หนุ่มบุรีรัมย์ สร้างไร่สตอเบอรี่พร้อมพันธุ์ดอกไม้สวยๆ

หนุ่มวัย 38 ปี อยู่ จ.นครราชสีมามาหลายปี เดินทางย้ายถิ่นมาที่ จ.บุรีรมย์ หันมาทำไร่สตรอเบอรี่ สายพันธุ์พระราชทาน 80 พร้อมกับเปิดเป็นชื่อไร่สตรอเบอรี่ลาวา บุรีรัมย์ ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกับใครในพื้นที่ อาศัยความรู้ด้านการเกษตรติดตัวมาช่วยกันทำไร่ปลูกสตรอเบอรี่ เพื่อจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว ผลผลิตเริ่มออกให้บริการนักท่องเที่ยวบ้างแล้ว พบมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปชมไร่สตรอเบอรี่ลาวา และถ่ายรูปกันไม่ขาดสายทุกวัน

วันนี้(10 ก.พ.2562) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังถนนสายบุรีรัมย์-นางรอง บ้านบัว หมู่ 18 ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ทีมข่าวได้พบกับนายสิทธิพงษ์ ธรรมชาติอุดม อายุ 38 ปี เป็นชาว จ.นครราชสีมา เดินทางย้ายถิ่นฐานมา จ.บุรีรมย์โดยได้มาหาซื้อที่ดินได้บริเวณนี้ พร้อมกับได้ซื้อกล้าพันธุ์สตรอเบอรี่ สายพันธุ์พระราชทาน 80 โดยได้ทำการปลูกบ้านหลังเล็กเพื่อไว้เป็นที่หลับนอน และแบ่งโซนเปิดเป็นร้านจำหน่ายสตรอเบอรี่สด และสตรอเบอรี่ แปรรูปมีหลากหลายชนิดและให้เข้าเก็บสตรอเบอรี่กัน ชื่อร้านไร่สตรอเบอรี่ลาวา บุรีรัมย์ ซึ่งได้เปิดให้เข้าเก็บค่าเข้าชมท่านละ 20 บาท ส่วนสตรอเบอรีจำหน่ายขีดละ 60 บาท เพื่อเป็นค่าบำรุงต้นสตรอเบอรี่ของทางไร่ จะได้มีค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อดอกไม้สวย ๆ มาให้ท่านได้ชมได้ถ่ายรูปสวยกันต่อไป ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นมาก ๆ

นายสิทธิพงษ์ ธรรมชาติอุดม กล่าวว่า ตนเองมาทำไร่สตรอเบอรี่ สายพันธุ์พระราชทาน 80 มาได้ประมาณ 3-4 เดือนแล้ว สตรอเบอรี่ที่ปลูกกำลังให้ผลผลิตมาเป็นปีแรก นอกจากนี้ตนเองยังได้จัดมุมไว้ให้ผู้ที่จะมาเที่ยวชมไร่สตรอเบอรี่ ได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกันอีกด้วย ซึ่งในแต่วันยังมีนักท่องเที่ยวเดินชมแล้วสามารถเก็บผลสตรอเบอรี่ ด้วยตนเอง ก่อนจะนำมาชั่งน้ำหนักตามความต้องการของนักท่องเที่ยวอีกด้วย ซึ่งผลผลิตน่าจะออกได้เต็มที่ประมาณเดือน ธันวาคม-ถึงเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่จะมีอากาศหนาวเย็น ซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไร่แห่งนี้

จึงอยากฝากไปถึงนักท่องเที่ยว เวลานี้ชมดอกไม้สวยๆและได้ถ่ายรูปสวยกัน ไม่ต้องไปไกลถึงเชียงใหม่ จ.บุรีรัมย์ ที่บ้านบัว ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรัรมย์ ติดถนนสาบบุรีรัมย์-นางรอง ก็มีไร่สตรอเบอรี่ เชิญให้นักท่องเที่ยวได้ชมและเลือกซื้อกันแล้วแวะมาชมกันได้แล้ว รสชาดของสตรอเบอรี่ ก็ดีมากไม่แตกต่างกับทางภาคเหนือเลย โดยนักท่องเที่ยวสามารถไปเก็บได้ด้วยตนเอง แล้วนำมาชั่งกิโลนำกลับไปรับประทานที่บ้านได้ ส่วนราคาก็ไม่แพงอีกด้วย คิดขีดละ 60 บาท หรือโทรมาสอบถามได้ที่เบอร์โทร. 098-7532977

ภาพ/ข่าว: รมิตา สิงหเสรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดสุรินทร์