โจรสุดเหิม ตระเวนกระชากสร้อย 2 รายใน 2 พื้นที่

                     วันที่ 22 ก.พ. 2563 ตามที่มีการแชร์ลงข้อความขอความช่วยเหลือความเดือดร้อนของผู้ใช้เฟสบุ๊ค 2 ราย ชื่อ Rujira Chengsawat และ Kayua Saetno จากการที่ถูกคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ขี่ประกบ พอสบโอกาส กระชากสร้อยคอทองคำ แล้วขับหลบหนีไปอยากไร้วี่แวว ทำให้ผู้ได้รับความเสียหาย เสียขวัญ เป็นอย่างมาก

รายแรกเจ้าของเฟสบุ๊คชื่อ Kayua Saetno  ได้ลงรายละเอียดเหตุเกิดวันที่ 17/02/2563 เวลาประมาณ 11:30 หนูกับพี่สาวได้ไปทำธุระที่โรงพยาบาลพระพุทธบาทมาระหว่างทางกลับบ้านพี่สาวเป็นคนขับส่วนหนูเป็นคนซ้อนแล้วขี่รถจักรยานยนต์มาจนถึงหน้าสุกรทอง ก่อนจะถึงปั้มน้ำมัน ปตท.ได้มีคนร้ายขี่รถมาประกบด้านข้าง คนร้ายใส่เสื้อสีน้ำเงินแขนยาว กางเกงยีน ใช้ผ้าปิดหน้า รถไม่ติดป้ายทะเบียน แล้วใช้มือซ้ายกระชากสร้อยคอพี่สาวไป ทองหนัก 1บาท พระเลี่ยมทองสองด้านหลวงพ่อใหญ่(มนุษย์เหนือโลกวัดถ้ำกระบอก)อีกด้านหลวงพ่อจรูญ แล้วเร่งรถขี่หลบหนีไปหนูกับพี่สาวได้ขี่รถไล่ตามหลังจนถึงทาง ยูเทิร์นหน้าโรงเรียนธารทองแดงหนูกับพี่สาวคลาดกับคนร้ายตรงจุดนั้นคนร้ายได้ย้อนกลับมาทางพระพุทธบาท ขณะนี้ก็ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธพระพุทธบาทแล้วแต่ยังไม่ได้ตัวคนร้าย ถึงแม้พี่สาวจะไม่ได้ทองคืนไม่เป็นไรค่ะแต่ขอแค่จับคนร้ายได้ไม่อยากให้มีคนแบบนี้อยู่ในสังคมไทยค่ะ##ช่วยแชร์ให้ด้วยนะคะไม่อยากให้ไปทำกับคนอื่นอีก##หรือถ้าหากใครมีเบาะแสหรือกล้องหน้ารถเหตุการณ์วันนั้นกรุณาติดต่อกลับมาทางเฟสนี้ด้วยค่ะ

รายที่ 2 ชื่อ Rujira Chengsawat ได้ลงรายละเอียดเหตุไว้ดังนี้#ฝากแชร์ด้วยค่ะ_ใครพบลักษณะรูปพรรนคนในรูปแจ้งด้วยค่ะคนในภาพได้ก่อเหตุ กระชากสร้อยคอทองคำ เมื่อวานจุดเกิดเหตุ บริเวณ หน้าโรงเรียนเทพศิรินทร์พุแค

วันที่ 20/02/2563 เวลาประมาณ 17.05-17.06 น.ซึ่งเมื่อวาน เรามีงานเต้นที่ลพบุรีจึงได้มานั่งรอรถอยู่บริเวรหน้าโรงเรียนเทพฯ คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีคนร้ายซุ่มดูลาดราวเพิ่งชิงทรัพย์ปะปนอยู่ด้วย จังหวะที่เรามา เป็นเวลาเดียวกันกับเด็กนักเรียนกำลังเลิกเรียน และเดินออกจากประตูรั้วโรงเรียนพอดี เวลาประมาณ 15.48 น. ช่วงนั้นคนเยอะ รถเยอะ และดูชุนมุนมากๆ ซึ่งเราเองก้แต่งตัวล่อแหลม ไม่ได้แต่งตัวมิดชิด จึงเป็นจุดเด่นของโจร เราคาดว่ามันน่าจะมาดูลาดราว ทำเป็นมาจอดรถรวมกับผู้ปกครอง แล้วหาจังหวะเหมาะๆ คนไม่ค่อยมีแล้วลงมือก่อเหตุมาชิงทรัพย์ เพราะเราซึ่งนั่งเร่นโทรศัพท์อยู่ก็ไม่ทันระวังและสังเกตเท่าไหร่ เพราะเรานั่งอยู่นานเป็นชั่วโมง จังหวะที่คนร้ายลงมือ มันขับรถมาข้างหลังเรา แต่ขับมาใกล้กับเรามาก ซึ่งเราหันไปมอง มันก้กระชากสร้อยที่คอเรา ด้วยความตกใจ เราร้องกรี๊ด และคว้าสร้อยไว้ ทำให้มันได้สร้อยไปบางส่วน เหตุการณ์นี้ทำให้เราขวัญเสีย จำผิดจำถูก แต่เราเห็นหน้าคนร้ายเพราะมันเปิดหน้ากากหมวกกันน็อคตอนลงมือก่อเหตุ หลังจากก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถหนีเข้าซอยข้างโรงเรียนเทพฯ เราคิดว่าน่าจะชำนานทางพอสมควร จึงรู้เส้นทางหลบหนี จากที่เราไปสอบถาม รปภ. ทางโรงเรียน กล้องหน้าโรงเรียนเสีย แต่ยังมีกล้องตามซอยที่คนร้ายหนี ขอให้จับมันได้ไอ่พวกขยะสังคม  ปีที่แร้วก้เส้นนึง 50 สต.พร้อมจี้ทองหลวงปู่ทวด ปีนี้ก้โดนอีก เข็ดแร้วจริงๆ สังคมอยู่ยาก คนเป็นโจรกันเกลื่อนถนน พวกภัยสังคม (ทองที่โดนกระชาก นน.50 สต. แต่คนร้ายได้ไปบางส่วน นน.เดิม 7.6 g.เราไปชั่งร้านทองเมื่อกี้ เหลือ 5.95 g. ) กว่าจะทำงานเก็บเงินซื้อมาได้ ต้องมาเจอคนมักง่ายมาเอาของเราไปแบบนี้ แย่ที่สุด ที่ซื้อทองเก็บไว้เพราะกะเอาไว้จำนำยามที่เราจำเป็น เห้ออออ ฟาดเคราะห์ครั้งแร้วครั้งเล่า #ถ้ากล้องตรงหน้าโรงเรียนไม่เสียคงได้เบาะแสมากกว่านี้ #ฝากด้วยนะคะตรงนั้นเด็กนักเรียนเยอะ #ทางโรงเรียนช่วยดูแลนิดนึงค่ะหาคนร้ายมีอาวุธ #แล้วมีคนมาเจอเหตุการณ์แบบเราคงลำบากในการจับกุม#เราได้ไปดูกล้องวงจรปิดและแจ้งความไว้เบื้องต้นแร้ว#ทั้งนี้เรายังไปร้านทองเพื่อสอบถามว่ามีคนเอาสร้อยมาขายหรือป่าว#หากมีลักษณะคนนำสร้อยที่ขาดมาขายให้ติดต่อเราด้วย #ยังมีอีก1คดีก่อนหน้าเรา3วันรายนั้นได้ไปทั้งเส้นน้ำหนัก1บาทพร้อมจี้พระ #จุดเกิดเหตุอยู่ที่อำเภอพระพุทธบาทใกล้ๆกัน#จากที่ดูลักษณะคนร้ายคล้ายกันกับที่เราโดนเมื่อวาน เรายังคงหาเบาะแสคนร้ายอยู่ หากใครเจออะไรเพิ่มเติมช่วยติดต่อกลับด้วย

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณหน้าโรงเรียนเทพศิรินทร์พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี พบกับนายธรรมนูญ   อธิวรเศรษฐ์ อายุ 56 ปี  รปภ.ของโรงเรียนเทพศิรินทร์พุแค เล่าว่า ช่วงที่เกิดเหตุเห็นผู้เสียหายได้พยายามวิ่งตามคนร้ายที่กระชากสร้อย แต่ตามไม่ทัน คนร้ายขับขี่หลบหนีไปไวมาก ขับไปทางซอยข้างโรงเรียน จึงได้ไปสอบถามร้านค้าหาดูภาพกล้องวงจรปิด ร้านค้าได้แนะนำให้มาขอดูภาพวงจรปิดจากทางโรงเรียน แต่กล้องวงปิดของโรงเรียนเสีย เนื่องจากถูกฟ้าผ่าลง ตนเองจึงแนะนำให้ไปขอดูที่ร้านค้า ส่วนภาพคนร้ายที่ก่อเหตุกระชากสร้อย ตนเองเคยเห็นลักษณะชายดังกล่าวแต่นานแล้ว เพราะว่าเขาไม่เหมือนใคร เพราะว่ามีลอยสักที่หน้าและตามลำตัวเต็มไปหมด และดำผอม บุคคลนี้หน้ากลัว แต่ก็ได้สอบถามผู้เสียหายหลังจากที่ได้ดูรูปภาพ บอกเหมือนเลย

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ นางสาวรุจิรา เพ็งสวัสดิ์ อายุ 30 ปี เจ้าของเฟสบุ๊ค ชื่อ Rujira Chengsawat ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและฝากเตือนถึงทุกคน อย่าพยายามใส่ของมีค่าคือการแต่งตัวล่อแหลม เพราะว่าตัวเองก็ไม่ทันระวังเพราะว่าตนเองแต่งตัวจะไปทำงาน ตนเองใส่เครื่องประดับเห็นโชว์ชัดเจน

ภาพ/ข่าว เกียรติยง อัศวราศี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค คมชัดลึก จ.สระบุรี