คนดูแลศาลเจ้าเผยสาวอ้างถูกผีเข้า ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่

               จากกรณีที่ น.ส.ชุติมา โพธิ์คำมา อายุ20 ปี มีอาการโวยวาย ร้องไห้พูดจาไม่รู้เรื่องและเหม่อลอยตลอดเวลา   สอบถามนายวุฒิพงษ์   จิตรนิกรณ์ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นสามี เล่าให้ฟังว่า ตนนั้นจับได้ว่าแฟนสาวมีชายใหม่มาติดพันประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งเป็นคนที่ทำงานด้วยกันใน บริษัทแห่งหนึ่งและจะไปอยู่กับชายคนใหม่ที่เป็นชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ตนจึงรั้งเอาไว้แต่แฟนสาวไม่ยอมตนจึงได้พากันไปเช่าห้องที่ใหม่ใกล้กับบริษัทที่แฟนสาวทำงาน ตนเห็นผิดสังเกตคิดว่าแฟนสาวจะโดนทำของใส่จึงได้นำเครื่องรางก็คือเบี้ยแก้ที่ตนมีนั้นลองมาวางไว้ที่หัวของแฟนสาว    หลังจากนั้นได้มีอาการโวยวายตลอดเวลาเป็นคนละคน จึงได้โทรขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างอุทยาน อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี   ให้พามาที่ศาลเจ้าสมาคมสว่างอุทยานธรรมสถาน เพื่อช่วยเหลือขับไล่ของหรือผี

ความคืบหน้าล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปที่นายวุฒิพงษ์ แฟนหนุ่มของหญิงสาว ได้ตอบกลับมาว่าไม่อยากที่จะเป็นข่าวต่อ เพราะว่าแฟนของตนก็หายเป็นปกติดีแล้ว จึงไม่สะดวกที่เปิดเผยเรื่องราวใดๆอีกต่อไป

                ด้านนางน้อย จันทร์สุริยา อายุ62ปี เป็นคนเก่าคนแก่ที่ดูแลศาลเจ้าสว่างอุทยานธรรมสถาน ได้เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุตนเห็นว่าหญิงสาวคนดังกล่าวหลับตาตลอดเหมือนไม่รู้สึกตัว   แถมรูปร่างตัวนิดเดียวแต่ผู้ชาย4-5คนเอาไม่อยู่ ต้องช่วยกันพามาที่ศาลเจ้า    ตนเห็นเข้าก็แปลกใจว่าทำไมถึงผ่านเข้ามาในศาลเจ้าได้   เพราะปกติคนที่ถูกผีเข้าก็ไม่สามารถเดินผ่านเข้าซุ้มประตูมาได้ แสดงว่าน่าจะถูกพวกคุณไสย แต่เนื่องจากในเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาตี1 ไม่มีเซียนซือประทับทรง    ตนจึงหยิบพระเครื่องของหลวงพ่อปี่ หลังครุฑ วัดโคกท่าเจริญ มาแปะไว้ที่หน้าผาก    หญิงคนดังกล่าวยิ่งร้องกรี๊ด ออกมาก่อนที่จะสงบนิ่งไป    จากนั้นตนก็ได้นิมนต์พระจากวัดโคกท่าเจริญ มาสวดอยู่พักใหญ่   จากนั้นก็ให้หญิงคนดังกล่าว ไปเข้าห้องน้ำเพื่อปัสสาวะออกมา   และให้มานั่งตรงหน้าบันไดหน้าศาลเจ้า ก็ดูท่าทีว่าดีขึ้นจนสามารถนั่งได้เองและถามตอบรู้เรื่อง    จากนั้นก็ให้นั่งพัก จนอาการดีจึงให้พากันกลับไป    ตนในส่วนตัวก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่แต่ไม่ลบหลู่ มันเป็นเรื่องลี้ลับที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้

อำนาจ    ลลิตลาวัณย์   ผู้สื่อข่าวภูมิาค  ประจำจังหวัดชลบุรี