เพชรบูรณ์ – ไฟไหม้ป่าหญ้าข้างทางดับไม่สนิท ผ่านไป 1 วัน ปะทุอีกรอบกลางดึก ลุกลามเข้าบ้านเรือนประชาชน ที่อยู่ข้างเคียงถูกไฟไหม้ ได้รับความเสียหายวอดไปทั้งหลัง
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ขณะที่ ร.ต.อ.อาทิตย์ เกตุทอง รองสารวัตรสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร สภ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งว่า ได้เกิดเหตุไฟป่าลุกลามเข้าไหม้บ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่หมู่ 3 ต.บึงสามพัน อ.บึงสามพัน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมได้ประสานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลซับสมอทอด และองค์การบริหารส่วนตำบลบึงสามพัน จำนวน 2 คัน ให้มาช่วยฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้ จากนั้นจึงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ สายตรวจรถจักรยานยนต์ และหน่วยกู้ภัยสว่างบึงสามพันธรรมสถาน พบบ้านที่เกิดเหตุ เป็นบ้านไม่มีคนอยู่อาศัยและไม่มีไฟฟ้าใช้ เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงเป็นชั้นๆ ใช้เป็นโกดังเก็บแผ่นไม้กระดานเก่า ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่ารกทึบด้านทิศตะวันตกเชื่อมติดกับป่าหญ้าข้างทาง ของเส้นทางหลวงหมายเลข 21 ถนนสายสระบุรี-หล่มสัก ฝั่งขาล่องมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร บริเวณฝั่งตรงข้ามปั้มน้ำมัน ปตท. หมู่ที่ 3 บ้านคลองปล้น ต.บึงสามพัน อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ส่วนทางทิศตะวันออกเป็นพื้นที่ป่าที่มีหญ้าขึ้นรกสูง เชื่อมต่อกับพื้นที่ปลูกไร่อ้อยที่ได้ถูกไฟไหม้ไปเมื่อวานนี้แล้ว โดยรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลซับสมอทอด และองค์การบริหารส่วนตำบลบึงสามพัน จำนวน 2 คัน ต้องใช้เวลาประมาณกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้สงบ ไม่ลุกลามไปติดอาคารพาณิชที่อยู่ใกล้เคียงได้
จากการตรวจสอบ พบบ้านที่เกิดเหตุและแผ่นไม้กระดานที่เก็บไว้ภายในบ้าน ได้ถูกเพลิงไหม้เสียหายวอดไปทั้งหมด เหลือเพียงหีบเหล็กที่ภายในบรรจุรูปหล่อพระผงเนื้อดินเผาจำนวนหลายหีบ โดยบางหีบรูปหล่อพระผงยังมีสภาพที่สมบูรณ์อยู่ โดยมีรังผึ้งหลวงและตัวอ่อนปกคลุมอยู่ด้านบน ท่ามกลางความโล่งอกโล่งใจ ของบรรดาเจ้าของร้านค้าที่อยู่ในอาคารพาณิชย์ ที่หวั่นเกรงว่าไฟอาจจะลุกลามมาถึงตัวอาคารได้
ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า เกิดจากไฟป่าที่ลุกไหม้ใกล้จุดเกิดเหตุตั้งแต่เมื่อวานนี้ ได้คุกรุ่นลุกขึ้นมาไหม้ป่าหญ้าและลามไปติดบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากไม่มีคนอาศัยอยู่ และกว่าจะมีคนเห็นและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไฟก็ไหม้บ้านหลังดังกล่าวแล้ว
ด้าน นายอานนท์ เนตรอิ่ม อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 35/4 หมู่ 3 บ้านคลองปล้น ต.บึงสามพัน อ.บึงสามพัน เล่าว่า สองวันแล้วที่ต้องคอยเฝ้าระวังไฟที่ลุกไหม้ป่าหญ้า และไร่อ้อยที่อยู่ล้อมรอบด้านหลังอาคารพาณิชย์ของตน ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าต้นเพลิงมาจากไหนและเกิดขึ้นได้อย่างไร ช่วงบ่ายเมื่อวานไฟลุกไหม้น่ากลัวมาก ตนได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ช่วยประสานขอรถดับเพลิงเพื่อมาสกัดไฟ มีรถดับเพลิงจากเทศบาลซับสมอทอด และ อบต.บึงสามพัน มาฉีดน้ำจนไฟดับ แต่น่าจะยังมีเชื้อไฟระอุอยู่ด้านล่าง เมื่อถูกลมพัดทำให้ไฟเกิดประทุขึ้นมาอีกจนลุกลามเข้าไหม้บ้านไม้ที่ไม่มีผู้อยู่อาศัย เจ้าของบ้านทำเป็นโรงเก็บไม้กระดานเก่า จนวอดไปทั้งหลัง
ภาพ/ข่าว ชัยวัฒน์ ปานนิล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เพชรบูรณ์ รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง