เปิดใจคนขับรถโรงเรียนดังหลังชายขับรถยนต์กระบะชักปืนข่มขู่

                             วันที่ 12 ก.พ. 2563  เปิดใจพนักงานขับรถยนต์  โรงเรียนดังอ่างทอง  หลังเกิดเรื่องกระทบกระทั่งกันบนท้องถนนกับผู้ที่ขับรถยนต์กระบะ  ที่ข้างประตูมีตราของ อบต. ดังในจังหวัดสิงห์บุรี  ได้ชักอาวุธปืนข่มขู่  ดีดขี้บุหรี่ใส่หน้า  และด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย  เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนสายเอเชีย  กิโลเมตรที่ 67  อำเภอพรหมบุรี  จังหวัดสิงห์บุรี  ก่อนที่คู่กรณีรายดังกล่าวจะขับรถยนต์กระบะตามไปบุกโวยต่อถึงในโรงเรียน  เจ้าตัวเห็นความไม่ปลอดภัย  เดินทางไป สภ.ไชโย  เข้าแจ้งความบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน  โดย  นาย บ. นามสมมุติ  เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า  ตนเองได้ถูกคนขับรถยนต์กระบะ  ใส่เสื้อสีเขียว  นุ่งกางเกงสีดำ  รูปร่างสูง อายุ 50 - 55 ปี  ที่รถยนต์กระบะ  ยี่ห้อโตโยต้า  รุ่นวีโก้  สี่ประตู  สีดำ  ทะเบียนสิงห์บุรี  ข้างประตูมีตราสัญลักษณ์ของ อบต.แห่งหนึ่ง  ในจังหวัดสิงห์บุรี  ได้ชักปืนแบบแม็กกาซีน  ออกมาข่มขู่  หลังจากที่ตนเองได้ขับรถบัสของโรงเรียน  ไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์ในจังหวัดอ่างทอง  แล้วกำลังเดินทางกลับโรงเรียน

                              โดยขณะที่กลับรถบัส  ที่บริเวณจุดกลับรถบนถนนสายเอเชีย  หลักกิโลเมตรที่ 67  รอยต่อของอำเภอพรหมบุรี  จังหวัดสิงห์บุรี  และอำเภอไชโย  จังหวัดอ่างทอง  ตนเองเนว่าถนนว่างและมีรถยนต์วิ่งมาไกล  ตนเองจึงได้กลับรถเพื่อที่จะกลับโรงเรียน  พอดีรถยนต์กระบะ  ยี่ห้อโตโยตา  สี่ประตู  สีดำ  หมายเลขทะเบียนจังหวัดสิงห์บุรี  ซึ่งผู้ขับขี่ไม่พอใจ  และได้เร่งเครื่องยนต์ขับตามมา  พร้อมกับปาดหน้ารถบัสที่ตนเองขับขี่  และคนขับรถยนต์กระบะ  ยี่ห้อโตโยต้า  รุ่นวีโก้  สีดำ  ได้เดินลงมาพร้อมชักอาวุธปืนแมกกาซีนมาข่มขู่ตนเองที่นั่งอยู่บนรถบัส

                   โดยใช้ปืนยื่นเข้ามาที่นั่งคนขับบริเวณใบหน้าของตนเอง  แล้วต่อว่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคายและดีดขี้บุหรี่ใส่หน้าของตนเอง  เบื้องต้นตนเองได้ทำการขอโทษและไม่ได้โกรธคู่กรณีแต่อย่างไร  คิดว่าเป็นความผิดของตนเอง  ที่ทำให้คู่กรณีโกรธแล้วคิดว่าเรื่องคงจบไปแล้ว  แต่ผิดคาดคู่กรณียังโมโหไม่หยุดและไม่ยอม  จึงได้ขับรถยนต์ตามมาเพื่อเอาเรื่องต่อที่โรงเรียน  ทำให้ตนเองหวาดกลัวและคิดว่าตนเองไม่ปลอดภัย  จึงได้โทรศัพท์แจ้ง 191  และได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ไชโย  เพื่อความปลอดภัยของตนเอง  ส่วนคู่กรณีได้ขับรถยนต์หลบหนีหายออกไป

ภาพ/ข่าว : ศุภเสกข์  แสงตระการ  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  จ.อ่างทอง