สุดจะทน ควันไฟเผาถ่านคลุ้งกระจายไปทั่วหมู่บ้าน จนชาวบ้านต้องเป็นภูมิแพ้ โร่ร้องสื่อช่วยหลังร้องเรียนแล้วไร้ผล
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนาง สมพร สุขบรรเทิง อยู่บ้านเลขที่ 29 ม.7 บ้านแคน ต.นาหนองไผ่ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ว่า มีคนเผาถ่านในหมู่บ้าน เผากันเยอะมากหลายเจ้า ทำให้มีควันคลุ้งไปทั่วหมู่บ้าน โดยเเถวบ้านที่อยู่มีแต่คนแก่กับเด็กน้อย ทำให้เด็กเป็นโรคหอบหืดต้องเข้าโรงพยาบาล ได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านกับผู้ช่วยแล้ว แต่พอไปบอกคนเผา แล้วเขาก็ว่าคนอื่นเผาได้เขาก็เผาได้ เป็นแบบนี้มา 10 ปีแล้ว จนตอนนี้หลานถึงกับต้องพาไปดูดเอาขี้เถาออกที่โรงพยาบาล พอไปบอกเขาก็ด่าว่า ตอนนี้เดือดร้อนมาก ยิ่งถ้าวันไหนเตาเผาแตกควันจะเยอะมาก จนหายใจแทบไม่ได้ เดือดร้อนมากๆ ร้องเรียนทุกปีแต่ก็ไม่มีหน่วยงานไหนช่วยได้เลย
โดยผู้ร้องได้เล่าต่อว่า พื้นที่ที่เผาถ่านนั้นอยู่ห่างจากบ้านตนเพียง 300 เมตร เป็นบริเวณท้ายหมู่บ้านทางเข้าป่า เป็นพื้นที่สาธารณะของหมู่ 7 ที่ชาวบ้านในหมู่ 7และหมู่อื่นๆอีกหลายเจ้าเข้ามาเผาถ่านในบริเวณนี้ เคยแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านได้เคยไปตักเตือนกลุ่มคนเผาถ่านหลายรอบแล้ว แต่คนเผาถ่านก็ไม่ฟังและยืนยันที่จะทำต่อ โดยจะเผากันทั้งวันทั้งคืนไปจนถึงฤดูฝน ซึ่งถ่านที่เผานั้นชาวบ้านจะเผาไปใช้กันเอง ทำให้เกิดผลกระทบในเรื่องของสุขภาพคือ เด็กๆส่วนใหญ่จะป่วยเป็นโรคหอบหืด เพราะต้องสูดดมกลิ่นและควัน ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบคือ ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ติดแถบคลองเท่านั้น มีประมาณ 6-7 หลังคาเรือน ประมาณ15 คน ซึ่งเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2563 ก็ได้เคยแจ้งเรื่องไปทางเพจศูนย์ดำรงค์ธรรมแล้ว ตอนนี้ชาวบ้านจึงอยากจะขอพึงสื่อฯอีกทาง เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้
ซึ่งหลังจากทราบเรื่อง ผู้สื่อข่าวก็ได้เดินทางไปตรวจสอบยังจุดที่ได้รับแจ้งมา ที่ ม.7 บ้านแคน ต.นาหนองไผ่ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งก็ได้พบกับนาง สมพร สุขบรรเทิง ผู้ร้องเรียน และได้นำไปดูจุดที่มีการเผ่าถ่าน ซึ่งก็พบว่ามีเตาเผาถ่านอยู่เป็นจำนวนมากนับ 10 เตา และยังมีไม้ที่ตัดมาเป็นท่อนๆจำนวนมากวางกองรวมกันอยู่ ซึ่งผู้ร้องบอกว่า ในช่วงนี้เขาจะหยุดเผาเพราะตนได้ร้องเรียนไปอีกครั้ง หลังจากที่หลานต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วยอาการหอบหืด เนื่องจากต้องสูดดมควันจากการเผาถ่านมาเป็นเวลานานหลายวัน แต่หลังจากเรื่องเงียบไปสักพัก เขาก็จะเผากันต่อ สังเกตได้ที่ไม้ที่เพิ่งจะตัดมากองเอาไว้จำนวนมากนี้ ก็แสดงให้เห็นว่า พวกเขาไม่หยุดเผาอย่างแน่นอน ซึ่งตนไม่ได้ห้ามไม่ให้เผา เข้าใจดีว่าเขาต้องการถ่านเอาไว้ใช้กัน แต่ก็ควรที่จะไปเผาให้ไกลกว่านี้หน่อย ไม่ใช่เผากันใกล้ๆหมู่บ้าน ซึ่งคนที่รับกรรมคือคนที่มีบ้านอยู่ใกล้ๆกับบริเวณที่เขาเผาถ่านกันอยู่นี้ จึงอยากจะขอวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาจัดการเรื่องนี้ให้ด้วย จะได้หมดปัญหากันเสียที คนที่อยู่แถวนี้จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนกันอีกต่อไป
ภาพ/ข่าว ชูชัย ดำรงสันติสุข – สุทิศ บุญยืน จ.สุรินทร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง