สาวไฮโซขู่ฟ้องนักข่าว หลังเสนอข่าวรถสปอร์ตหรูเถื่อน

 

 

                     จากกรณีที่ พล.ต.ต.สนธิชัย  อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช สั่งกำชับให้ พ.ต.อ.รังสรรค์   สุขเกื้อ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และ  พ.ต.ต.ธีระพร   ศักดิ์ศรี สว.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ในฐานะ หน.ชุดป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถ ภ.จว.นครศรีธรรมราช นำกำลังตำรวจในปกครองออกตรวจสอบและทำการตรวจยึดรถยนต์ที่ผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ทำการตรวจยึดรถยนต์เก๋งสปอร์ตหรู ยี่ห้อ BMW รุ่น Z4 สีขาว ป้ายทะเบียน ญร-440 กทม.มูลค่ากว่า  5 ล้านบาท ซึ่งจอดริมถนนสายพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเย็นวันที่23ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากสงสัยว่าจะเป็นรถที่ไม่ถูกต้อง โดยเจ้าหน้าที่นำรถเก๋งหรูคันดังกล่าวมาทำการตรวจสอบอย่างละเอียดในเบื้องต้นรถหรูคันดังกล่าวน่าจะเป็นรถนำเข้าโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำมาสวมทะเบียนรถคันอื่น ตามมี่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

 

 

 

                  26 ก.พ.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเมื่อว่าหลังการตรวจยึดได้มี  น.ส.ณิชารีย์   หรือ “จ๋า” นาคกลัด อายุ 27 ปีอยู่บ้านเลขที่ 1/70 หมู่ 1 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช  ซึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าวได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่ารถหรูคันดังกล่าวตนยืมเพื่อนจาก อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานีมาขับ โดยทาง พ.ต.ต.ธีระพร   ศักดิ์ศรี ได้ทำบัญทึกการตรวจยึดและนำรถหรูคันดังกล่าวส่งมอบให้ ร.ต.อ.สุวิทย์   ทองสุภา รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองนครศรีธรรมราช สอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ยางไรก็ตาม น.ส.ณิชารีย์   นาคกลัด  ได้โวยวายข่มขู่ผู้สื่อข่าวที่ทำข่าวเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวางว่าเรื่องนี้ตำรวจแค่ยึดรถมาตรวจสอบเท่านั้น ซึ่งตนเองมีหลักฐานถูกต้องและจะนำเอกสารและหลักฐานมาแสดงให้ตำรวจในภายหลัง  และจะเอาเรื่องดำเนคดีกับผู้สื่อข่าวที่นำเสนอข่าวทำให้ได้รับความเสียหาย

            ในขณะที่  ร.ต.อ.สุวิทย์   ทองสุภา รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ในฐานะพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้แจ้งผลการตรวจสอบรถเก๋งสปอร์ตหรูคันดังกล่าวมายัง พ.ต.ต.ธีระพร ว่า หลังจากตนได้มีการตรวจสอบรถเก๋งหรูคันดังกล่าวไปยังสำนักงานขนส่งจังหวัดนครศรีธรรมราชอย่างละเอียดแล้ว พบว่ารถเก๋งสปอร์ตหรูคันดังกล่าวเป็นรถหนีภาษีที่มีการนำเข้าผิดกฎหมาย โดยพบว่าเป็นรถที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นใส่ตู้คอนเทนเนอร์มาทางแหลมฉบัง ชลบุรีโดยไม่ใช่มาจากประเทศมาเลเซียตามที่เป็นข่าวครั้งแรก และจากการตรวจสอบป้ายทะเบียนรถก็พบว่าเป็นการสวมทะเบียนรถของรถอีกคันรุ่นเดียวกัน โดยรถอีกคันเป็นรถ 2 ประตู นอกจากนี้ยังพบว่าเลขทะเบียนดังกล่าวได้มีการแจ้งขอระงับการใช้เลขทะเบียนรถไปแล้ว

            “จึงแสดงว่ารถคันดังนี้ผิดกฎหมายอย่างชัดเจนทั้งตัวรถและป้ายทะเบียนรถที่สวมของคันอื่น และจากากรตรวจสอบพบว่ารถหรูคันนี้มีชื่อผู้ครอบครองคือ น.ส.ญิชารีย์  นาคกลัด ทางตำรวจจะได้ออกหมายเรียกตัว น.ส.ญิชารีย์  นาคกลัด ผู้ครอบครองมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป หากออกหมายเรียกไป 2 ครั้งยังไม่มาก็จะเสนอศาลอนุติหมายจับ น.ส.ณิชารีย์ และติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป  ล่าสุดทาง พ.ต.ต.ธีระพร อยู่ระหว่างกาประสานงานและรติดตามตัว น.ส.ณิชารีย์ เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว”

 

 

 

 

 

                       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในจังหวัดนครศรีธรรมราชและภาคใต้มีรถหรูที่มีมูลค่าในตลาดเกิน 1.5 ล้านจำนวนมากวิ่งเกลื่อนเมือง โดยมีการลักลอบนำเข้าทั้งจากญี่ปุ่นมาเลเซียก่อนจะสวมทะเบียนรถคันอื่น ๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นซากรถที่ประสบอุบัติเหตุ มีทั้งที่ขอซื้อซากรถในราคาถูกเพื่อลักลอบนำเข้ารถจากต่างประเทศมาสวมทะเบียน และทำกันเป็นขบวนการใหญ่  ซึ่งในกรณีการซื้อซากรถแล้วนำรถที่ลักลอบนำเข้ามาสวมทะเบียนจะยากแก่การตรวจสอบเพราะถึงอย่างไรรถที่วิ่งอยู่บนท้องถนนมีเพียงคันเดียวเท่านั้น แต่ที่เรื่องแดงขึ้นมาเพราะมีการแอบสวมทะเบียนรถคนอื่นโดยเจ้าของรถไม่ทราบเรื่องมาก่อน ทำให้รถยี่ห้อเดียวกัน ป้ายทะเบียนเดียวกันที่เกิน 1 คัน ซึ่งทาง พ.ต.ต.ธีระพร   ศักดิ์ศรี สว.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นนายตำรวจที่มีความรู้และเชี่ยวชาญในการตรวจสอบรถลักลอบนำเข้า และการตอกเลขเครื่อง เลขตัวถัง เลขคัสซี และอื่น ๆ ก่อนสวมทะเบียนรถคันอื่น เป็นกรณีพิเศษ ที่ผ่านมาสามารถตรวจยึดจับกุมรถผิดกฎหมายในลักษณะนี้มาแลวหลายคัน และยังมีการสอบสวนสืบสวนว่ามีการพัวพันเกี่ยวข้องกับขบวนการโจรกรรมรถและค้ายาเสพติดหรือไม่  ซึ่งบางรายที่กระทำในลักษณะดังกล่าวอาจจะเป็นอีกวิธีการหนึ่งในการฟอกเงินจากการค้ายาเสพติดก็ได้.ซึ่งข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป.

 

 

 

ขอบคุณภาพ ตำรวจชุดป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถ ภ.จว.นครศรีธรรมราช

ยุททธนะ  เตมะศิริ นครศรีธรรมราช