ชาวบ้านเจอกลองโบราณขณะขุดดินปรับที่นาทำบ่อเก็บกักน้ำ

 

 

          เมื่อวันที่ 26 ก.พ.2563  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดสามัคคีธรรม (วัดป่าบ้านซ่ง ) ตำบลคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ได้มี นางเสริฐ  อาจหาญ อายุ 75 ปี ราษฎรบ้านซ่ง ได้นำกลองโบราณ (ไม่สมบูรณ์) และชิ้นส่วนที่แตกหักเกิดจากการขุดของรถแบคโฮ หน้ากลองกว้างประมาณ 50 ซม. ความสูงประมาณ 1 ฟุต ลักษณะหน้ากลองกลม และบริเวณหน้ากลองมีรูปนก รูปกบ และรูปปลา มาถวายพระครูปลัดอธิป  ปฎิภาโณ เจ้าอาวาสวัดสามัคคีธรรม เพื่อเก็บรักษาไว้ภายในวัดแห่งนี้

 

 

 

 

 

                        พระครูปลัดอธิป  ปฎิภาโณ  เจ้าอาวาสวัดสามัคคีธรรม เล่าว่า ก่อนที่จะเจอกลอง เกิดจากชาวบ้านปรับที่นาจากพื้นที่สูง ปรับให้เป็นที่ต่ำ เพื่อที่จะรองรับน้ำในช่วงฤดูฝนในการทำนา หลังจากนั้นก็มีรถแบคโฮที่ทำถนนสี่เลน เส้นทางนาไคร้ – คำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ชาวบ้านให้มาขุดพอมาขุดแล้วเจอเศษเหล็กขึ้นมาในที่ตัก มีชาวบ้านมาดูเห็นลวดลายคล้ายกับกลองมโหระทึก เป็นกลองโบราณ ชาวบ้านก็ได้มานิมนต์ครูบาไปดูบริเวณที่เจอกลองว่ามันคืออะไร และเกิดจากความเชื่อของเขาว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ใต้ดิน เป็นของโบราณนั้น ย่อมมีคนที่เฝ้าวัตถุนั้นอยู่ ก็เลยกลัวว่าเกิดเหตุเภทภัยกับครอบครัวกับเจ้าของที่นา ก็เลยได้นิมนต์พระมาดู ได้ถามคนที่รู้อาจจะเป็นกลองโบราณ กลองมโหระทึก ทำเกี่ยวกับพิธีกรรมขอฟ้าขอฝน สังเกตจากหน้ากลองมีรูปปลา รูปนก และรูปกบ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอผู้รู้จริงที่จะมาอธิบายให้เราฟัง กับสิ่งที่พบเจอ ที่อำเภอคำชะอีของเรา ปีที่แล้วก็เจอ 1 ใบ และมาปีนี้ก็เจออีก 1 ใบ ในเส้นทางเดียวกัน

 

 

 

 

 

                        เจ้าอาวาสวัดสามัคคีธรรม  เล่าอีกว่า นอกจากนี้มีคนติดตามของโบราณในอำเภอคำชะอี อาจจะสมบูรณ์บ้าง ไม่สมบูรณ์บ้าง ตัวที่สมบูรณที่สุดอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอคำชะอี ส่วนที่แตกเป็นเศษ ไม่สมบูรณ์ท่านก็บอกว่าเป็นใบที่ 10 อาจจะเยอะที่สุดในจังหวัดมุกดาหาร กลองที่แตกดูจากลักษณะน่าจะโดนฟันของรถแบคโฮ เพราะเป็นรอยแตกใหม่ และรอยแตกเก่า เขาอาจจะมีความเชื่อตั้งแต่โบราณแล้วว่า กลองแตกพิธีกรรมอาจจะไม่สมบูรณ์ เขาอาจจะทิ้งระหว่างทาง แต่ด้วยการทับถมและมีรถขุดก็อาจจะแตกในช่วงที่ขุด  ช่วงที่อยู่ในดินอาจจะสมบูรณ์อยู่บ้าง

 

 

อนุศักดิ์ เสาวภา  แสนวิเศษ จังหวัดมุกดาหาร