พนักงานธนาคารสาว ควบเก๋งหลุดโค้งชนต้นไม้ เสียชีวิตคาที่

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรนาเฉลียง ต.นาเฉลี่ยง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์  โดย พ.ต.ท. สำเนียง ปัญญาโน สารวัตรสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร สภ.นาเฉลียง ได้รับแจ้งว่า มีเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักหลุดโค้ง ชนอัดพับติดอยู่กับต้นไม้ริมทาง มีผู้เสียชีวิตคาติดอยู่ภายในซากรถ ที่บนถนนสายสระบุรี-หล่มสัก (ทางหลวงหมายเลข 21)  ระหว่างหลักกิโลเมตร 172-173 ฝั่งขาล่องมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร บริเวณทางโค้งนาคะบุตร หมู่ 7 บ้านหนองไลย์ ต.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย แพทย์เวรโรงพยาบาลหนองไผ่ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จุดหนองไผ่ โดยที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งปราบเซียน หรือ ที่เรียกติดปากกันว่าทางโค้งนาคะบุตร ซึ่งเป็นทางโค้งอันตรายที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง อยู่บริเวณหน้าสวนและร้านจำหน่ายมะขามหวาน “เด่นชัยกระต่ายเผือก”

                   ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ซูซูกิ เซียส สีขาว หมายเลขทะเบียน 7กค-8026 กรุงเทพมหานคร ชนอัดพับติดอยู่กับต้นมะขามริมทาง สภาพพังยับเยิน และมีหญิงสาวเสียชีวิตติดคาอยู่ภายในซากรถ บริเวณเบาะนั่งคนขับจำนวน 1 รายอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ต้องใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่าง เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา ประมาณ 30 นาที ทราบชื่อภายหลังตามบัตรประชาชนว่า คือ นางมัณฑนา พูลสวัสดิ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 172 ถนนวจี ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ สภาพศพ แขนขาผิดรูป นั่งคว่ำหน้าติดกับพวงมาลัยรถ และพบเงินสด ทองคำ และทรัพย์สินมีค่าจำนวนหนึ่ง อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จุดหนองไผ่ จึงนำร่างผู้ตายส่งชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลหนองไผ่

จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงคล้ายรถชนต้นไม้ดังสนั่น จึงพากันออกมาดู ก็ได้พบรถยนต์เก๋งชนอัดติดอยู่กับต้นไม้ข้างทาง และพบร่างหญิงสาวเสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ จึงโทรศัพท์แจ้ง 191 ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเบื้องต้นคาดว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่หรือ พนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ที่ทำงานธนาคารทางอำเภอโซนใต้ของจังหวัดเพชรบูรณ์ เนื่องจากภายในรถพบเครื่องแบบ หรือชุดยูนิฟอร์ม ลักษณะคล้ายพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าก่อนเกิดเหตุได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่ อ.หล่มสัก ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์  และขณะเกิดเหตุกำลังจะเดินทางกลับเพื่อมาทำงานในวันจันทร์ แต่พอมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งอันตราย อาจจะขับรถมาด้วยความเร็วจนรถเสียหลักหลุดโค้ง หรือไม่ก็อาจจะกำลังใช้โทรศัพท์มือถืออยู่ เนื่องจากตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ไม่พบว่ามีรถคู่กรณี

ภาพ/ข่าว ชัยวัฒน์ ปานนิล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เพชรบูรณ์ รายงาน