ข่าว

ผู้ปกครอง วอนทายาท 8 เสียง ลดขัดแย้ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้ปกครอง วอนทายาท 8 เสียง ลดขัดแย้ง หันหน้าทำเพื่อเด็กกว่า 400 คนกำลังไร้ที่เรียน

 

 

            ผู้ปกครองรวมตัวขอทายาททั้ง 8 ครอบครัว ยุติความขัดแย้งในครอบครัวหันหน้าทำเพื่อเด็ก 500 กว่าชีวิตได้เรียนที่ จารุวรรณวิทยาอีกครั้ง ซึ่งถึงตอนนี้ได้ร้องเรียนไปแล้ว 2 แห่งแต่ยังไม่มีหน่วยงานรัฐแจ้งกลับถึงความเป็นไปได้ โดยทายาท 2 ฝั่งเสียงอ่อย รับ 8 เสียงไม่มีใครอยากปิดโรงเรียน โดยพร้อมเจรจาหากจะพอมีหวังให้นักเรียน ครู ยังคงทำหน้าที่ต่อไป โดยรอหาจุดยุติให้ได้โดยไว

               หลังจากที่มีข่าวของที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ได้มีการส่งหนังสือเพิกถอนใบอนุญาต โรงเรียนจารุวรรณวิทยา เลขที่ 30 ม.1 ต.ไทยาวาส อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โดยจะมีผลในวันที่ 31 มีนาคม ที่จะถึงนี้ ทั้งนี้ได้รับการเสนอจากคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เพื่อให้เพิกถอนใบอนุญาตเนื่องจากไม่สามารถที่จะหาผู้รับโอนใบอนุญาต ที่ชัดเจนได้ ซึ่งก่อนหน้าสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐมได้มีการเข้าควบคุมกิจการมาตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีการประชุมหารือเพื่อหาทางออกไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งเมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมาก็เหมือนว่าจะสามารถลงตัวในการหาผู้รับโอนใบอนุญาตได้แล้ว เมื่อทายาททั้ง 8 คนได้มีการลงนามแต่งตั้งตัวแทนที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารงานโรงเรียนมานั่งบริหารงานเพื่อพัฒนาโรงเรียนจารุวรรณวิทยา โดยดร.กนก ปิ่นตบแต่ง ศึกษาธิการจังหวัดนครปฐมได้มีการประกาศว่าการดำเนินการต่อไปได้ โดยมีผู้ปกครองกว่า 400 คนที่มารับฟังต่างโล่งอกกับการจะเดินหน้าหรือยุติกิจการที่มีมากว่า 67 ปี แต่สุดท้ายเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 63 ที่ผ่านมสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ได้มีการออกหนังสือเรื่องการเพิกถอนใบอนุญาตโรงเรียนจารุวรรณวิทยา หลังจากที่มีทายาทได้ยื่นเอกสาร 6 ข้อในการแต่งตั้งผู้รับโอนใบอนุญาต ซึ่งทำให้มีทายาทบางคนไม่ยอมเซ็นต์เอกสารดังกล่าว

ผู้ปกครอง วอนทายาท 8 เสียง ลดขัดแย้ง ผู้ปกครอง วอนทายาท 8 เสียง ลดขัดแย้ง ผู้ปกครอง วอนทายาท 8 เสียง ลดขัดแย้ง ผู้ปกครอง วอนทายาท 8 เสียง ลดขัดแย้ง

              โดย ด.ช.ธีรพล เดชจินดา (น้องอาตี้) นักเรียนชั้น ป.5/1 บอกว่ารู้เรื่องการปิดโรงเรียนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา รู้สึกเสียดายและเสียใจมากเพราะแม่ก็เคยเรียนที่นี่มาก่อน โดยได้คุยกันในครอบครัวว่าอยากให้โรงเรียนนี้ได้ไปต่อเพราะเป็นโรงเรียนที่ดี มีเพื่อนๆดี และมีครูที่เอาใจใส่กับนักเรียนมาก ซึ่งวันนี้ก็บอกกับเพื่อนๆในการเตรียมย้ายโรงเรียนไปแล้ว โดยได้มีการเขียนเรียงความเอาไว้เกี่ยวกับโรงเรียนที่จะต้องปิดตัวลงในอีกไม่กี่วัน โดยวอนไปถึงผู้ใหญ่ให้ทบทวนการปิดโรงเรียนนี้ด้วย

               ขณะเดียวกันผู้ปกครองหลายคนที่ได้เข้ามารับส่งบุตรหลาน ต่างเริ่มจับกลุ่มคุยกันอีกครั้ง ซึ่งแปลกใจที่เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาก็ได้รับหนังสือแจ้งจากบุตรหลานว่าทางโรงเรียนจารุวรรณวิทยา ได้แจ้งว่าให้มีการไปหาสถานที่เรียนแห่งใหม่ในช่วงปิดเทอมนี้ ซึ่งสร้างความประหลาดใจและสับสนกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้ออกมาแสดงความเห็นใจจากทายาททั้ง 8 ครอบครัว ให้ยุติปัญหาในเรื่องการบริหารงานออกไปก่อน เนื่องจากหากยังตกลงกันไม่ได้เด็กอย่างน้อย 400 คนยังต้องมีปัญหารวมถึงผู้ปกครองหลายร้อยครอบครัวก็จะมีปัญหามากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งไปสอบถามโรงเรียนเอกชนแห่งอื่นพบว่ามีค่าใช้จ่าย ราว 1-2 หมื่นบาท ซึ่งโรงเรียนจารุวรรณวิทยาได้มีค่าเทอมเพียงเทอมละเฉลี่ย 2.5 พันบาทเท่านั้น

ผู้ปกครอง วอนทายาท 8 เสียง ลดขัดแย้ง ผู้ปกครอง วอนทายาท 8 เสียง ลดขัดแย้ง ผู้ปกครอง วอนทายาท 8 เสียง ลดขัดแย้ง

          นายสิทธิศักดิ์ โพธิ์รุ่งแจ้ง อายุ 34 ปี ผู้ปกครอง บอกว่า ตนเองและผู้ปกครองดีใจกันที่เมื่อวันที่ 26 มกราคม ตกลงกันได้แล้วซึ่ง ศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ได้ประกาศบนเวทีว่าโรงเรียนได้ดำเนินการต่อไป แต่เมื่อได้รับเอกสารรู้สึกไม่สบายใจและมีผู้ปกครองหลายคนก็พยายามจะสู้ให้โรงเรียนนี้อยู่ต่อไป และได้พยายามไปหาที่เรียนเอกชนในระแวกใกล้ที่สุดก็ยังไม่ดีเท่าที่นี่ ราคาก็แพงกว่า ส่วนโรงเรียนของรัฐตอนนี้หลายโรงเรียนก็ยังมีเก้าอี้เรียนไม่พอ เด็ก 400 กว่าคนจะไปอยู่ที่ไหนซึ่งปัญหาหลักคือค่าใช้จ่าย โดยโรงเรียนจารุวรรณวิทยานั้นดีจริงๆ เพราะครูทุกคนใส่ใจเด็กมาก ลูกตนเองได้ทำกิจกรรมนอกห้องเรียนแล้วกลับไปเด็กเล็กยังทอดไข่ได้ ซึ่งทุกคนที่บ้านก็งง พอได้มาแอบดู ทั้งครูเจ้าหน้าที่หรือพ่อค้าแม่ค้า ก็ได้ประสานงานกันดูแลเด็กๆอย่างละเอียดหาโรงเรียนแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว โดยขอให้ทายาททั้ง 8 ครอบครัวกลับมาทบทวนอีกครั้งเพื่อให้โรงเรียนเดินหน้าไปก่อนและเก็บประวัติศาสตร์ดีดีของชุมชนเอาไว้

               นายอมรเทพ สิรสุนทร (แดง) อายุ 57 ปี บุตรชายของนายชุมพร สิรสุนทร หนึ่งใน 8 ทายาท บอกว่า เรื่องดังกล่าวก็น่าเสียดายที่เกิดขึ้นวันนี้อยากจะให้โรงเรียนได้เดินหน้าต่อไป แต่ปัญหาได้เกิดขึ้นหลังจากวันที่ 26 มกราคม ซึ่งทางสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ได้ส่งหนังสือแจ้งมาที่โรงเรียนฯเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาเพื่อให้นักเรียนราว 438 คน ไปหาโรงเรียนแห่งใหม่ ซึ่งเป็นตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยมีการเพิกถอนใบอนุญาต เพราะได้มีทายาท 5 รายชื่อยื่น 6 ข้อเสนอเข้ามาในการขอยื่นให้ผู้ที่จะมารับโอนใบอนุญาต ซึ่งตนเองเห็นว่ามีบางข้อไม่เป็นการบริหารงานที่เหมาะสมจึงไม่ร่วมลงชื่อในการต่อใบอนุญาต ซึ่งตอนนี้เหมือนกับว่าผู้ที่ได้เสนอชื่อก็ถอดใจถอนตัวไปแล้ว และตอนนี้หลังจากมีศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม บอกว่าจะมีโรงเรียนเปิดรับนักเรียนของเราทั้งหมด ตอนนี้ทราบข่าวว่าก็รับไม่หมดแล้วบางแห่งต้องมีการสอบเข้าด้วยบางแห่งบอกยังไม่คุยให้มาพบกันหลังจากนี้

               “ถึงตรงนี้ผมสงสารนักเรียน จาก 6ข้อนั้นผมก็จะไม่สนใจการขัดแย้ง แต่จะเสนอว่าตรงนี้ให้นักเรียนมีที่เรียนก่อนได้ไหม คือการที่ให้คนกลางมาคอยดูแลโรงเรียนไปเลย โดยให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐมจัดคนมาดูแลกันไปก่อน และให้ทายาทไปทำเรื่องขอเป็นผู้จัดการมรดกแต่ทุกคนต้องเสนอทำไปร่วมกันเพราะที่ผ่านมาทายาทฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับผม เขาไม่ยอมไปยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก เมื่อโรงเรียนได้เปิดกิจการต่อไปได้แล้วค่อยมาจัดการในการบริหารงานกัน ซึ่งลึกๆมีปัญหากันมากับทายาทบางคนถึง 20 ปี และเรื่องการเพิ่มทายาท จาก 3 คนเป็น 8 คนก็เพิ่งมีมาไม่นานนี้ แต่ผมก็คิดตอนแรกว่าถ้าตกลงไม่ได้ก็ต้องยอมจบให้ปิดโรงเรียนกันไป แต่ถ้าเด็กเดือดร้อนผมก็จะขอเรื่องเดียวคือให้คนกลางมาดูแลบริหารงานก่อนและพร้อมเจรจาอีกครั้งถ้าทุกคนพร้อม” นายอมรเทพ กล่าวปิดท้าย

               ด้านพลโทสุรพงษ์ ปราการรัตน์ หนึ่งใน 8 ทายาท กล่าวว่า ปัญหานี้ได้มีการพูดคุยกับทางนายอมรเทพมานาน โดยการที่ทางทายาททั้ง 5 คนได้ยื่นข้อเสนอไปในการให้ผู้ที่จะมาขอรับโอนใบอนุญาต จำนวน 6 ข้อก็เพราะเห็นว่าจะมีการพัฒนาโรงเรียนไปในทิศทางที่ดีทั้งการจัดระบบการค้าขาย การจัดระเบียบความสวยงามในสถานที่ ซึ่งเป็นไปเพราะทางนายอมรเทพก็ได้มีการยื่นเอกสารเข้ามาเสนอ 3 ข้อ ซึ่งตนเองและนายอมรเทพ ต่างก็เป็นศิษย์เก่า ที่เคยเรียนและผูกพันกับที่โรงเรียนแห่งนี้ การคาดหวังในการพัฒนาในรุ่นลูกหลานก็อยากให้มีต่อไปเสียชื่อเสียงวงษ์ตระกูล และแสดงให้เห็นว่าทางทายาททั้ง 8 มีสิทธิเสียงเสมอกัน แต่ตอนนี้การบริหารงานต่อไปมันจะยากเพราะถ้ามีบางคนไม่ฟังเสียงคนที่มีชื่อทายาท

               พลโทสุรพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า วันนี้เราไม่ได้คิดว่าจะมาล้มโรงเรียนแต่ทำเพราะมีความหวังอันดี ซึ่งวันนี้เรามองว่าถ้ามีใครจะมาเป็นตัวกลางในการเจรจาเพื่อให้โรงเรียนสามารถดำเนินการต่อไปได้ก็ยินดี เพราะโรงเรียนจาวุรรณวิทยา ก็สร้างตนเองให้มีความมั่นคงและสร้างศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงหลายคน ส่วนข้อเสนอในข้อที่ 1 เรื่อง คือผู้รับใบอนุญาตอยู่ในวาระ 2 ปีการศึกษา เมื่อครบกำหนดจับฉลากหมุนเวียนผู้บริหารที่หมดสิทธิ์ ตรงนี้ที่ทางทายาทอีกฝั่งไม่เห็นด้วยก็สามารถมาคุยกันได้ว่าใครบริหารดีก็สามารถอยู่ต่อในวาระได้ เรื่องนี้ก็ต้องมาคุยกันแบบชัดเจนได้

               “วันนี้เรามาทำให้โรงเรียนเดินหน้าไม่เปิดกิจการไปก่อน แล้วขอให้ทายาททั้ง 8 ครอบครับค่อยมาระดมความคิดว่ากันในเรื่องการไปร้องต่อศาลในเรื่องผู้จัดการมรดกอีกครั้งก็ได้ ทางนั้นถ้ามีหลักฐานอะไรก็เอามาแสดงต่อศาลว่าจะเป็นอย่างไรก่อนเพราะตอนนี้สงสารและเห็นใจเด็กและครอบครัวที่กำลังจะประสบปัญหากับการถูกเพิกถอนใบอนุญาตในช่วงเดือนหน้านี้แล้ว” พลโทสุรพงษ์ กล่าวปิดท้าย

               ทั้งนี้หลังกระแสข่าวที่สื่อมวลชนได้นำเสนอออกไปท่าทีของทายาททั้ง 2 ฝั่งได้มองไปในทิศทางเดียวกันคือต้องการให้โรงเรียนได้มีการดำเนินการต่อไปก่อน ส่วนปัญหาอื่นๆที่เคยขัดแย้งกันในครอบครัวจะขอให้ไปแก้ปัญหาในอนาคต ซึ่งถึงตอนนี้คณะครู และผู้ปกครองได้เดินหน้าในการไปร้องขอความเป็นธรรมจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครปฐม สำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติแต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดยื่นมือลงมาในการสะสางปัญหาดังกล่าว โดยทั้งครู ผู้ปกครองต่างอยากจะให้หน่วยงานราชการเข้ามามีการเปิดโต๊ะเจรจากันอีกครั้งเพื่อหาทางออกในความเป็นไปได้ในการดำเนินกิจการต่อไป ท่ามกลางความหวังของนักเรียนภายในโรงเรียนซึ่งบางรายได้ไปสมัครและจ่ายค่าเรียนกับสถานศึกษาแห่งใหม่แล้ว แต่หากทางโรงเรียนจารุวรรณวิทยา จะปาฏิหาริย์ ได้เปิดกิจการต่อไปก็จะยอมเสียค่าเทอมที่แห่งอื่นและจะคงเรียนในสถานศึกษาแห่งนี้เพราะเชื่อใจในการเรียนการสอนของคณะครูที่นี่

               โดยตอนนี้บรรยากาศภายในโรงเรียนได้เริ่มคลายความเครียดกันมากขึ้นคณะครูได้หันหน้ากันเข้ามาเพื่อรวมพลังในการสอนหนังสือให้เด็กนักเรียนในโค้งสุดท้ายเพื่อให้เด็กได้มีสมาธิในการเตรียมตัวสอบปลายภาคอย่างเต็มที่ และได้พยายามไม่ให้เด็กเสียสมาธิกับเรื่องดังกล่าวที่จะส่งผลกับสภาพจิตใจ กับเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้หากการดำเนินการร้องเรียนไม่เป็นผลอาจจะมีการรวมตัวเพื่อลงรายชื่อเพื่อร้องต่อศาลปกครองเพื่อให้คุ้มครองชั่วคราวให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม เข้ามาควบคุมกิจการต่อไปหากสามารถทำได้ โดยทุกฝ่ายกำลังเดินหน้าเพื่อจะทำให้โรงเรียนจารุวรรณ ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองในปีที่ 68 และเป็นประวัติศาสตร์ของชุมชนและเป็นความทรงจำที่ดีของผู้คนในอำเภอนครชัยศรีต่อไป

ผู้ปกครอง วอนทายาท 8 เสียง ลดขัดแย้ง ผู้ปกครอง วอนทายาท 8 เสียง ลดขัดแย้ง ผู้ปกครอง วอนทายาท 8 เสียง ลดขัดแย้ง

 ปนิทัศน์ มามีสุข   นส.ปณิดา มามีสุข ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  จ.นครปฐม

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ