ไฟไหม้กุฎิสงฆ์วัดบ้านสะพุงวอนทั้งหลังพร้อมทรัพย์สิน

เกิดเหตุเพลิงไหม้กุฎิพระสงฆ์ วัดบ้านสะพุง อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ ขณะที่พระลูกวัดพับซองผ้าป่าอยู่ในใต้ถุนกุฎิ วิ่งหนีกระเจิง วอดไปทั้งหลังพร้อมทรัพย์สิน เงินสด สบง จีวร สังฆาติ โทรศัพท์มือถือ เงินสดที่โยมถวายสะสมไว้ ไหม้หมด

                               บ่ายของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 17.30 น. ได้เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้กุฎิสงฆ์ พระลูกวัดบ้านสะพุง ตำบลสะพุง อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ ขณะที่พระลูกวัดกำลังนั่งพับซองผ้าป่าอยู่ใต้กุฎิ จำนวน 5 รูป ได้ยินเสียงดังเปี๊ยๆ จากด้านบนกุฎิก็ไม่ได้พากันสงสัยอะไร นึกว่าแดดร้อนแรง เสียงสังกะสีลั่น จึงพากันนิ่ง ตั้งใจพับซองผ้าป่าที่จะนำไปแจกบอกบุตรผ้าป่าในช่วงวันสงกรานต์เดือนเมษายน 2563 ต่อไป จนได้กลิ่นเหมือนอะไรไหม้ และได้ยินเสียงดังพับๆ แรงขึ้น พร้อมกับพบว่าอากาศร้อนๆ มาจากด้านบนศรีษะ จึงพากันเดินออกมานอกใต้ถุนกุฎิหลังใหญ่ ขนาดกว้าง 10 เมตร ยาวกว่า 28 เมตร จึงพบว่าไฟได้ลุกไหม้จากด้านบนกุฎิแล้ว จึงพากันวิ่งหนีออกมาห่างจากกุฎิ ซึ่งกุฎิหลังนี้ เป็นกุฎิขนาดใหญ่ ด้านล่างเป็นใต้ถุนโล่งๆ ด้านบนแบ่งเป็นห้องๆ จำนวน 7 ห้อง เพื่อให้พระลูกวัดได้พักอาศัย ขณะเกิดเพลิงไหม้ไม่มีพระลูกวัดรูปไหนได้ทันสังเกต จึงไม่ได้นำทรัพย์สินเอาอะไรออกมาได้เลย เมื่อวิ่งหนีไฟออกมาห่างแล้วก็ร้องตะโกนว่าไฟไหม้ เจ้าอาวาส พระอธิการสมพร ยะติธโร เจ้าอาวาสวัด ก็ได้โทรแจ้งตำรวจ และได้แจ้งดับเพลิงเทศบาลศรีรัตนะ แจ้ง อบต.สะพุง และ อบต.ตูม ที่อยุ่ใกล้วัดที่สุด เพื่อให้นำรถดับเพลิงมาช่วยด่วน แต่ด้วยเหตุที่อำเภอศรีรัตนะ กำลังมีงาน เทศกาลวันข้าวโพดหวานอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้นำรถดับเพลิงออกมาล่าช้าไปบ้าง ทำให้เพลิงลุกไหม้วอดไปทั้งหลัง

                            ภายหลังจากที่ดับเพลิงจากเทศบาลศรีรัตนะ, อบต.สะพุง และ อบต.ตูม ได้รับแจ้งก็ได้เร่งนำรถดับเพลิงออกมาปฎิบัติหน้าที่ ฉีดน้ำเข้าดับเพลิง โดยใช้ระยะเวลาอยุ่ราว 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบลง ภายใต้ความเสียหายคือ กุฎิสงฆ์พระลูกวัด ขนาดใหญ่ วอดไปทั้งหลัง โดยได้สอบถามพระลูกวัด ทราบว่า กนอเกิดเหตุเพลิงไหม้ ได้ยินเสียงดังมาจากข้าวบนกุฎิ แต่ไม่ทราบว่าห้องไหน ก่อนที่จะพบว่าเพลิงไหม้โหมอย่างแรงแล้ว เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีรัตนะ ได้ปิดกั้นบริเวณกุฎิขนาดใหญ่ที่เกิดเพลิงไหม้ ไว้ให้เจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจภูธรจังหวัดได้เข้าตรวจสอบเก็บหาหลักฐาน เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้อีกครั้ง ความเสียหายนับล้านบาท ซึ่งไม่รวมสบง จีวร โทรศัพท์มือถือพระ เงินสดที่ญาตินำมาถวายเก็บสะสมไว้ ไม่ทราบจำนวน อื่นๆ ที่พระลูกวัด จำนวน 5 รูป ที่พักอาศัยอยู่บนกุฎิแห่งนี้ ที่แบ่งไว้มี 7 ห้อง ซึ่งไม่สามารถนำอะไรออกมาได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว 

ภาพ/ข่าว นายพงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ ผู้สื่อข่าว จ.ศรีสะเกษ