ข่าว

บึ้มสนั่น "สะบ้าย้อย" ปลัด-อส.-นร.เจ็บ 10

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บึ้มสนั่น "สะบ้าย้อย" ปลัด-อส.-นร.เจ็บ 10 แค้นวิสามัญแกนนำ 5 ศพ 

 

               คนร้ายบึ้มรถปลัดอำเภอ-อส.สะบ้าย้อย โดนชาวบ้าน-เด็กนร.เจ็บรวม 8 ราย จุดเกิดเหตุห่างร.ร.อนุบาลแค่ 100 เมตร คาดตอบโต้เหตุปะทะดับแนวร่วม “เทือกเขาตะเว” สั่งเข้มตั้งด่านพื้นที่ 4 อำเภอรอยต่อ 3 จังหวัดชายแดนใต้

 

อ่านข่าว ทหารปะทะรอบ 2 เขาตะเว ปลิดชีพโจรใต้เพิ่มอีก1

 

               เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 24 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มลอบวางระเบิดบริเวณศาลาทวด เยื้องสวนสาธารณะ เทศบาลตำบลสะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย ประกอบด้วย

 

               1.นายเจษฎากร ศรีจันทร์ ปลัดอำเภอสะบ้าย้อย 2.นายสมจิตร์ กัลยาลอง อส. 3.นายขะสมาน จะเนมะนน อส. 4.นายสิรวัชร นาคะสุวรรณ อส. 5.ด.ญ.ชนิดาภา แก้วเกาะสะบ้า นักเรียน 6.ด.ช.ธนกฤต แก้วเกาะสะบ้า นักเรียน 7.น.ส.เมษะมาลย์ ติ้งประสม ชาวบ้าน และ 8.นายนรินทร์ แก้วเกาะสะบ้า ชาวบ้าน โดยทั้งหมดถูกนำส่ง รพ.สะบ้าย้อย

 

               ต่อมา พ.ต.อ.กองทัพ เสนาทิพย์ ผกก.สภ.สะบ้าย้อย พร้อมด้วย พ.ต.ท.ถาวร ผลกล้า รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ศราวุธ เจี้ยงเต็ง รอง ผกก.สส.พร้อมชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุรวมทั้งชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี เข้าตรวจสอบ

 

               จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าขณะเกิดเหตุปลัดอำเภอและเจ้าหน้าที่ อส.ได้ขับรถเพื่อปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยครูเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุคาดว่าคนร้ายลอบวางระเบิดเอาไว้ก่อนแล้วได้จุดชนวนระเบิดทำให้รถเจ้าหน้าที่เสียหลักตกลงข้างทางได้รับความเสียหายเกือบทั้งคันและมีผู้บาดเจ็บดังกล่าว โดยจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากโรงเรียนอนุบาลสะบ้าย้อยประมาณ 100 เมตร

 

               มีรายงานแจ้งว่าเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าแนวร่วมก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย อ.เทพา จ.สงขลา อ.โคกโพธิ์ และ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ลงมือก่อเหตุสร้างสถานการณ์ขึ้นเพื่อตอบโต้กรณีเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับแนวร่วมก่อความไม่สงบบนเทือกเขาตะเว อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้ฝ่ายผู้ก่อเหตุเสียชีวิต 5 รายเมื่อวานนี้ (23 ก.พ.)

 

               ด้านนายสมหวัง เรืองเพ็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ได้รับรายงานแล้วและเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้นและเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่ตั้ง สถานที่สำคัญ โดยผู้บังคับบัญชาทั้งฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจได้ร่วมตรวจสอบพื้นที่และให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเกิดเหตุระเบิดขึ้นได้สั่งการให้หน่วยกำลังร่วมปฏิบัติการตั้งด่านตรวจสกัดเส้นทางขาเข้าและขาออกรวมถึงพื้นที่รอยต่ออำเภอเพื่อสกัดกั้นการหลบหนีของผู้ก่อเหตุรวมถึงป้องกันการเกิดเหตุซ้ำในพื้นที่ 4 อำเภอรอยต่อ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงเมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยว เช่น อ.เมือง อ.หาดใหญ่ และ อ.สะเดา

 

               ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอประณามการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายในการสร้างสถานการณ์ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนหลายราย โดยหลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนพร้อมด้วยตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสถานที่เกิดเหตุและสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังลงพื้นที่หาเบาะแสและตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

               ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีข้อสั่งการให้สถานีตำรวจในพื้นที่เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและการป้องกันเหตุความไม่สงบในพื้นที่ ให้เพิ่มความเข้มงวดการตรวจตราสถานที่ต่างๆ ที่อาจเป็นเป้าหมายเพื่อป้องกันการเกิดเหตุในลักษณะแบบนี้ โดยเน้นย้ำว่าหากเกิดเหตุขึ้นตำรวจต้องเร่งสอบสวนขยายผลจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทันท่วงที เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยวและนักลงทุนในพื้นที่ 

 

               ต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น. พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.กองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมวางแผนกับ พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม รอง ผบ.หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการส่งกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน จำนวน 3 ชุดปฏิบัติการณ์แกะรอยไล่ล่ากดดันกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่หลบหนีการปะทะกับเจ้าหน้าที่บนเทือกเขาตะเว ช่วงบริเวณบ้านไอสะเตียร์ หมู่ 8 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

 

               ซึ่งทำให้กลุ่มก่อความไม่สงบเสียชีวิต 5 คน พร้อมยึดอาวุธปืนและยุทโธปกรณ์ได้เป็นจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่ยังไล่ล่ากดดันคนร้ายที่หลบหนีอย่างต่อเนื่อง จนพบคนร้ายจำนวน 3 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ ห่างจากจุดปะทะประมาณ 300 เมตร

 

               กระทั่งหนึ่งในคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ทำให้เกิดการยิงปะทะกว่า 10 นาที เมื่อเสียงปืนสงบลงเจ้าหน้าที่ได้เคลียร์พื้นที่พบคนร้ายเสียชีวิต 1 คน ทราบชื่อ นายอาแว สามะ ชาวตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งหลบหนีหมาย ป.วิอาญา จำนวน 3 หมาย

 

               ขณะเดียวกันนายอาแว ยังเคยปะทะกับเจ้าหน้าที่มาแล้วเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2559 บนเทือกเขาหลังหมู่บ้านไอร์โซ หมู่ 5 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 ได้ 1 กระบอก ที่ตกอยู่ข้างศพ พร้อมด้วยเป้ที่ใส่เสื้อผ้าและกระสุนปืนไว้จำนวนหนึ่ง

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ