ผู้ว่าแจง กรณีบุกจับสถานบันเทิงหากพบต่ำกว่า 20 จะทำตามกฎหมาย

                  จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บชภ.3 บุกเข้าตรวจสอบสถานบันเทิงชื่อดัง บริเวณโซนนิ่ง ตั้งอยู่กลางใจเมืองสุรินทร์ ถนนสุรินทร์ศิริรัฐ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ซึ่งตั้งอยู่แหล่งบันเทิงกลางเมืองสุรินทร์ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ดูและประกอบการผับดังกล่าว ในข้อหาปล่อยประละเลย ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ หลังจากที่ บชภ.3ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองและชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ว่ามีการปล่อยปะละเลยให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ และเปิดเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่งเสียงดัง และมักจะก่อเหตุทะเลาะวิวาทอยู่เป็นประจำ

โดยเมื่อคืนวันที่ 20-21-22 -23 ก.พ.2563 ที่ผ่านมา ทีมข่าวได้ลงไปดูพบว่าสถานบันเทิงชื่อดัง ยังคงได้เปิดปล่อยเด็กเข้าเที่ยวและขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เช่นเดิม โดยที่ไม่กี่วันถูกทางบชภ.3 บุกเข้าตรวจสอบพร้อมกับจับกุม เป็นที่น่าแปลกใจที่ไม่มีคำสั่งจากจังหวัดหรือจากอำเภอเมือง ในความผิด ซึ่งน่าจะมีคำสั่งให้ปิดชั่วคราวหรือปิดถาวร ทีมข่าวเข้าสังเกตการณ์จนกระทั่งเวลาได้เกินจากกำหนด สถานบันเทิงดังกล่าวก็ยังคงบรรเลงเพลงให้กับนักเที่ยวราตรีเต้นโยกย้ายกันอย่างเมามันส์อีกด้วย จากนั้นทีมข่าวได้ขอสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ พล.ต.ต. ถวาย บูรณ์รักษ์ ผบก.ภ.จ.สุรินทร์ ไปราชการ จึงได้ของสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ถึงกรณีที่มี จนท.ตร.ฉก.ภ.3 เดินทางมาจับกุมผับดัง ตั้งอยู่ในกลุ่มสถานที่ สถานบันเทิง ถ.ศิริรัฐ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ผบก.ภ.จ.สุรินทร์ ทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ ได้ร่วมกับ จนท.ตร.ฉก.ภ. 3 เข้าไปตรวจสถานบันเทิง ที่ผับดังกล่าว พบว่ามีวัยรุ่นเด็กอายุตำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการกันเป็นจำนวนมาก พร้อมจับกุมตัววัยรุ่น เด็ก ที่เข้าไปใช้บริการได้ทั้งหมด 130 คน นำตัวมาสอบสวนยัง สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมกับควบคุมตัวผู้บริหารผับมาดำเนินคดี

ในส่วนที่ จะมีการสั่งปิดสถานบริการผับนั้น ต้องเป็นคำสั่งจากทางอำเภอ หรือจังหวัดสั่งเท่านั้น ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ นั้น ได้สั่งให้รอง ผบก.ภ.จังหวัดสุรินทร์ เข้าไปตรวจสอบถึงการทำงานอีกด้วย

วันนี้(24 ก.พ.2563) นายไกสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.สุรินทร์ "จังหวัดสุรินทร์ บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด กรณีสถานบริการ ดำเนินกิจการฝ้าผืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2554" เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ ๑ กองบังคับการสืบสวน สอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ เข้าตรวจสอบสถานบริการ แห่งหนึ่งย่านถนนศิริรัฐ ซึ่งเป็นสถานบริการที่ได้รับอนุญาตให้ตั้งสถานบริการแล้ว พบว่ามีบุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการจำนวนมากและได้ทำการจับกุมผู้ประกอบการ/ผู้จัดการร้าน พร้อมทั้งแจ้งข้อหา "เป็นผู้ได้รับอนุญาตตั้งสถานบริการหรือสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ซึ่งไม่ได้ทำงานในสถานบริการเข้าไปใช้บริการ" นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย ในกรณีข้างตัน ได้มีการนำเสนอข่าวและพูดคุยกันในสื่อสังคมออนไลน์อย่างมากมาย พร้อมทั้งมีการแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับการดำเนินการของ จ.สุรินทร์ โดยบางกลุ่มเกรงว่าจะไม่มีการดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด ซึ่งกรณีนี้ ทางนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.สุรินทร์ ได้รับทราบเหตุดังกล่าวข้างตันแล้ว ในกรณีที่สถาน-บริการหรือสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ข้อ ๔ เช่น ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้าไปใช้บริการ หรือ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า ๒๐ ปีบริบูรณ์ นั้น ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย โดยผู้ว่าราชการจังหวัด มีอำนาจเพิกถอนใบอนุญาต หรือสั่งปิดและห้ามมิให้มีการเปิดสถานบริการหรือสถานประกอบการในสถานสถานที่ดังกล่าวอีกเป็นเวลา 5 ปีหรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่าปิด 5 ปี นั้นเอง ทั้งนี้คำสั่งปิด 5 ปีดังกล่าวนี้ จะเป็นคำสั่งทางปกครองจังหวัดอย่างหนึ่ง ซึ่งมีผลกระทบต่อสิทธิของผู้เกี่ยวข้อง จึงต้องให้ผู้เกี่ยวข้องมีได้โอกาสที่จะได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอและมีโอกาสได้โต้แย้งพร้อมทั้งแสดงพยานหลักฐานของตน ตามความในมาตรา 5 ประกอบมาตรา 30 แห่ง พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539

ดังนั้น ทางจังหวัดสุรินทร์ จึงได้มีหนังสือแจ้งให้อำอำเภอมืองสุรินทร์ รวบรวมข้อเท็จจริงและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด(รวมทั้งหลักฐานการโต้แย้งของผู้เกี่ยวข้อง) พร้อมให้ความในกรณีนี้ นำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามที่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติฯ บัญญัติไว้ต่อไป โดยทางจังหวัดสุรินทร์ ไม่ได้เพิกเฉยหรือนิ่งนอนใจแต่อย่างใด และได้สั่งการให้ปลัดจังหวัดสุรินทร์ ให้ส่งหนังสือแจ้งผู้รับอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ และผู้ประกอบการสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังแนวทางในการดำเนินการจัดระเบียบสังคม การรักษาความสงบเรียบร้อยและการประกอบกิจการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และไม่ก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่ชุมชนและประชาชน โดยจะมีการกำชับผู้ประกอบการให้ดำเนินกิจการให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากมีการดำเนินกิจการที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย หรือก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่ชุมชนและประชาชน ทางจังหวัดสุรินทร์ก็จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยไม่มีข้อยกเว้นต่อไป

ภาพ/ข่าว: รมิตา สิงหเสรี ทีมข่าวเฉพาะกิจภูมิภาค