ชาวสวนยางสงสารต้นยางพารา น้ำยางออกน้อยแต่จำใจต้องทำ

 

            วันที่ 19 ก.พ. 2563 ที่ร้านรับซื้อน้ำยางพาราสด บ้านนาท่อม หมู่ 4 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นายมานิตย์ ทองอ่อน อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 1 หมู่ 4 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช  หนึ่งในชาวสวนยางที่นำน้ำยางสดมาขายให้กับพ่อค้าที่เปิดจุดรับซื้อน้ำยางสดในหมู่บ้าน ทั้ง ๆ ที่อยู่ในช่วงปิดกรีด แต่ชาวสวนยางส่วนมากยังต้องฝืนกรีดยางพารา เนื่องจากมีความจำเป็นต้อหารายได้เลี้ยงครอบครัว

 

 

 

 

                       นายมานิตย์ ทองอ่อนกล่าวว่า  ถึงแม้ในช่วงนี้จะเป็นช่วงปิดกรีดกันแล้วเนื่องจากเข้าหน้าแล้ง น้ำยางในต้นยางพาราไม่ค่อยจะมีออกมาให้ผลผลิตรเท่าไหร่แล้ว แต่ตนและชาวสวนยางจำนวนหนึ่งที่ยังฝืนกรีดน้ำยางต่อไปเรื่อย เนื่องจากเป็นอาชีพเดียวที่หาเลี้ยงครอบครัว ถึงแม้ในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงปิดกรีดจะไม่ค่อยมีน้ำยางออกมาจากลำต้น แต่ก็ยังจำเป็นต้องฝืนกรีด อย่างน้อยก็เป็นรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆเพื่อเลี้ยงครอบครัว ซึ่งแม้น้ำยางไม่มีแต่ลูกยังต้องไปโรงเรียน คนในครอบครัวยังต้องกินต้องจ่ายทุกมื้อ หากน้ำยางหมด แต่น้ำตาต้องไหลแทนอย่างแน่นอน

 

 

 

 

                     ในปัจจุบันเป็นยุคข้าวยากหมากแพง สิ่งของอุปโภค บริโภคทุกอย่างราคาแพงขึ้น เนื้อหมู กิโลละ 130-150  บาท แต่ราคาน้ำยาง กิโลละ 39 บาท ทำให้ชาวสวนยางรายย่อยรวมถึงลูกจ้างกรีดยางที่มีรายได้น้อยต้องเดือดร้อนไปตาม ๆ กัน  ชาวสวนยางอยากได้ราคาอย่างน้อย ก.ก.ละ 60 บาท ถึงจะพออยู่ได้ไม่เดือดร้อนในการยังชีพมากนัก  อย่างไรก็ตามถึงแม้ราคาจะตกต่ำลงมากแค่ไหน และช่วงปิดปรีดน้ำยางไม่ไหลมากเหมือนปกติ  แต่ก็จำเป็นต้องฝืนใจอดทนก้มหน้ากรีดยาง หาเงินเลี้ยงครอบครัวให้อยู่รอดไปวันหนึ่ง ๆ ก็พอ ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ต้องทนกันต่อไปจนกว่าจะตายจากกันก็จะหมดภาระ หมดทุกข์.

 

 

ภาพ/คลิปทีมข่าวทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช

ยุทธนะ  เตมะศิริ นครศรีธรรมราช