ไฟไหม้ป่าหญ้าหลายจุด ทำศาลาที่พักริมทางหวิดวอด คาดมีคนจุดเผา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท จะออกประกาศให้พื้นที่จังหวัดชัยนาท ทั้งจังหวัดเป็นเขตควบคุมไฟป่า และให้งดเผาในที่โล่งแจ้งทุกกรณี   แต่พบว่าหลายพื้นที่  ยังมีการจุดไฟเผาป่า และเผาหญ้าข้างทาง กันอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เกิดควันไฟจำนวนมากลอยสู่ชั้นบรรยากาศ  และบางจุดไฟลุกลามจนเกือบจะไหม้บ้านเรือนประชาชน  โดยเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุไฟไหม้ป่า และไหม้หญ้าข้างทาง ในเวลาไล่เลี่ยกันหลายจุด ทั้งในพื้นที่อำเภอสรรคบุรี  อำเภอสรรพยา และ อำเภอเมืองชัยนาท  ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ต้องเร่งช่วยกันดับไฟที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว 

 โดยจุดที่เกิดไฟไหม้หญ้าข้างทาง ริมถนนสายชัยนาท-วัดสิงห์  ต.ท่าชัย อ.เมืองชัยนาท  ไฟได้โหมลุกไหม้ไปตามกระแสลมอย่างรวดเร็ว  ทำให้ควันไฟจำนวนมากลอยปกคลุมเข้าไปในหมู่บ้าน   ไฟยังลุกลาม เกือบจะไหม้ศาลาที่พักริมทาง โชคดีที่ชาวบ้านช่วยกันนำน้ำใส่ถังออกไปดับไฟที่จะไหม้ศาลาได้ทัน   และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ได้นำรถดับเพลิง 2 คัน เข้าฉีดน้ำดับไฟ  ก่อนไฟจะลุกลามเข้าใกล้บ้านเรือนประชาชน    

ชาวบ้าน ต.ท่าชัย  บอกว่า นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่เกิดเหตุไฟไหม้บริเวณนี้ โดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนจุดไฟเผา หรือ มีใครทิ้งก้นบุหรี่ จนทำให้เกิดไฟไหม้ลุกลาม    จึงขอร้องผู้ที่กระทำเช่นนี้ ให้หยุดการกระทำ  เพราะทำให้ชาวบ้านและผู้ใช้ถนน ได้รับความเดือดร้อน ทั้งจากควันไฟที่ลอยปกคลุมไปทั่วหมู่บ้านและท้องถนน  และหากดับไฟไม่ทัน อาจทำให้ลุกลามไหม้บ้านเรือนประชาชน และทรัพย์สินทางราชการเสียหายได้   

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563    นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท  ได้ออกประกาศให้พื้นที่ทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดชัยนาท เป็น “เขตควบคุมไฟป่า”  สั่งงดเว้นการเผาป่า  เผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เผาขยะมูลฝอย เผาวัชพืชข้างทาง และการเผาในพื้นที่โล่งแจ้งทุกกรณี ในพื้นที่จังหวัดชัยนาท   ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563   เพื่อแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าที่ปกคลุมในพื้นที่ และปัญหาค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5  ที่มีปริมาณเกินกว่าค่ามาตรฐาน ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน  หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

ภาพ/ข่าว  ชฎารัฐ จันทร์พาหิรกิจ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ชัยนาท