รวบชาวกัมพูชา5 คน พร้อมคนไทยแอบพาลักลอบเข้าไทย จ.สระแก้ว 

                                                 เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 19 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.จว.สระแก้ว, พ.ต.ท.สาโรจน์ ติระกิจพานิชย์ รอง ผกก ตม.จว.สระแก้ว, พ.ต.ท.ญาณกวี ประวัติภักดี สว.ตม.จว.สระแก้ว, ร.อ.ศานิตยพล บู่ศรี ผบ.ร้อย ทพ.1203, ร.ต.โกศล คนตรง รอง ผบ.ร้อย ทพ.1203 ชค.ทพ.12 , สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตม.สระแก้ว นำโดย ร.ต.อ.อิทธิกร อัฐนาค รอง สว.ตม.จว.สระแก้ว และ ด.ตประสาร บุญโย , ด.ต.กิตติศักดิ์ วรรณโค ผบ.หมู่ฯ ,ด.ต.สมชาย ชูสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.1203 ชค.ทพ.12 ส.อ.พรชัย ขาวนิล ผบ.ชปข. ,อส.ทพ.วินัย ไล่กระโทก ได้ร่วมกันจับกุม นายเอกลักษณ์ ปานเจริญศักดิ์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 ม.3 ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ขณะนำพาแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 5 คน โดยจับกุมได้ที่บริเวณจุดตรวจบ้านอ่างศิลา ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พร้อมรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้ารุ่นซีวิค สีบอร์นทอง หมายเลขทะเบียน กท-8990 ปทุมธานี 

                          ทั้งนี้ จากการสอบสวนทราบว่า ชาวกัมพูชาที่จับกุมได้ ประกอบด้วย นายสุขา ไพ อายุ 34 ปี ที่อยู่ บ.ระแวงเกิด ต.บังกลบะรัย อ.บังกลบะรัย จ.บันเตียเมียนเจย , นายทอน สาย อายุ 27 ปี ที่อยู่ บ.ระแวงเกิด ต.จำนอม อ.บังกลบะรัย จ.บันเตียเมียนเจย , นายนา วี อายุ 27 ปี ที่อยู่ บ.ระแวงเกิด ต.บงกุนบูล้ย อ.บงกุนบูลัย จ.บันเตียเมียนเจย ,นายจัน ทัมเมียน อายุ 28 ปี ที่อยู่ บ.ระแวงเกิด ต.บงกุนบูล้ย อ.บงกุนบูลัย จ.บันเตียเมียนเจย ,และ น.ส.สมุกที รนจัทร์ที อายุ 28 ปี ที่อยู่ บ.ระแวงเกิด ต.บงกุนบูลัย อ.บงกุนบูลัย จ.บันเตียเมียนเจย ซึ่งทั้งหมดไม่มีพาสปอร์ตหรือเอกสารอื่นแต่อย่างใด โดยรับสารภาพว่า ได้ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรทางด้านชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่าง โอบายจวน-บ้านโนนหมากมุ่น โดยมีนายเอกลักษณ์ เป็นผู้มารับ บริเวณแนวชายแดน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาผู้ถูกจับชาวไทยว่า "ให้ความช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้าออกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย" ม.64 พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และชาวกัมพูชาอีก 5 คน ถูกแจ้งข้อหาว่า "เป็นคนต่างด้าว(กัมพูชา)เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต" จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.โคกสูง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข่าวโดย/ยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว