยาเสพติด

นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า จากการประสานความร่วมมือของรัฐบาลทั้งสามประเทศคือ ไทย เมียนมา และ สปป.ลาว ในการสกัดกั้นยาเสพติดจากแหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำภายใต้ข้อตกลงร่วม 3 ประเทศและปฏิบัติการ 1511 ซึ่งส่งผลให้มีการจับยึดและทำลายแหล่งผลิตยาเสพติดจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ในสัปดาห์ที่ผ่านมาสามประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงดำเนินการได้ผลที่สำคัญคือเมียนมา สามารถทำลายแหล่งผลิตยาบ้าได้เพิ่มอีก 1 แห่ง ที่ จ.เมืองสาต 

ไม่ไกลจากชายแดนไทยด้าน จ.เชียงใหม่ ยึดเครื่องอัดเม็ดชนิดโรตารี 2 เครื่อง ยาบ้าประมาณ 1.2 ล้านเม็ด อะไหล่หัวตอกยาบ้าและเคมีภัณฑ์อีกจำนวนมาก ส่วน สปป.ลาว สกัดจับยาบ้าได้กว่า 1 ล้านเม็ด ไอซ์ 300 กิโลกรัม และเฮโรอีน28 กิโลกรัม ที่แขวงบ่อแก้ว ขณะที่ไทย สกัดกั้นยาบ้า 2.25 ล้านเม็ด ที่ อ.แม่สาย และ 2.5 ล้านเม็ด ที่ด่านตรวจแม่พริกจ.ลำปาง เพียงสัปดาห์เดียวรวม 3 ประเทศยึดยาบ้า  6.95 ล้านเม็ด ไอซ์ 314 กิโลกรัม เฮโรอีน 43 กิโลกรัม เชื่อว่าผลจากการปฏิบัติช่วยลดปริมาณยาเสพติดที่จะเข้าสู่ตลาดภายในประเทศได้เป็นจำนวนมาก

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่า นับแต่เปิดแผนปฏิบัติการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 – กุมภาพันธ์ 2563 ประเทศสมาชิกได้ปฏิบัติการรวม 1,988 ครั้ง ทำลายแหล่งผลิตยาเสพติด 3 แห่ง ยึดเครื่องอัดเม็ดยาบ้า 10 เครื่อง ยาบ้า 56.6 ล้านเม็ด ไอซ์ 6.2 ตัน เฮโรอีน 485 กก. คีตามีน 517 กก. และเคมีภัณฑ์ 62 ตัน ซึ่งผลของปฏิบัติการในระยะที่ 1 ตลอด3 เดือนที่ผ่านมา 6 ประเทศสมาชิกลุ่มแม่น้ำโขงได้มีข้อตกลงร่วมกันที่จะขยายการปฏิบัติการออกไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2563

เลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุว่าผลปฏิบัติการดังกล่าวเกิดจากรัฐบาลของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินนโยบายความร่วมมือระหว่างประเทศเชิงรุกในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยประสานงานอย่างใกล้ชิดกับประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และนายสมศักดิ์ เทพสุทินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้นำนโยบายสู่การปฏิบัติด้วยการผลักดันให้เกิดแผนปฏิบัติการร่วมสามเหลี่ยมทองคำ 1511 ขึ้นมาเมื่อเดือนธันวาคม 2562 จึงขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลได้ดำเนินทุกมาตรการที่จะแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ลดลง และหากพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง

ภาพ/ข่าว. นิศานาถ  สมัครไทย  ทีมข่าวเฉพาะกิจคมชัดลึก